บทที่ 4 ให้พวกเขาหมั้นกันเถอะ 4

1500 Words
“อีหลิน! อีมารความรัก! เพราะมันคนเดียวทำให้หนูเป็นแบบนี้ มันแย่งผู้ชายของหนูไป มันใช้ฐานะคุณหนูบังคับให้เขาหมั้นกับมัน อีหน้าด้าน! หนูเกลียดมัน! หนูเกลียดมัน!” อมลฉวีกำหมัดแน่น ทุบลงบนเตียงราวกับคนเสียสติ ในอกเต็มไปด้วยความคับแค้นใจจนน้ำตาเอ่อคลอเบ้า รัมภากลัวลูกสาวจะทำร้ายตัวเอง ยิ่งกลัวเสียงตะโกนของหล่อนจะดังไปจนคนอื่นได้ยินกันทั่ว จึงรีบเข้ามายกมือปิดปากหล่อนพร้อมกับเอ่ยเตือน “เบาๆ สิ เสียงดังแบบนี้ไม่กลัวใครมาได้ยินรึไง” “ก็หนูแค้นนี่แม่” “แม่รู้” รัมภาลูบหัวปลอบโยนลูกสาว “แต่หนูจะคิดมากไปทำไม ยังไงตอนนี้หัวใจของคุณชายก็เป็นของหนูแล้ว เขารักหนู แต่เกลียดคุณหนูหลินยังกับอะไรดี เธอไม่มีทางเทียบกับหนูได้หรอก” “ใช่... หนูไม่ควรไปวุ่นวายกับเธอมากนัก อย่าลืมสิว่าอุบัติเหตุคราวนั้นเป็นหนูที่ไม่ระวัง ตกบันไดลงมาเอง” อเนกกล่าวเสริม เขาหลีกเลี่ยงความจริงที่ว่าลูกสาววางแผนจัดฉากให้ตัวเองบาดเจ็บ แต่คาดไม่ถึงว่าจะเจ็บหนักถึงขั้นพิการ แล้วก็ผลักความผิดไปให้ลัลล์นลินทั้งหมด ทำให้เจษณะและเธอผิดใจกันอย่างรุนแรง แม้เขากับภรรยาจะลำบากใจและไม่เห็นด้วยกับวิธีการของลูกสาว จิตใต้สำนึกยังคงย้ำเตือนเขาตลอดว่าลัลล์นลินไม่ใช่คนผิด แต่เพราะกลัวจะกระทบใจลูกสาว พวกเขาจึงต้องปรักปรำเธอเพื่อความสุขของอมลฉวี “พ่อพูดอะไร หนูเป็นลูกของพ่อนะ ทำไมพ่อถึงไม่เข้าข้างหนู ไม่คิดถึงใจของหนูบ้าง” “เพราะพ่อกับแม่รักหนูมากเกินไปต่างหาก จึงทำเรื่องที่ผิดต่อท่านเจ้าสัว ร่วมมือกับหนูใส่ร้ายหลานสาวของท่าน ตอนนี้คุณหนูหลินแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว เธอน่าสงสารพอแล้ว หนูยอมปล่อยวางปล่อยเธอไปเถอะนะ” “ไม่! มันทำให้หนูพิการ แถมยังแย่งเจษไปจากหนูอีก หนูไม่มีวันให้อภัยมันเด็ดขาด” อมลฉวีเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน สีหน้าดุร้ายเหมือนปีศาจที่ผุดมาจากขุมนรก ผิดกับภาพลักษณ์เปราะบางและอ่อนแอตอนอยู่ต่อหน้าเจษณะลิบลับ รัมภากับอเนกมองหน้ากัน พากันลอบถอนใจด้วยความหนักใจ “ฟังแม่นะออม หนูเคยคิดบ้างไหมว่าต่อให้คุณหนูหลินจะไมได้แต่งงานกับคุณชาย หนูกับเขาก็ไม่สามารถลงเอยกันได้ ตราบใดที่หนูยังอยู่ในสภาพนี้” “แม่หมายความว่ายังไง” อมลฉวีตวัดสายตามองแม่อย่างไม่พอใจ แม้จะลำบากใจ รู้ว่าสิ่งที่พูดจะทำให้ลูกสาวของหล่อนเจ็บปวด แต่ในฐานะที่เป็นแม่ รัมภาจะปล่อยให้เรื่องนี้ทำลายชีวิตของอมลฉวีไมได้ “ถึงตอนนี้คุณชายจะชอบหนู ยอมรับปากแต่งงานกับหนู แต่หนูเคยคิดไหมว่าวันหนึ่งเขาอาจจะเบื่อ อาจจะรับไม่ได้ที่หนูไม่สามารถมีลูกสืบสกุลให้กับเขาได้” “เจษไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่ใช่คนใจดำ เขารักหนู เขาไม่มีทิ้งหนูไปแน่นอน” อมลฉวีส่ายหัวดิก ปฏิเสธเสียงแข็ง “หนูจะมั่นใจได้ยังไง พ่อขอพูดในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง คุณชายยังหนุ่มยังแน่น ยังมีความต้องการเป็นเรื่องปกติ หนูไม่สามารถตอบสนองเขาได้ และไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ ในระยะสั้นเขาอาจไม่คิดมาก แต่ถ้าอยู่กันไปนานๆ เข้า ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญขึ้นมาวันไหนก็ได้” อเนกพูดตามความเป็นจริง ไม่อาจให้ลูกสาววาดวิมานอยู่กลางอากาศได้อีกต่อไป เขากลัวว่าวันได้ที่เชือกบางๆ ของอมลฉวีขาดลง ลูกสาวของเขาจะร่วงหล่นลงมาเจ็บหนักเจียนตาย อมลฉวีหน้าถอดสี ความหวาดหวั่นเข้าเกาะกินเต็มหัวใจ เอ่ยถามพ่อแม่ด้วยน้ำเสียงร้อนรน “งั้นหนูควรทำยังไงดี” “คุณชายเสนอให้ลูกไปรักษาตัวที่อเมริกาไม่ใช่เหรอ นี่เป็นโอกาสดีที่ลูกควรจะคว้าไว้” “แต่มันตั้งหนึ่งปีเลยนะแม่ ขนาดตอนนี้หนูยังไม่สามารถได้ใจของเขาเลย ถ้าขืนหนูหายไปนานๆ หนูกลัวว่าเขาจะลืมหนู แล้วกลับไปคืนดีกับนังหลินน่ะสิ” อมลฉวีลังเล ไม่ใช่ไม่อยากไป ไม่ใช่ไม่อยากหาย แต่หล่อนกังวลจริงๆ กลัวว่าหากไปแล้วเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลง สุดท้ายแม้หล่อนจะเดินได้ แต่ก็ต้องเสียเจษณะไปอยู่ดี ถ้าอย่างนั้น... ทุกอย่างที่หล่อนเพียรทำมาก็เท่ากับสูญเปล่าน่ะสิ! “แล้วการที่หนูอยู่แบบนี้มันต่างกันตรงไหน สุดท้ายถึงคุณชายจะไม่แต่งกับคุณหนูหลิน แต่เขาก็คงไม่แต่งกับหนูเหมือนกันนั่นแหละ หนูทนเห็นเขาไปมีผู้หญิงคนอื่นได้เหรอ ฝืนยิ้มอวยพรให้พวกเขามีความสุขร่วมกันได้ไหม” ไม่! ไม่มีทาง! จิตใจของอมลฉวีเริ่มว้าวุ่น คล้อยตามสิ่งที่แม่หล่อนพูดทุกคำ ตอนนี้หล่อนกับเจษณะเหมือนจะเดินมาถึงทางตันแล้ว ไม่อาจขยับความสัมพันธ์ไปได้มากกว่านี้ เพราะมีร่างกายที่ไม่สมประกอบของหล่อนเป็นสิ่งกีดขวาง ตอนนั้นที่หล่อนคิดแผนนี้ขึ้นมา หล่อนไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะเจ็บหนักถึงขึ้นนี้ คิดว่าแค่สร้างความร้าวฉานให้เจษณะกับลัลล์นลินผิดใจกันได้ หล่อนก็จะสามารถแทนที่อยู่ในสายตาของเขา หล่อนจะกลายเป็นที่หนึ่งในหัวใจของเขา หล่อนวางแผนมาดี อุตส่าห์ลงทุนใช้แผนเจ็บตัวเพื่อดึงใจเขา ใช่...หล่อนทำสำเร็จ แต่แล้วอย่างไรล่ะ? หลายครั้งที่อมลฉวีพบว่าสายตาที่เจษณะมองหล่อนนั้นไม่ใช่ของหล่อน หล่อนเป็นแค่ตัวแทน คนที่เขาตรงหน้ายังคงเป็นลัลล์นลินอยู่เสมอ ที่เขาดีกับหล่อน ดูแลหล่อน อ่อนโยนกับหล่อน เขาทำมันเหมือนสื่อผ่านไปยังคนที่เขารัก ตลกสิ้นดี... หล่อนนี่ช่างน่าสมเพชจริงๆ ไฟริษยาโหมกระพืออยู่ในใจอมลฉวี ยิ่งเจษณะเป็นอย่างนี้ หล่อนยิ่งเกลียดลัลล์นลินสุดหัวใจ และทำให้หล่อนไม่ยอมรามือจากเขาง่ายๆ เขาต้องเป็นของหล่อน ของหล่อนคนเดียวเท่านั้น! ถึงแม้วันนี้เจษณะจะยังไม่ได้รักหล่อน แต่ใช่ว่าหล่อนจะหมดหวังเสียทีเดียว ขอแค่กำจัดไม่มีลัลล์นลินไปให้พ้นทาง ทำให้เจษณะกับมันชิงชังกันและกันจนไม่อาจประสานรอยร้าวได้ วันนั้นจะเป็นวันที่หล่อนชนะ! ต้องมีสักวันที่เจษณะจะเป็นของหล่อน เมื่อเขารู้ซึ้งว่าใครที่รักเขา รอคอยเขาอยู่ทุกลมหายใจ อมลฉวีเชื่อมั่นเหลือเกินว่าเขาจะกลับมาหาหล่อน “ลองคิดดูนะ ถ้าหนูยอมไปรักษาตัวที่โน่น ถ้าหนูอดทนและใช้ความพยายามสักหน่อย บางทีหนูอาจจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งปีก็เดินได้แล้ว ถึงตอนนั้นหนูสามารถกลับมาสู้กับคุณหนูหลินได้อย่างทัดเทียม แม่ไม่เชื่อหรอกว่าลูกสาวของแม่จะแพ้ผู้หญิงคนไหน” รัมภาพยายามโน้มน้าวลูกสาวเต็มที่ ลำพังหล่อนกับสามีเป็นแค่พ่อบ้านและแม่ครัว แม้เงินเดือนแต่ละเดือนจะไม่น้อย แต่ก็คงไม่มีปัญญาหาเงินมากมายขนาดนั้นมาเป็นค่ารักษาพยาบาลอมลฉวีให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง หล่อนจึงไม่อยากให้ลูกสาวทิ้งโอกาสนี้ไปเพียงเพราะความรัก อมลฉวีควรจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้! อมลฉวีคิดตาม ก็จริง... ที่ผ่านมาหล่อนไขว่คว้าหาความรัก เป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามเขามาตลอด มีทั้งเสียมีทั้งได้ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่อีกครั้ง ถ้าหล่อนขยันรักษาตัวให้กลับมาแข็งแรงเป็นปกติได้โดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งปี ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของหล่อน หล่อนกับเจษณะจะสามารถเดินหน้าไปด้วยกันต่อจนถึงสุดหมายปลายทาง ได้แต่งงานมีลูกกับเขา ดำรงตำแหน่งคุณผู้หญิงสิรพลากรอย่างเต็มภาคภูมิ “แม่พูดถูก ตกลง หนูจะบินไปรักษาตัวที่อเมริกา” อมลฉวีเอ่ยอย่างหมายมั่น หล่อนเชื่อว่าถ้าเจษณะรู้เรื่องนี้จะต้องดีใจแน่นอน ต่อให้เขาจะไม่รักหล่อน แต่ก็ต้องมีความรู้สึกกับหล่อนบ้างละ... ไม่ว่าเขาจะรู้สึกผิด สงสารหรือชดเชยให้แทนใคร แต่หล่อนจะใช้ความรู้สึกเหล่านั้นถักทอสายใยแน่นหนารัดเขาเอาไว้ให้อยู่กับหล่อน สุดท้ายพวกหล่อนจะต้องได้แต่งงานกัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD