ตอนที่ 11
ในฐานะเจ้านาย
“ผึ้ง”
“....”
“ไอ้ผึ้ง!!”
เสียงเรียกของ แจง เพื่อนสาวคนสนิท ทำให้มือที่กำลังจับตะเกียบค้างพักไว้ชามก๋วยเตี๋ยวชะงัก ก่อนที่หน้าสวยจะช้อนตาขึ้นมอง ด้วยเมื่อครู่ใจเธอกำลังครุ่นคิดถึงถ้อยคำถามของคุณหมอถึงอาการบาดเจ็บบริเวณโคนต้นขาอย่างห่วงใย
“อะไรของแกวะแจง! ฉันตกใจหมด”
“ใจลอยอะไรอะ ฉันคุยด้วยตั้งนานไม่เห็นจะตอบเลย หรือว่ามัวแต่คิดถึงเจ้านายรูปหล่ออยู่”
“จะบ้าเหรอ?”
น้ำผึ้ง ตอบกลับเสียงสูง เธอจะไปคิดถึงเขาได้ไง ถึงเขาจะหล่อดูดีและน่ากินขนาดนั้น แค่การรักษาและถ้อยคำยั่วยวนนั้นมันตราตรึงในความรู้สึกของเธอก็เท่านั้นเอง
ไม่ได้มีอะไรเลย
อีกอย่างเขาถือว่าเป็นเจ้านายของเธอในตอนนี้ ซึ่งหญิงสาวได้เล่ารายละเอียดบางส่วนให้เพื่อนสนิทฟัง แต่ไม่ได้เล่ารายได้และรายละเอียดลึกๆที่ฮิพผับในวันนั้น
เพราะเมื่อเธอสัญญากับเขาว่าจะต้องเป็นความลับ
มันก็ควรที่จะเป็นความลับอยู่แบบนั้นตลอดไป
เธอเป็นคนรักษาคำพูดหรอกน่า
“โห แต่ถ้าเป็นฉันนี่หวั่นไหวเลยนะ ก็หมอนกุลทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้น ระดับเจ้าของโรงพยาบาลเอ็กซ์วันเลยนะแก สาวๆนี่จ้องจะจับกันเพียบถึงจะมีลูกติดก็เถอะ ว่าแต่คุณหมอมีตำแหน่งว่างเพิ่มอีกไหมอ่ะ ฉันอยากไปทำด้วย”
“อย่าเลย แกทำบัญชีอยู่บริษัทพ่อแกอะดีแล้ว”
“ฮึ ฉันก็พูดไปงั้นแหละถึงจะเป็นงานที่ได้ทำกับคุณหมอรูปหล่อก็เถอะ แต่เป็นงานพี่เลี้ยงเด็กฉันไม่เอาด้วยหรอก คนที่ทำแบบนี้ได้ต้องมีใจรักเด็กและใจเย็นมาก น่าจะเหมาะกับแกดีแล้ว”
“เด็กสองคนนั้นน่ารักมาก ทั้งพลอยสวยพลอยใส”
น้ำผึ้ง พยักหน้าเห็นด้วย แม้จะเพิ่งทำเพียงไม่กี่วัน เธอก็เริ่มรู้สึกผูกพันกับเด็กทั้งคู่แล้ว
“ก็คงจะน่ารักอ่ะ ก็คุณหมอหล่อขนาดนั้นเห็นว่าแม่ของลูกก็สวยมาก เป็นระดับนางงามเลยนิ” แจงเอ่ยสมทบ
เธอ ครุ่นคิดเล็กน้อยด้วยพอจะทราบข้อมูลมาบ้าง
และตอนเข้าไปในห้องของเด็กแฝดทั้งสอง ก็เห็นรูปถ่ายของคุณนิภา ตั้งอยู่ในห้อง ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าสวยหวานและดูสง่า แม้แววตาจะดูเศร้าสร้อย คล้ายๆกับแววตาของพลอยใส
“....”
“แต่ก็ดีนะ แกเลิกงานกลับดึกแบบนี้ก็ยังมีรถรับส่งถึงบ้าน คุณหมอเขาก็ใส่ใจในความปลอดภัยของพี่เลี้ยงเหมือนกัน”
“แต่ถ้าฉันผ่านโปร อาจจะต้องพักอยู่ที่นั่นเลย”
“จริงดิ”
แจงตาลุกวาว “พักอยู่บ้านคุณหมอน่ะนะ”
“อือ ..แล้วแกจะเสียงดังทำไมกัน”
น้ำผึ้งปรามเพื่อน ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองไปอีกฝั่งถนนแล้วเห็น น้ำเหนือ น้องชายของเธอกำลังยืนคุยกับชายชุดดำสองสามคน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“นั่นไอ้เหนือกับไอ้เม่นนิ”
“นั่นดิ”
“แล้วยืนคุยกับใครอะ คุ้นหน้าเหมือนกันนะ”
แจง โบกมือให้ทั้งสอง เหมือนน้ำเหนือจะมองมาและคุยต่อกับชายอีกสามคนอยู่เพียงครู่ ก่อนที่จะแยกย้ายกันแล้วเดินข้ามมาหาพวกเธอ
“ยังไม่เข้าบ้านอีกเหรอพี่ผึ้งพี่แจง จะเที่ยงคืนแล้วนะ”
น้ำเหนือ เป็นฝ่ายเอ่ยถามโดยมีเม่นเดินตามมาด้วยติดๆ
“กำลังจะกลับละ คิดถึงผึ้งพี่เลยแวะมา ว่าแต่เหนือกับเม่นคุยกับใครอะใส่สูทผูกไทยังกับกำลังเจรจาธุรกิจกันเลย”
คำถามของแจง ทำให้น้ำเหนือหน้าเจื่อนเล็กน้อย ขณะที่เม่นสะกิดอยู่ห่างๆ และท่าทางนั้นก็อยู่ในสายตาของน้ำผึ้งอยู่ตลอด ทว่าน้องชายเธอกลับส่ายหน้าไปมา
“เปล่าเป็นลูกค้านั่นแหละ นัดวิ่งงานรอบนอกกัน ป่ะพี่ผึ้งเข้าบ้านเถอะดึกแล้ว เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”
น้ำผึ้ง เองอยากจะถามรายละเอียดมากกว่านั้นเหมือนกัน แต่เหมือนน้องชายของเธอจะเลี่ยงไปคุยเรื่องอื่นแทน และเมื่อถึงบ้านก็ปลีกตัวไปอาบน้ำเข้าห้องนอนทันที
.
.
หน้าที่ของการเป็นพี่เลี้ยงเด็กแฝดของน้ำผึ้งเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง เธอเริ่มจะเข้าใจความรับผิดชอบของตัวเองได้ดีขึ้น เพราะมีคุณนวลอนงค์ เจ้าของบ้านและป้าว่านคอยบอกแนะนำอยู่ตลอด แม้ว่าช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาคุณหมอนกุลจะยุ่งกับงานที่โรงพยาบาล จนไม่มีเวลาและเธอไม่ได้เห็นหน้าเขาเลยตั้งแต่วันนั้น เพราะเมื่อส่งเด็กเข้านอนเธอก็กลับบ้าน แต่ก็ส่งข้อมูลเรื่องราวอัพเดททางไลน์ให้เขาเป็นระยะ
ซึ่งเขาก็อ่านบ้าง ตอบบ้าง บางครั้งก็เงียบ
ทำให้หญิงสาวตระหนักได้ว่า ความฟุ้งซ่านในช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้นอาจเพราะเธอคิดมากไปเองคนเดียว แม้การทำแผลที่ลึกซึ้งแบบนั้นจะไม่ปกติและเธอเองไม่ใช่เด็กสามขวบหรอกนะ ที่จะไม่รู้ความหมายของมัน
แต่เหมือนว่าเธอจะว้าวุ่นซ้ำไปซ้ำมาอยู่คนเดียว
ในขณะที่คุณหมอต้นเหตุนั้นแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย
มีเพียงวันนั้นที่ถามถึง แต่ตอนนี้แผลของเธอเริ่มหายดีแล้วซึ่งความจริงก็เป็นแค่รอยขีดเล็กๆ เรื่องวันนั้นก็เหมือนจะถูกลืมเลือนไป
ก็ดีเหมือนกัน เพราะเธอเองก็อายเกินกว่าที่จะเอ่ยถึง
“ขอบคุณคุณผึ้งมากเลยนะครับ ตั้งแต่คุณผึ้งมาเป็นพี่เลี้ยงนี่ คุณหนูทั้งสองตั้งใจเรียนขึ้นเยอะเลยครับ”
กริช คุณครูสอนพิเศษคณิตศาสตร์เอ่ยขอบคุณ เมื่อจบสิ้นการสอนในตอนเย็น ด้วยตั้งแต่มีพี่เลี้ยงคนใหม่มาทำหน้าที่ทำให้เขาสอนเด็กทั้งสองได้ง่ายขึ้น และดูท่าทาง พลอยใส แฝดผู้พี่จะสื่อสารตอบโต้ได้ดีกว่าเมื่อก่อน
จึงได้แต่ภาวนาว่าพี่เลี้ยงคนนี้ทำหน้าที่นี้ได้นานๆ
“ขอบคุณเหมือนกันค่ะ ครูสอนดีมากค่ะเด็กๆชมครูให้ผึ้งฟังอยู่ตลอดเลยค่ะ”
คุยไปคุยมา เธอถึงได้รู้ว่าคุณครูเป็นรุ่นพี่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ นั่นทำให้ยิ่งสนิทสนมกันง่ายขึ้นไปเองจนสรรพนามในการเรียกเปลี่ยนไป
“ผึ้งก็เก่งเนาะ ปกติพี่เลี้ยงของคุณหนูทั้งสองอยู่กันแปปๆ เดี๋ยวก็ไป พี่มาสอนทีไรเห็นเปลี่ยนหน้าเป็นว่าเล่น ดีแล้วผึ้งทำงานเป็นพี่เลี้ยงดูแลคุณหนูไปก่อน”
“ขอบคุณนะคะพี่กริช”
“ครูขาๆ พลอยสวยทำถูกมั้ยคะ?”
เสียงหัวเราะต่อกระซิกในห้องนั่งเล่นที่ใช้เป็นสถานที่เรียนพิเศษของลูกสาวทั้งสอง ทำให้ร่างหนาของคุณหมอเจ้าของบ้านที่เดินเข้ามาชะงักเล็กน้อย และมองยังภาพตรงหน้าอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใด เมื่อเห็นร่างบางของพี่เลี้ยงคนสวยนั่งเบียดชิดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกับครูหนุ่ม โดยมีลูกสาวทั้งสองของเขานั่งฟังอย่างตั้งใจ
ทั้งที่ตอนนี้เขาควรจะดีใจที่เห็นเด็กทั้งสองดูใฝ่เรียน
แต่ไม่รู้ทำไม นกุล ถึงรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาแปลกๆ
**************