ตอนที่13

1116 Words
สองสามวันแล้วที่เรณุกากับบิดาย้ายออกมาจากบ้านหลังใหญ่ที่เธอเคยใช้เวลานับตั้งแต่เกิดอยู่ที่นั่น มาอาศัยอยู่ที่คอนโดขนาดสองห้องนอนของคีตยาที่เจ้าตัวใจดียอมให้เธอและบิดาอยู่อาศัยได้นานตามที่ต้องการ แต่หญิงสาวคิดว่าเธอคงไม่รบกวนเพื่อนขนาดนั้น เพราะคิดแล้วว่าเมื่อไหร่ที่หางานทำได้แล้วเธอและบิดาจะย้ายออกทันที หรือไม่ก็จะขอจ่ายค่าเช่าห้องก็ยังดี กริ๊ก... หญิงสาวไขกุญแจห้องเข้ามา ก่อนจะเดินเลยผ่านไปยังส่วนที่เป็นครัวแล้วจัดการรินน้ำดื่มดับกระหายและความเมื่อยล้าจากการออกเดินตระเวนสมัครงานทั้งวันก่อนหญิงสาวจะเดินอ้อมกลับมาที่โซฟาขนาดไม่ใหญ่มากนักที่ตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์ในมุมที่จัดเป็นมุมรับแขก นั่งเล่น และพักผ่อนไปในตัว “วันนี้เป็นไงบ้างคะคุณพ่อ...พอจะชินกับที่นี่หรือยังคะ?” หญิงสาวถามบิดาในขณะที่ทรุดตัวลงนั่งพิงพนักโซฟาแล้วยืดขาให้คลายความเมื่อยขบจากการเดินทั้งวัน แต่เรวัฒน์กลับไม่ตอบ...เขากลับหันหลังให้ลูกสาวตนเองทันทีราวกับจะซ่อนอะไรสักอย่างและนั่นทำให้เรณุกาถึงกับขมวดคิ้วเรียวมุ่นทันทีด้วยความสงสัย ‘เกิดอะไรขึ้นกับบิดาของเธอ?’ มือบางเอื้อมไปแตะหลังของท่าน แต่เรวัฒน์กลับสะดุ้งสุดตัวแล้วลุกพรวดขึ้นยืนทันทีพร้อมกับพูดว่า “พ่อเข้าห้องก่อนนะเร...ถ้าหิวก็ของกินในตู้เย็นอุ่นทานเอานะลูกพ่อซื้อมาให้แล้วไม่ต้องรอพ่อ” พูดจบเจ้าตัวก็ก้าวเดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วทำเอาเรณุกาถึงกับมองตามหลังบิดาด้วยสายตาแปลกๆ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่บิดาเธอก็กลายเป็นคนเงียบขรึมขึ้นแต่ไม่คิดว่าท่านจะอาการหนักจนถึงขั้นนี้ หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอนของเธอพลางครุ่นคิด... เธอจะต้องทำอย่างไรพ่อถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม... พลั่ก! ตุ๊บ! ร่างของเรวัฒน์เซถลาตามแรงเตะของใครบางคนจนถลาเข้าไปติดกับกำแพงก่อนที่ร่างของเขาจะค่อยๆรูดทรุดลงนั่งกับพื้น เรวัฒน์เอามือกุมปากที่รู้สึกได้ถึงรสชาติคาวของเลือดในปากด้วยความรู้สึกเจ็บไปทั้งปาก ชายกลางคนสูดปากเบาๆเมื่อเจ้าตัวเริ่มพูดว่า “ถ้าคุณจะบีบยัยเรด้วยวิธีนี้ผมคิดว่าคุณไม่มีทางทำได้สำเร็จ” “ผมก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้นะคุณเรวัฒน์ แต่ช่วยไม่ได้ที่ลูกสาวของคุณเป็นประเภทไม่ยอมแพ้ แล้วเจ้านายของผมก็ชอบซะด้วยสิ กรรมมันเลยมาตกที่ผมที่ต้องมาหาวิธีที่ทำให้ลูกสาวคุณต้องยอม” สิรกรพูดพลางทรุดร่างให้อยู่ในระดับเดียวกับที่คนสูงวัยกว่าที่นั่งหายใจหอบพิงร่างกับกำแพง “เลว...ไม่ต่างอะไรกับงูพิษ! ผมไม่คิดเลยว่าเจ้านายของคุณจะเป็นคนอย่างนี้สิรกร” เรวัฒน์กัดฟันพูด พลางพยายามหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อบรรเทาอาการแน่นหน้าอกที่เริ่มกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง “พูดให้มันดีๆคุณเรวัฒน์ แต่ก็อย่างว่าแหละคุณไทม์ก็ไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นคนดี” สิรกรส่ายศีรษะน้อยๆเมื่อมองใบหน้าที่เริ่มบวมช้ำของเรวัฒน์ด้วยฝีมือของ...เขาเอง “คุณน่าจะรู้ว่าในวงการนี้ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร คุณผิดที่เชื่อใจและไว้ใจคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่ปีง่ายๆเรื่องนี้ผมคงช่วยคุณไม่ได้หรอกเพราะผมก็ต้องทำมาหากินเหมือนกัน” “...” เรวัฒน์ได้แต่นิ่งเงียบด้วยเถียงไม่ออก ชายสูงวัยได้แต่นึกชังตนเองที่หลงคิดไปได้ว่าคนอย่างอโณทัยไว้ใจได้...ทั้งๆที่ตอนรู้จักกันแรกๆในช่วงเวลาสองสามปีก่อนนั้น ชายที่มีอายุคราวลูกคนนั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะเป็นคนแบบนี้ไปได้เลย...ทั้งๆที่ใครต่อใครหลายคนก็ได้เตือนเขามาแล้วว่าให้ระวังอโณทัยไว้บ้างแต่เขากลับไม่เชื่อเพราะคิดว่าตนเองคงดูคนไม่ผิด แต่สุดท้าย...เขาก็ดูคนผิด! “ผมว่าคุณไปกล่อมให้ลูกสาวคุณยอมแพ้ไปซะดีกว่านะคุณเรวัฒน์ ให้เธอกลับไปตกลงกับคุณไทม์ใหม่ดีๆ ทำตามในสิ่งที่เขาต้องการพวกคุณพ่อลูกจะได้ไม่ได้มีสภาพจนตรอกแบบนี้ บอกตรงๆเห็นสภาพคุณแล้วผมสงสาร...” “กลับไปบอกอโณทัยว่าให้ฉันตายก่อนฉันถึงจะยอมกล่อมยัยเรให้ไปทำแบบนั้น...ลูกสาวฉัน ฉันเลี้ยงมาดีศักดิ์ศรีของเรามีมากพอ!” “เฮ้อ...” สิรกรถอนใจด้วยความเบื่อหน่ายหากลึกลงไปกลับเป็นความนับถือในความอึดและทนของสองพ่อลูกที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ สองสามวันก่อนเขาก็มาดักทำร้ายเรวัฒน์ที่ซอกแห่งนี้ไม่ห่างจากคอนโดฯที่อีกฝ่ายพักอาศัยมากนัก เขาคาดคิดว่าถ้าหากเรณุกาเห็นสภาพใบหน้าและร่างกายของบิดาคงอยู่ไม่สุขจนแจ้นมาหาเจ้านายของเขาเป็นแน่ แต่กลายเป็นว่าเรวัฒน์กลับหลบหน้าลูกสาวจนทำให้เขาต้องมาลงมือกับอีกฝ่ายอีกครั้งในวันนี้ เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอโณทัยต้องการอะไรกับสองพ่อลูกนี้กันแน่...ตอนแรกที่อโณทัยพาตัวเองเข้ามาหานายเรวัฒน์นั้นเป็นเพราะเขานับถือในความ ‘มือสะอาด’ ในวงการธุรกิจของนายเรวัฒน์แต่จู่ๆนับตั้งแต่ครั้งที่เขาไปเยี่ยมนายเรวัฒน์ที่โรงพยาบาลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ท่าทีของอโณทัยก็เปลี่ยนไป... จนเมื่อสามสี่เดือนที่ผ่านมานี่เองที่ทำให้เขาได้รับรู้ว่า ‘อะไร’ ทำให้คนอย่างอโณทัยเปลี่ยนไป เจ้านายของเขาดูหมกมุ่นกับเรื่องของเรณุกามากเกินไป...ดูอยากได้เธอมากเกินไป...และ...วิธีการของเขาดูโหดร้าย...มากเกินไป แต่ก็อย่างว่า...ฝ่ายนั้นเป็นนาย เขาเป็นลูกน้อง อีกฝ่ายสั่งให้ทำอะไรเขาก็ต้องทำ! “ไปเถอะคุณเรวัฒน์ แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคุณก็คือ...บอกให้คุณเรณุกายอมแพ้ซะเถอะ! เพราะคนที่เจ็บไม่ใช่คุณไทม์แต่จะเป็นพวกคุณเอง!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD