นาวาขับรถมาจอดอยู่ที่บ้านของนีน่า เขารีบเดินตรงเข้าไปในบ้านก็พบว่าแม่บ้านกำลังเข้าครัวเพื่อทำอาหารมื้อเย็นให้กับเธอ
"สวัสดีค่ะคุณนาวาคุณนีน่านอนอยู่บนห้องค่ะเดี๋ยวดิฉันไปเรียกให้นะคะ"
"ครับ"
เมื่อแม่บ้านขึ้นไปชั้นบนไม่นานนีน่าก็เดินลงมา มือของเธอยังกอดถุงน้ำร้อนเอาไว้พอเธอเห็นหน้านาวาเธอก็ถอนหายใจออกมาทันทีเพราะสีหน้าของเขามันดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
"นายมีอะไรหรือเปล่าทำไมมาไม่โทรบอกก่อนดีนะว่าฉันตื่นแล้ว"
"พี่ฉันขึ้นไปบนห้องเธอทำไม!"
"พี่นาวินขึ้นมาบนห้องฉัน? อ๋อ... ฉันปวดท้องจนเดินไม่ไหว พี่นาวินก็เลยอุ้มฉันขึ้นมาส่งบนห้องทำไมเหรอ"
"เปล่าไม่มีอะไรแล้วตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างไปหาหมอไหมเดี๋ยวฉันพาไป"
"ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ กินยาไปแล้วนอนพักไปตื่นนึงตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ"
"คุณนาวาอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนไหมคะ วันนี้คุณหนูนีน่าอยู่บ้านคนเดียวทานข้าวคนเดียวคงจะเหงาแย่"
"พ่อกับแม่เธอไปไหนล่ะปกติไม่เคยปล่อยให้เธออยู่บ้านคนเดียวไม่ใช่เหรอ"
"คุณพ่อไปทำงานที่จีนคุณแม่ก็เลยไปดูธุรกิจที่นั่นด้วย วันนี้แม่บ้านทำต้มจืดเต้าหู้อยู่ทานด้วยกันก่อนนะ"
"อืม"
ในขณะที่ฉันกำลังทานข้าวกับนาวาฉันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ พักหลังเหมือนพี่นาวินกับนาวาจะมีปัญหากัน ตอนอยู่มหาวิทยาลัยทั้งสองก็ไม่ค่อยพูด เจอหน้ากันก็บึ้งตึงใส่กันไม่รู้ว่าทำไม
"นาวาฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม"
"มีอะไรเหรอ"
"นายกับพี่นาวินมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าพักหลังฉันรู้สึกว่านายกับพี่นาวินไม่ค่อยคุยกันเลย"
"ไม่รู้สิอยู่ด้วยกันแล้วมันอึดอัด อย่าพูดถึงคนอื่นเลยตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าเธอรู้เรื่องหรือยังว่าสองครอบครัวเราจะต้องเกี่ยวดองกัน"
"อืม... ก็รู้มาบ้างแต่ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจและยังไม่ได้ให้คำตอบคุณพ่อกับคุณแม่ด้วย"
"เหมือนพี่ฉันอยากจะเสนอตัวหมั้นกับเธอ"
ฉันอึ้งไปเสี้ยวนาทีกะจะถอนหายใจออกมา จริงๆ คุณพ่อกับคุณแม่ฉันก็เคยพูดเรื่องนี้ ท่านเองก็มองถึงอนาคตยังไงพี่นาวินก็โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตฉันได้ ส่วนนาวายังไม่มีจุดหมายปลายทางของชีวิตเลย
"เธออยากหมั้นกับมันไหม?"
"มันยังไม่ถึงเวลา ฉันเองก็ไม่รู้ ฉันให้คำตอบไม่ได้หรอกบางทีฉันอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้ คุณพ่อกับคุณแม่ฉันก็ไม่ได้บังคับท่านแค่ออกความคิดเห็น"
"แต่บ้านฉันอยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้"
"ถ้าฉันตกลงหมั้นกับพี่นาวินนายคิดมันดีหรือเปล่า"
"ฉันกับมันก็คงตัดพี่ตัดน้องกันไปเลย"
หลังจากนั้นก็ไม่มีคำพูดอะไรอีกเลย ทานข้าวเสร็จนาวาก็ขอตัวกลับฉันเห็นว่าน้ำชาพยายามติดต่อมาหาเขาหลายสายแล้วไม่รู้ว่าสองคนนี้มีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า
กลับขึ้นมาบนห้องที่นาวินก็โทรมาถามอาการ เขาคุยกับฉันอยู่เป็นชั่วโมงจนฉันเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนเช้าตรู่ แม่บ้านรีบขึ้นมาปลุกฉันวันนี้ฉันต้องไปมหาวิทยาลัยอาการป่วยก็ดีขึ้นแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
มหาวิทยาลัยเซนต์เทล
ฉันลงจากรถยังไม่ทันเดินเข้าไปในตึกน้ำชาก็รีบวิ่งมาหา พร้อมถามอาการปวดท้องของฉันแต่พอเห็นว่าฉันไม่เป็นอะไร เธอก็รีบพาฉันเดินมานั่งที่โต๊ะประจำ ตอนนี้นาวากำลังจดงานที่ต้องส่งอาจารย์วันนี้ เขากำลังลอกการบ้านของน้ำชาอยู่โดยไม่ได้สนใจฉันเลย
"การบ้านต้องส่งวันนี้ ทำไมนายเพิ่งจะทำล่ะเมื่อวานไม่ได้ทำเหรอ"
"จะเอาเวลาที่ไหนมาทำ เธอรู้ไหมน้ำชาว่าเมื่อคืนนาวาไปเที่ยวผับฉันต้องนั่งรถไปหาตอนดึก"
ฉันหันไปมองน้ำชาเธอปัดผมสยายไปด้านหลัง ทำให้ฉันเห็นรอยแดงที่คอและมันจะเป็นรอยจางๆ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ น้ำชาออกไปหานาวาตอนดึกแถมนาวายังเมาไม่ได้สติไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
"เสร็จแล้วขอบใจนะน้ำชา"
"ไม่เป็นไรคราวหลังอย่าดื่มแบบเมื่อคืนอีกนะฉันเจ็บไปทั้งตัวเลย"
"อืม ขอโทษนะขึ้นไปเรียนกันเถอะ"
นาวาไม่พูดอะไรกับฉันเลยได้แต่ยิ้มให้แล้วเดินนำขึ้นมาบนตึก วันนี้ฉันเรียนแทบจะไม่รู้เรื่องเพราะนาวากับน้ำชาพูดคุยกันอยู่สองคนเหมือนไม่มีฉันนั่งอยู่ตรงนี้
พักกลางวันทั้งสองก็เดินไปซื้อข้าวร้านเดียวกัน ส่วนฉันเดินไปซื้อไก่ย่างกับข้าวเหนียวมานั่งทานจนพี่นาวินเดินมานั่งด้วย
"กินไก่ย่างข้าวเหนียวเดี๋ยวก็ง่วงหรอก"
"ก็ฉันไม่รู้จะกินอะไรนี่นา ว่าแต่พี่ เอ๊ย! ท่านรองเถอะทำไมยังไม่กินข้าวอีกคะ"
"วันนี้วันเกิดของอาจารย์เดวิด เลยได้พิซซ่ามากล่องหนึ่งนั่งกินกับทีมบริหารไปเมื่อกี้"
"ฉันอิ่มแล้ว น้ำชาเธออิ่มหรือยังช่วงบ่ายต้องไปโรงยิมใช่ไหม?"
"ใช่ๆ งั้นเราไปเตรียมตัวเปลี่ยนชุดกันเถอะ วันนี้มีซ้อมกีฬาด้วย นีน่าเธอเป็นประจำเดือนอยู่ไม่ต้องลงสนามก็ได้นะแค่นั่งให้กำลังใจฉันกับนาวาก็พอ"
"อืม"
ทั้งสองคนพากันเดินออกไปจากโรงอาหารพี่นาวินก็หันมามองหน้าฉันเหมือนเขาอยากจะรู้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกอะไรไหม ฉันเองก็บอกไม่ถูกมันรู้สึกเจ็บๆ อยู่ลึกๆ เพียงแค่พูดออกมาไม่ได้