บทที่ 9 อิจฉา

1403 Words
ผ่านไป 15 นาที ทอฝันตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวข้างเดียว อาจเป็นเพราะเมื่อเช้า ก่อนมาเกาะตื่นเช้ามากเกินไป และตอนนี้ได้งีบเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น “โอ้ย” เธอสะบัดหัวเบา ๆ จากนั้นลุกขึ้น เดินไปยังสถานที่ ๆ พายุ ไดม่อน เอริคนัดเอาไว้ เธอเดินมาและนวดคลึงขมับไปด้วย จนมาถึง ลานใต้ต้นมะพร้าว ริมหาดใกล้บ้านพัก แสงแดดอ่อน ลมทะเลพัดเอื่อย พายุ ไดม่อน เอริค นั่งคุยกันอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ พร้อมขนม ผลไม้ และน้ำเย็นใส่กระติกวางข้างตัว ตึก ตึก ตึก! เสียงฝีเท้าเดินมาเบา ๆ พร้อมเสียงถอนหายใจ ทอฝันเดินนวดขมับซ้ายไปด้วย “อืม… ปวดหัวชะมัด…” พายุหันไปเห็นก่อน ลุกยืนทันที “มึงเป็นไรทอฝัน หน้าซีดเลย” “กูปวดหัวข้างเดียวว่ะ… น่าจะเพราะเมื่อเช้าตื่นเช้าเกินไป แล้วนอนงีบก็ไม่ถึงสิบนาทีต้องรีบลุกอีก…” สิ้นคำพูดของเพื่อนสาว ชายหนุ่มเดินเข้ามาจับแขนเธอเบา ๆ แล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้ “นั่งก่อนดิ เดี๋ยวกูจัดการให้” ทอฝันนั่งลงอย่างว่าง่าย พายุยืนอยู่ข้างหลัง แล้วเริ่มใช้ปลายนิ้วนวดคลึงขมับและหลังศีรษะเบา ๆ ริมฝีปากหยักพูดเสียงนุ่ม “มึงเป็นแบบนี้ทุกที พอตื่นเช้า ใช้พลังงานเยอะ แล้วก็ไม่พักจนปวดหัวทุกครั้ง… ใจเย็น ๆ หลับตาไปก็ได้ เดี๋ยวกูนวดให้” ทอฝันเสียงผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย หลับตาพริ้ม “เออ… ดีว่ะ… มือมึงเย็นดี…” ขณะที่ไดม่อนนั่งดูครู่หนึ่ง เขายกกล่องขนมมาการองขึ้นมาแล้วพูดขึ้นอย่างกวน ๆ “มึงขาดน้ำตาลชัวร์ ๆ เลย นี่! มาการองอภินันทนาการจากไดม่อน เชิญอ้าปากครับคุณว้ากหญิง” ทอฝันยังหลับตาแต่ยิ้ม มุมปากยกขึ้น “…โอ๊ยย กวนตีน…” เธออ้าปากช้า ๆ แล้วไดม่อนคีบมาการองเข้าปากให้ เอริคหัวเราะ “อร่อยไหม ของโปรดไอ้ไดม่อนเลยนะเว้ย กูเห็นมันลูบกล่องเหมือนลูบหัวลูกมาเลยตอนนั่งเรือ” ทอฝันเคี้ยวแล้วยิ้มบาง ๆ “หืม… อร่อยว่ะ ไม่คิดว่าพวกมึงจะพกมาการองติดตัวแทนพาราเซตามอลได้อะ” ไดม่อนพูดพลางยักคิ้ว “เพราะพวกกูไม่ใช่แค่พี่ว้าก พวกกูเป็นหมอประจำค่ายด้วยเว้ย ขาดน้ำตาลเมื่อไหร่ เรียกไดม่อน! หัวใจจะได้กลับมาเต้นเป็นจังหวะ” เอริคเบะปากแล้วพูดติดตลก “เวอร์ชิบหาย แค่เอาขนมให้สาว มึงคิดว่าตัวเองเป็นหมอเฉยเลย” ขณะพายุเองก็หัวเราะเบา ๆ ยังคลึงขมับให้ทอฝัน “พอเลย พวกมึง กูรักษาคนอยู่ นี่คนไข้ของกูเว้ย” ทอฝันหัวเราะเบา ๆ “กูเริ่มสงสัยละ ว่าไอ้พายุแม่งไม่ได้มาเรียนวิศวะ มันน่าจะเป็นพยาบาลปลอมตัวมา” ไดม่อนพูดเชิงน้อยใจ “โห… อวยแต่มันอ่ะ ถ้ามึงป่วยบ่อย ๆ กูสมัครเป็นคนเฝ้าไข้ตลอดชีพให้เลยก็ได้” ทันทีที่ได้ยินเพื่อนสนิทพูด เอริคยิ้มมุมปาก แล้วยกแก้วน้ำขึ้นจิบ “เดี๋ยว ๆ พอก่อน กูว่าสถานการณ์เริ่มออกทะเล กูจะอิจฉาจนปวดหัวตามแล้วเนี่ย ทีกูปวดขาไม่เห็นนวดให้กูมั่ง” “ฮ่า ๆ มึงไม่ใช่สาวไง” ทุกคนหัวเราะเบา ๆ บรรยากาศเริ่มคลี่คลาย ลมทะเลพัดเย็น เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบา ๆ ขณะนี้เสียงหัวเราะเบา ๆ ของพายุ ไดม่อน เอริค และทอฝันยังไม่ทันจางไป อีกด้านของน้ำตาล ณ ทางเดินใกล้หาด น้ำตาลเดินคู่มากับแอ้ม เพื่อนสาวสนิท ท่ามกลางแดดอ่อน ๆ และสายลมทะเล แอ้มสะกิดเบา ๆ แล้วกระซิบ “อีตาล ๆ มึงดูตรงนั้นสิ! เจ้าชายสามคน… สามคนเลยนะเว้ย กำลังปรนนิบัติพี่ทอฝัน โอ้โห ดูดิ… พี่พายุคลึงขมับ พี่ไดม่อนป้อนขนม พี่เอริคชงน้ำให้! มึงอย่าบอกนะว่าเขาสนิทกันขนาดนั้น นวดกันได้อะ?” น้ำตาลชะงักฝีเท้าเล็กน้อย มองภาพตรงหน้า นิ่งไปเล็กน้อย “…อืม…” สายตาน้ำตาลมองไปที่พายุ เธอเห็นเขายิ้มบาง ๆ ขณะกำลังนวดขมับให้ทอฝันด้วยความใส่ใจ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา แต่ก็อบอุ่นเกินจะมองผ่าน อยู่ดี ๆ น้ำตาลก็รู้สึกเหมือนเท้าสะดุดกับรอยทรายโค้งเล็ก ๆ พลิกเบา ๆ ก่อนจะ… “โอ้ย!” แอ้มตกใจสุดตัว “ว้าย! อีตาล! มึงเป็นไร! ตะคริวแดกเหรอ หรือข้อเท้าพลิก?!” เสียงร้องของน้ำตาลเบาแต่ชัดเจนพอจะทำให้พายุชะงักมือที่กำลังนวดทอฝันทันที พายุหันขวับไปมอง ก่อนรีบลุกขึ้นไม่รีรอ “น้ำตาล!” ไดม่อนกับเอริคยังไม่ทันจะพูดอะไร พายุก็วิ่งตรงไปทางน้ำตาลทันที ปล่อยให้ทอฝันมองตามด้วยแววตาแปลก ๆ พายุย่อตัวลงข้าง ๆ น้ำตาล พูดอย่างร้อนรน “เป็นอะไร ข้อเท้าพลิกเหรอ? ขอดูหน่อย…” น้ำตาลพยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองแสดงออกเกินไป “อือ… นิดหน่อยค่ะ เดินพลาดเฉย ๆ…” จากนั้นมือหนาจับข้อเท้าเธอเบา ๆ พลิกดูเพื่อเช็ก ด้วยแววตาจริงจัง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดเสียงเบา แต่ชัดเจน “ไม่บวม แค่เคล็ดนิดเดียว… เดี๋ยว… … เดี๋ยวพี่ประคบน้ำแข็งให้นะ” แอ้มกระซิบข้างหูน้ำตาลเบา ๆ “…พี่ประคบให้นะ เห็นมั้ย! กูล่ะอยากเป็นมึงฉิบหาย…” พายุเงยหน้าขึ้นสบตาน้ำตาลครู่หนึ่ง แวบเดียวจริง ๆ แต่ในแววตาเหมือนมีอะไรบางอย่างสื่อถึงความห่วงใยที่เขาไม่อาจพูดได้ต่อหน้าใคร พายุก้มหน้าเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบา “…อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำแข็งมาให้” พายุลุกขึ้นเร็ว เดินหายไปทางห้องพัก โดยไม่พูดอะไรต่อ ทิ้งให้แอ้มมองตามงง ๆ “มึง ๆ… มึงอย่าบอกนะ ว่าคนหิ้วกระติกน้ำหน้าตาดีคนนั้น… มึงรู้จักเขามาก่อน?” น้ำตาลยิ้มบาง ๆ ไม่ตอบ “…อือ เปล๊า… แค่เขาเป็นรุ่นพี่น่ะ มาช่วยน้องก็ไม่แปลกใช่ไหมล่ะ… แต่มือเย็นดีอะ” ไม่นานนัก ใต้ต้นมะพร้าว น้ำตาลยังนั่งอยู่บนพื้นทรายร่มรื่น แอ้มนั่งข้าง ๆ ทำหน้าฉงน สลับกับแอบมองพายุที่เดินกลับมา พร้อมถุงน้ำแข็งผ้าขนหนูในมือ พายุนั่งลงตรงหน้า พูดนุ่ม ๆ “นี่ น้ำแข็ง…เดี๋ยวพี่ประคบให้นะ อย่าขยับเท้าเยอะ เดี๋ยวจะช้ำ” น้ำตาลหลบสายตาเบา ๆ แต่ยอมให้พายุประคบให้อย่างว่าง่าย “…ขอบคุณค่ะ” มือหนาค่อย ๆ วางผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งลงตรงข้อเท้าเธออย่างระมัดระวัง ปลายนิ้วเย็น ๆ แต่สัมผัสกลับอ่อนโยนจนหัวใจน้ำตาลเต้นไม่เป็นจังหวะ แอ้มกระซิบเบา ๆ ข้างหูอีกที “โอ้ยยย กูจะละลายแทนมึง… แบบนี้เค้าเรียกคนรู้จักกันแน่ ๆ ใช่ไหม อีตาล?” น้ำตาลสะบัดหน้าเบา ๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ก็แค่พี่เขาใจดีไง…” พายุพูดเสียงต่ำ เหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า “ต่อให้ไม่ให้รู้จัก… พี่ก็ห่วงอยู่ดีนั่นแหละ” คำพูดของเขาทำเอาน้ำตาลชะงักนิ่ง สบตาเขาโดยไม่ตั้งใจ สายตาที่ไม่ได้หวาน แต่ลึกและจริงจัง ก่อนจะได้พูดอะไรต่อ เสียงรองเท้ากระทบทรายก็ดังขึ้นเบา ๆ จากอีกด้าน ทอฝัน เดินมาหาเอริคกับไดม่อน สะบัดเส้นผมเบา ๆ แล้วพูดเสียงจริงจัง “หมดเวลาพักแล้วพวกมึง เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วไปเตรียมเรียกรุ่นน้องรวมตัวที่ศาลากลางนะ” เอริคพูด “โอเค เดี๋ยวกูช่วยจัดเวที” ไดม่อนเหล่มองไปทางน้ำตาลกับพายุเบา ๆ ก่อนจะพูดกับทอฝัน “มึงไปก่อน เดี๋ยวกูตามไป… กูสงสัยอะไรนิดหน่อยว่ะ” ทอฝันเลิกคิ้ว “สงสัย? อย่าบอกนะว่ามึงจะจับผิดเด็กปีหนึ่ง กูไม่อยากเป็นพี่ว้ากแถลงข่าวนะเว้ย” ไดม่อนยักไหล่ ยิ้มมุมปาก “ก็แค่อยากรู้ว่าคนหิ้วกระติก กับดาวคณะ… รู้จักกันแค่ไหนกันแน่เท่านั้นแหละ กูกลัวว่าไอ้พายุตาบอด หึ ๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD