1 สัปดาห์ผ่านไปมันเป็นช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกอึดอัดกับสถานะความเป็นเพื่อนระหว่างฉันกับนาวาเหลือเกิน เมื่อก่อนเขาไม่เคยมองข้ามฉันแบบนี้แต่พักหลังฉันรู้สึกว่านาวาไม่เหมือนเดิม
วันนี้เลิกเรียนฉันก็ขอตัวกลับบ้านก่อนไม่ได้ไปต่อไปฉลองอะไรที่ผับเหมือนเมื่อก่อน รู้สึกอึดอัดไม่อยากไปอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
แต่ในช่วงกลางดึกนาวาโทรมาหาฉันหลายสายมากจนฉันต้องตื่นขึ้นมารับพอกดรับสายเสียงเพลงจากปลายสายมันก็ทำให้ฉันต้องดึงโทรศัพท์ออกจากหู
"เสียงนายดังชะมัดเลยออกมาจากพักก่อนได้ไหม!"
(เธอนอนหรือยัง~)
"กำลังจะนอน นายมีอะไรหรือเปล่า"
(ฉันกลับบ้านไม่ได้ขับรถไม่ไหวโทรหาพี่นาวินแม่งก็ไม่รับสาย เธอออกมารับฉันหน่อยสิ)
"น้ำชาไปไหนล่ะทำไมนายไม่ให้น้ำชามารับทุกทีก็เห็นตัวติดกันไม่ใช่หรือไง"
(เลิกพูดถึงคนอื่นได้ไหมมันน่ารำคาญรีบมาเดี๋ยวฉันส่งโลเคชันไปให้!)
ฉันมองดูข้อความที่นาวาส่งมาตอนนี้เขาส่งโลเคชันมาให้ฉันแล้ว ฉันกำลังลังเลว่าจะออกไปดีไหมแต่พอเห็นรูปที่นาวาส่งมาเป็นรูปเขายืนพิงกำแพงอยู่หน้าผับ สภาพดูไม่ได้เลยฉันก็อดสงสารไม่ได้
เกิดโดนรูดทรัพย์ขึ้นมาจะทำยังไง ฉันหยิบกุญแจรถยนต์เพื่อขับรถออกมาจากบ้านไปตามเส้นทางโลเคชันที่นาวาปักหมุดเอาไว้ ไม่ถึง 20 นาทีฉันก็มาถึงผับมันเป็นผับไฮโซที่มีแต่รถหรูจอดเต็มไปหมด
เปิดประตูรถได้ฉันก็รีบเดินตรงไปหานาวา เขานั่งอยู่ที่พื้นสภาพเหมือนคนไม่มีสติแถมข้างๆ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นกำลังนั่งดูดพอร์ตกันอยู่
"นาวากลับบ้านเร็วเดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ทำไมมาช้าไม่ได้เรื่องเลย"
"มันดึกแล้วฉันไม่กล้าขับรถเร็ว อีกอย่างสายตาฉันก็ไม่ค่อยดีด้วย นายลุกไหวไหม?"
"อืม~"
ฉันประคองนาวาลุกขึ้นยืนก่อนจะพาเขามาที่รถ ขึ้นมาบนรถนาวาก็รีบปรับเบาะเพื่อเอนตัวลงไปนอนส่วนฉันรีบขับรถออกมาเพื่อตรงไปยังบ้านของเขา
ฉันพยายามโทรหาพี่นาวินแต่เขาไม่รับสาย ดึกป่านนี้คงจะหลับไปแล้วหรือไม่ก็คงนั่งทำงานไม่ได้เปิดเสียงโทรศัพท์
"ไปส่งฉันที่โรงแรมฉันไม่กลับบ้านหรอกนะ"
"อะไรของนายจะให้ฉันไปส่งนายที่โรงแรมเนี่ยนะ จะบ้าหรือเปล่านายต้องกลับบ้านคนที่บ้านนายจะได้ดูแล"
"อยู่โรงแรมเธอก็ดูแลฉันได้ รีบไปโรงแรมเร็วฉันจะอ้วก"
"นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ"
"อึก!"
"นี่! ใจเย็นก่อนสิ ข้างหน้ามีโรงแรมนายอย่าเพิ่งมาอ้วกในรถฉันนะ!"
ฉันรีบขับเข้ามาจอดในโรงแรมม่านรูดพอจ่ายเงินเสร็จ นาวาก็รีบเดินขึ้นไปเปิดประตูไปถึงเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงโทรศัพท์กระเด็นไปคนละทาง ฉันต้องมาตามเก็บรองเท้าเก็บถุงเท้ารวมทั้งโทรศัพท์ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้น
"แล้วนายจะให้ฉันทำยังไงต่อ ฉันกลับก่อนนะเดี๋ยวฉันจะโทรบอกน้ำชาให้"
หมับ!
ในขณะที่ฉันกำลังหมุนตัวเดินออกมาจากห้องนาวากลับคว้าแขนฉันไว้แล้วดึงฉันลงมานั่งที่เตียง เขาพยายามลุกขึ้นมานั่งแล้วถอนหายใจใส่ฉัน
"เป็นบ้าอะไรอีก"
"ทำไมต้องเป็นที่ฉันด้วยวะ~"
"อะไรของนายเมาก็นอนไปเดี๋ยวฉันจะไปหยิบโทรศัพท์โทรหาน้ำชาให้"
"ไม่ต้อง~ ฉันไม่ต้องการน้ำชาแค่นี้เธอยังดูไม่ออกอีกเหรอวะ!"
ฉันนิ่งเงียบมองหน้านาวา เขากำลังมีอารมณ์โมโหเพราะเรื่องของฉันกับพี่นาวิน แต่นั่นมันก็เรื่องของนาวาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อยเขาจะไม่พอใจมันก็เรื่องของเขา
"ถามจริงเธอดูไม่ออกอีกเหรอว่าที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเธอ เธอห้ามหมั้นกับพี่นาวินเด็ดขาดเข้าใจไหม~"
"ทั้งๆ ที่นายก็มีน้ำชาอยู่แล้ว?"
"พูดอะไรของเธอ เธออย่ามาดึกน้ำชาเข้ามาเกี่ยวเรื่องนี้ ที่ผ่านมาฉันคิดว่าฉันอยู่ในสายตาของเธอมาตลอดที่ไหนได้เธอก็หวังในตัวพี่ชายฉันใช่ไหม"
"นายจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะนาวา อย่าให้ฉันรู้สึกแย่กับนายไปมากกว่านี้เลย!"
"ทำไมวะ ทีกับฉันไม่เคยพูดดีไม่เคยมองฉันอยู่ในสายตาเลยแต่กลับไอ้นาวินมันก็แค่สร้างภาพว่าตัวเองดีทำให้เธอหลงเชื่อมัน แท้จริงมันก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนาหรอกเธออย่าโง่ไปหน่อยเลย!"
เพียะ!
ฉันตบเข้าที่ใบหน้าของนาวาหวังจะให้เขามีสติแต่กลับกลายเป็นว่าเขากระชากฉันลงไปที่เตียงแล้วครึ่งคร่อมทำเอาฉันตกใจจนต้องหวีดร้องออกมา
"นาวา! ปล่อยฉันนะ!"
"ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าถ้าเธอเป็นของฉันแล้วไอ้นาวินมันจะทำยังไง มันจะยอมเลิกยุ่งกับเธอไหม!"
"ไม่นะ! นาวาอย่าทำแบบนี้~"
"ตัวเธอมันก็ต้องการฉันอยู่แล้วอย่าคิดว่าฉันดูไม่ออกว่าที่ผ่านมาเธอรู้สึกยังไง ทำไมเธอถึงไม่พูด ทำไมเธอถึงเลือกที่จะเงียบฮะนีน่า!"
จ๊วบ~
ลิ้นสากพยายามสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของฉัน แขนทั้งสองข้างถูกนาวาจับขึงเอาไว้จนฉันไม่สามารถดิ้นไปทางไหนได้เลย
"อ๊า~ นาวาพอได้แล้ว~"
"เธอก็ต้องการฉันเหมือนกัน ร่างกายเธอตอบสนองฉันขนาดนี้แล้วทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้"
"อื๊ออ~ พะ~ พออ~"