ข่าวงานแต่งงานระหว่างคุณชายข้าวปั้นลี่และจอมยุทธ์ไวซ์อี้เฉินโด่งดังไปทั่วยุทธภพในเวลาไม่กี่วัน จอมยุทธ์จากมณฑลต่างๆ มากมายเมื่อทราบข่าวต่างพากันหัวใจสลายจากการที่เคยหมายปองคุณชายปั้น จอมยุทธ์เจ้าเสน่ห์ที่พวกเขาต่างลุ่มหลงในความงามและเสน่ห์อันแพรวพราวราวกับหญิงสาวของคุณชายปั้นที่ทุกคนต้องยอมให้
ขณะที่คุณชายปั้นผู้ถูกกล่าวถึงยังคงนอนสลบอยู่บนที่นอนสีฟ้าครามโดยมีจอมยุทธ์ไวซ์นั่งเฝ้ากุมมือไว้แนบแก้มอุ่นตลอดเวลา หลังจากได้ฟังข่าวดีของตนจากผู้เป็นพ่อถึงการแต่งงานที่กำลังจะมีขึ้นอีกไม่กี่วันนี้ ส่งผลให้คุณชายน้อยกลับเป็นลมหมดสติไปเลยทันที
"น้องยังไม่ตื่นอีกหรือลูกเขยพ่อ" เสียงเรียกถามจากประมุขของบ้านทำให้จอมยุทธ์หนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย
"คุณชายยังไม่รู้สึกตัวเลยครับท่านพ่อ ลูกรู้สึกกลัวจังครับว่าน้องจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก" จอมยุทธ์หนุ่มดูอ่อนล้ากับอาการของคุณชายน้อยที่เขาเองเริ่มหมดหวังที่จะให้คนตรงหน้าฟื้นคืนสติขึ้นมา
"อย่าเพิ่งหมดหวังสิลูก ตอนนี้พ่อได้ติดต่อท่านหมอมือดีที่จะมาช่วยรักษาอาการว่าที่เจ้าสาวของเจ้าแล้ว ท่านคงกำลังเดินทางไม่น่าถึง 1 ชั่วยามคงมาถึง”
“จริงเหรอครับท่านพ่อที่ท่านหมอจะช่วยน้องให้ฟื้นสติได้” จอมยุทธ์หนุ่มกล่าวด้วยอาการรนรานอย่างตื่นเต้นและมีความหวัง
“ข้าเองก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เมื่อว่าที่เจ้าสาวของเจ้าฟื้นคืนสติเมื่อไหร่ ข้าจะจัดพิธีแต่งงานให้เจ้าทั้งสองคนในวันทัดไปทันที" ประมุขประจำบ้านกล่าวกับว่าที่ลูกเขยด้วยความเห็นใจก่อนจะตบบ่าเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องนอนของคุณชายน้อยไป จอมยุทธ์หนุ่มกลับหันมามองว่าที่เจ้าสาวที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงนอนด้วยความอาลัยอาวรณ์อย่างที่สุด
"นี่ท่านไม่อยากจะแต่งงานกับข้าถึงเพียงนี้เลยหรือนี่ นอนหมดสติมา 2 วันแล้วยังไม่ฟื้นคืนสติอีก หากการที่ข้าไม่ต้องแต่งงานกับท่านแล้วทำให้ท่านฟื้นข้าก็ยอมไม่แต่งงานกับท่านก็ได้" จอมยุทธ์หนุ่มรำพันกับคุณชายน้อยด้วยความรู้สึกผิด แล้วทำการตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อให้คนที่เขารักฟื้นคืนสติ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างเตียงเตรียมจะเดินออกจากห้องไปพบว่าที่พ่อตาเพื่อบอกอะไรบ้างอย่างแต่เขาต้องหยุดชะงักหน้าประตู เมื่อพบกับชายแก่ผมขาวในชุดสีเทามีท่าทางน่าเกรงขาม เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับว่าที่พ่อตาและท่านอาของคุณชายน้อยประจำบ้าน
"นี่คือท่านหมอลิ่วเซิ่นหรือท่านหมอเซิ่น จะมาช่วยรักษาและดูอาการว่าที่เจ้าสาวเจ้า" จอมยุทธ์หนุ่มทำการคารวะท่านหมออย่างนอบน้อม
"ข้าขอคารวะท่านท่านหมอเซิ่น ข้าน้อยไวซ์อี้เฉิน" ท่านหมอก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบรับจากจอมยุทธ์หนุ่มด้วยไมตรี
"เชิญท่านหมอ อาการก็เป็นอย่างที่ข้าเล่าให้ท่านฟังระหว่างเดินเข้ามาในห้องแหละครับ"
"ข้าจะทำการรักษาคุณชายน้อยอย่างเต็มที่" จากนั้นท่านหมอได้ลงนั่งข้างเตียงทำการตรวจชีพจรตามจุดสำคัญต่างๆ ที่จะพบสาเหตุและหาวิธีการรักษาของอาการอย่างละเอียดต่อไป ใช้ระยะเวลาเพียงไม่นานท่านหมอเซิ่นก็ทำสีหน้าตกใจอย่างประหลาดก่อนจะบอกชื่อโรคที่ตรวจพบ
"ท่านหมอลูกของข้าเป็นอะไรเหรอครับ ทำไมท่านมีสีหน้าตกใจเช่นนั้น" ด้วยคำถามจากประมุขของบ้านทำให้ทุกคนที่ยืนรอฟังอาการพลางมีสีหน้าตกใจไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
"คุณชายน้อยเป็นโรค ขัดใจ ชื่อโรคอาจะฟังดูคุ้นๆ แต่ไม่ค่อยพบบ่อยนัก ส่วนมากคนที่จะเป็นโรคนี้จะมีอาการสาเหตุมาจากการถูกขัดใจด้านความรักกับความรู้สึกของหัวใจโดยตรง"
"แล้ววิธีรักษาล่ะครับท่านหมอ แล้วลูกของข้าจะหายไหม"
"วิธีรักษาคือการยกเลิกการแต่งงานใช่หรือไม่ครับท่านหมอ คนรักของข้าจึงจะหายเป็นปกติ" จอมยุทธ์หนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกหมดหวังและมีสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกคุณชาย วิธีรักษาก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ คุณชายจุมพิตที่ริมฝีปากเล็กนั่นด้วยรักบริสุทธิ์ จากนั้นคุณชายน้อยก็จะฟื้นคืนสติตามเดิม ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอเรียนเชิญทุกท่านออกจากห้องนอนนี้ให้เหลือเพียงแค่คุณชายทั้งสองเท่านั้น เชิญคุณชายทำการรักษาคนรักของเจ้าเถิด เพียงการจุมพิตด้วยรักบริสุทธิ์ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม" ทุกคนเดินออกจากห้องนอนคุณชายน้อยตามคำสั่งท่านหมอ ปล่อยให้จอมยุทธ์หนุ่มใช้การจุมพิตกับวิธีรักษาที่มีแต่เขาเพียงคนเดียวที่ทำได้ ก่อนท่านหมอจะกล่าวทิ้งท้ายเมื่อจะก้าวออกจากห้องนอน
จอมยุทธ์หนุ่มนั่งลงข้างกายคุณชายน้อยพร้อมทั้งมองใบหน้าขาวนั้นอย่างตั้งใจ ทบทวนถึงวิธีการรักษาจากคำบอกเล่าของท่านหมอเมื่อสักครู่ เพียงแค่การจูบริมฝีปากก็ทำให้คนหมดสติฟื้นคืนสติได้อย่างจริงหรือ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก เขารู้สึกค้านอยู่ในใจแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ในตอนนี้ จึงอยากลองเสี่ยงและใช้วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายในการรักษาคนที่เขารักให้ฟื้นคืนสติ
จอมยุทธ์ไวซ์ค่อยๆ ก้มหน้าลงหาใบหน้าขาวนวลก่อนจะบรรจงประทับริมฝีปากเล็กของคนไร้สติอย่างแผ่วเบาด้วยความรักอันบริสุทธิ์ ทันทีที่ริมฝีปากของคนทั้งสองแนบสนิทกัน คุณชายน้อยที่นอนหมดสติอยู่ก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแล้วเอะอะโวยวายตามแบบฉบับของเขาด้วยความตกใจกับริมฝีปากหนานุ่มที่เพิ่งสัมผัสริมฝีปากเรียวเล็กของเขาไปเมื่อสักครู่นี้
"เจ้าจอมยุทธ์หื่น!... เจ้าฉวยโอกาสกับข้าอีกแล้วเหรอเนี่ย นี่เจ้าเข้ามาในห้องของข้าได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้ท่านพ่อเรียกคนพาเจ้าไปตัดหัวซะ ท่านพ่อ!!...ท่านพ่อช่วยข้าด้วย" ทันทีที่คุณชายน้อยเสียงดังโวยวายลั่นจอมยุทธ์หนุ่มไม่รอช้า รีบจู่โจมขึ้นเตียงเข้ารวบกอดคุณชายน้อยไว้ในอ้อมอกก่อนจะใช้ริมฝีปากเดิมปิดปากคนที่กำลังโวยวาย เสียงร้องคุณชายน้อยดังลั่นออกมาด้านนอกห้องนอน ทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกตกใจและจะเข้าไปช่วยลูกชายของตนแต่ถูกท่านหมอสั่งห้ามทัน ว่านี่คือกระบวนการรักษาของจอมยุทธ์ไวซ์ที่เขาสั่ง สักพักเสียงนั้นได้สงบลงจึงทำให้ทุกคนเข้าใจว่าการรักษายังดำเนินต่อไป
ขณะที่ทุกคนมีความเข้าใจว่าเสียงที่ดังลอดเป็นกระบวนการรักษาแต่ความเป็นจริงในห้องของคุณชายน้อย จอมยุทธ์หนุ่มยังคงลิ้มรสความหอมหวานจากปากเล็กนั้นไม่ลดละ เมื่อเขาเห็นว่าคุณชายน้อยเริ่มสงบสติอารมณ์ได้เข้าจึงถอนริมฝีปากออกจากปากเล็กอย่างช้าๆ แต่ริมฝีปากเล็กนั้นทว่าเหมือนจะเคลื่อนตามริมฝีปากของเขาจนแทบจะนอนเอนล้มนอนทับจอมยุทธ์หนุ่มเสียให้ได้
"เสียดายเหรอครับคุณชายที่ผมถอนริมฝีปากจากท่าน"
"ผั้วะ!!...เจ้าพูดอะไรของเจ้า ใครเสียดายอะไร เจ้ามันจอมฉวยโอกาส ข้าเกลียดเจ้าที่สุด" เสียงฟาดฝ่ามือเล็กที่แก้มของจอมยุทธ์หนุ่มทำให้ใบหน้าอีกฝ่ายสั่นสะท้านและดูเหมือนคุณชายน้อยจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มว่าที่สามีซ้ำแต่ถูกจอมยุทธ์หนุ่มคว้าข้อมือไว้ได้ทัน
"แต่ข้ารักท่าน ข้ารักท่านเพียงคนเดียวนะคุณชายปั้น" เมื่อจอมยุทธ์หนุ่มได้ฟังคำปฏิเสธจากคุณชายน้อย เขาจึงรีบจับประคองคุณชายน้อยลงนอนก่อนที่เขาจะบอกความในใจแก่คนตรงหน้าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ไม่ทันที่เขาจะประทับรอยจูบบนริมฝีปากเล็กอีกครั้ง จู่ๆ ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดเข้ามา
"ลูกพ่อเจ้าฟื้นแล้ว" น้ำเสียงผู้เป็นพ่อสุดแสนจะดีใจที่เห็นบุตรชายของตนกลับมามีสติอีกครา
"ท่านพ่อ!..." ทั้งสองคนพ่อลูกสวมกอดกันอย่างดีใจแต่ทว่า
"เจ้าฟื้นขึ้นมาไม่ทันจะพบหน้าพ่อ เจ้าจะรีบเข้าหอกับคนรักของเจ้าทันทีเชียวหรือ พ่อคิดว่าเจ้าทั้งสองควรเข้าพิธีแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณีก่อนดีไหมลูก"
"ท่านพ่อ ท่านกำลังเข้าใจผิดนะ จอมยุทธ์หื่นผู้นี้กำลังรังแกข้าต่างหาก อีกอย่างข้าจะไม่มีวันแต่งงานกับคนที่ชอบฉวยโอกาสและไม่ให้เกียรติข้าเด็ดขาด" น้ำเสียงคุณชายน้อยแสดงออกถึงความไม่พอใจและรู้สึกรังเกียจจอมยุทธ์หนุ่มอย่างมาก
"อาปั้นฟังพ่อนะลูก เจ้านอนหมดสติไปสองสามวันเต็มๆ และไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสติ พ่อจึงไปตามท่านหมอมาจากทางไกลเพื่อมารักษาอาการหมดสติของเจ้าแต่วิธีการรักษานั้น คือการจุมพิตด้วยรักบริสุทธิ์ ต้องใช้ผู้ที่มีความรักบริสุทธิ์ต่อลูกเท่านั้นถึงจะช่วยให้เจ้าฟื้นคืนสติได้และคุณชายไวซ์ก็เป็นผู้ช่วยชีวิตเจ้านะลูกพ่อ"
"ไม่!! ข้าไม่เชื่อ คนประเภทนั้นเหรอ จะมีรักบริสุทธิ์ต่อข้ายังไง ในเมื่อเขามีแต่ฉวยโอกาสรังแกข้าตลอดเพื่อความสุข สนุกของตนเองเท่านั้น ข้าไม่มีวันจะแต่งงานกับเขาแน่นอนท่านพ่อ อีกอย่างท่านก็รู้นี่ว่าข้ารักท่านพี่หลงของข้ามากแค่ไหน ไม่มีใครจะมาแทนที่ท่านพี่ของข้าได้" เมื่อจอมยุทธ์หนุ่มได้ฟังคำพูดจากคุณชายน้อย ยิ่งสร้างความเจ็บปวดและเสียใจแก่เขามากมาย
"เจ้าจะปฏิเสธคำสั่งของพ่อไม่ได้เพราะเขาถือว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อเจ้า ถ้าไม่ได้คุณชายไวซ์เจ้าก็คงต้องตายไปแล้ว"
"แล้วทำไมท่านพ่อ ไม่ปล่อยให้ข้าตาย จะให้ฟื้นขึ้นมาเพื่อแต่งงานกับคนฉวยโอกาสและไม่ให้เกียรติข้าเช่นนี้ทำไม ข้าไม่มีวันจะแต่งงานกับคนพันธุ์นี้แน่"
"เจ้า!!..." น้ำเสียงการสนทนาของสองพ่อลูกเริ่มดังขึ้นด้วยอารมณ์โกรธมากขึ้น ทางจอมยุทธ์หนุ่มที่ฟังการสนทนาอยู่ตลอด รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเขาคิดว่าตนเองเป็นต้นเหตุให้สองพ่อลูกทะเลาะกัน
"หยุดเถอะครับท่านพ่อ ในเมื่อคุณชายไม่ต้องการแต่งงานกับข้า ข้าก็จะจากไปด้วยดีและไม่คิดเป็นการติดหนี้บุญคุณอะไรกับคุณชาย เพราะข้าช่วยด้วยความรักจากใจของข้า พวกท่านอย่าทะเลาะกันอีกเลย ข้าน้อยขอลา" เมื่อจอมยุทธ์หนุ่มกล่าวกับว่าที่พ่อตาเสร็จสิ้น เขาก็ได้ก้าวออกจากห้องไปโดยทันทีแต่ถูกมือหนึ่งคว้าข้อแขนเขาเอาไว้
"ท่านจอมยุทธ์ได้โปรดรับการคาราวะจากข้าด้วย ข้าขอโทษกับมารยาทที่ไม่ดีของลูกชายข้าที่ประพฤติต่อท่าน ทั้งที่ท่านเป็นผู้ช่วยชีวิตลูกข้าไว้แท้ๆ ข้าขอขอบใจท่านมาก" ประมุขของบ้านนั่งคุกเข่าทำการคารวะจอมยุทธ์หนุ่มอย่างนอบน้อมด้วยความรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ลูกชายของตนได้ทำลงไป
"ท่านอา ท่านอย่าทำแบบนี้เลยครับข้าไม่ได้ติดใจ ไม่คิดว่าเป็นบุญคุณด้วยซ้ำ อย่างที่ข้าได้บอกท่านว่าข้าช่วยคุณชายปั้นไว้ด้วยความรู้สึกรักและปรารถนาดีจากหัวใจของข้าเท่านั้น เมื่อคุณชายต้องการเช่นนั้น ข้าจะเป็นฝ่ายไปเอง ท่านอย่าคิดมากนะครับ ข้าขอลาก่อน" จอมยุทธ์หนุ่มกล่าวพลางรีบประคองว่าที่พ่อตาให้ลุกขึ้น
คำพูดทุกคำที่ออกจากปากจอมยุทธ์หนุ่ม คุณชายน้อยได้ฟังแล้วพลางคิดทบทวนถึงคำพูดเหล่านั้น หนึ่งคือความกตัญญู สองคือบุญคุณ สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเถิดทูนพร้อมทั้งปฏิบัติมาโดยตลอด บัดนี้เขากลับใช้ความรู้สึกของตนเองในการตัดสินใจปฏิเสธต่อความกตัญญูและบุญคุณที่เขาควรกระทำ ทำให้เขาได้หวนคิด ซ้ำไปซ้ำมาก่อนที่จอมยุทธ์หนุ่มผู้มีพระคุณของเขาจะเดินจากไป
"เดี๋ยวท่านจอมยุทธ์!... ตกลงข้าจะแต่งงานกับท่าน ท่านพ่อข้าขอโทษที่ทำให้ท่านเสียใจกับการกระทำของข้า ข้าเห็นแก่ตัวโดยใช้เหตุผลของตัวเองมากเกินไป ทำให้ข้าแสดงความประพฤติที่ไม่ดีจนเกือบลืมคำสอนของท่าน ถึงเรื่องความกตัญญูและการตอบแทนบุญคุณ ที่ข้าได้พึงปฏิบัติมาโดยตลอด ข้าตกลงจะแต่งงานกับท่าน ส่วนเรื่องความรักที่ข้าจะมีให้แก่ท่านนั้น ข้าไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ที่ข้าจะทำใจให้รักคนอื่นได้นอกจากท่านพี่หลงของข้า ท่านคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมท่านจอมยุทธ์หื่น" นามใหม่ที่คุณชายน้อยตั้งให้แก่จอมยุทธ์หนุ่มทำให้เจ้าตัวทำหน้าตกใจและอดยิ้มไม่ได้
"พ่อขอขอบใจเจ้ามากอาปั้น ที่ไม่ลืมคำสอนของพ่อและไม่ทำให้พ่อผิดหวัง" ประมุขประจำบ้านกล่าวพลางเดินเข้าไปจับบ่าลูกชายด้วยความรัก
"ข้าขอบใจท่านมากสำหรับนามใหม่ที่ท่านมอบให้และข้าขอสัญญาว่าข้าจะปฏิบัติตามนามใหม่ที่ได้รับอย่างเคร่งครัด" คำกล่าวจากปากจอมยุทธ์หนุ่มมีกลิ่นไอความเจ้าเล่ห์แอบแฝงไปด้วยความกรุ้มกริ่มทำให้คุณชายน้อยรู้สึกหวาดกลัวอย่างประหลาดกับสีหน้าของคุณชายไวซ์ที่แสดงออกต่อเขา เมื่อทุกอย่างดูลงตัวประมุขของบ้านจึงสั่งบ่าวไพร่ช่วยกันตกแต่ง สถานที่จัดพิธีแต่งงาน โดยให้เรือนฝ่ายขวาที่ประมุขของบ้านตั้งใจให้เป็นเรือนหอของลูกทั้งสองและจัดเตรียมข้าวของที่จะใช้ในพิธีที่กำลังจะมีขึ้นอีก 2 วันข้างหน้าให้มีความใหญ่โตสมเกียรติของลูกชายคนเดียวประจำตระกูลลี่