ตอนที่ 12
อยู่ในการควบคุม
คุณหมอนกุล ไม่ได้กลับเข้าบ้านมาเพียงคนเดียว ทว่ามีหนุ่มหล่ออีกสี่คนเดินเข้ามาด้วย และน้ำผึ้งจำได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่อยู่ห้องใต้ดินที่ฮิพผับในวันนั้น หนึ่งในนั้นน่าจะเป็น คุณสิปปกร อัครเวทย์ ที่เป็นเจ้าของฮิพผับและโรงแรมหลายแห่ง อีกคนน่าจะเป็น คุณชายวิช ธนกรกุล หนุ่มเชื้อสายผู้ดีเก่าที่ออกสื่อสังคมไฮโซอยู่บ่อย
อีกสองท่านนั้นก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี
แต่แม้ทั้งห้าคนจะหล่อเหลาเอาการอย่างกับพระเอกซีรีย์จีนเวลาเดินมาด้วยกันอย่างกับหนุ่มวงบอยแบรนด์อย่างไงอย่างงั้น ทว่าก็แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามพอสมควร ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ก็ทำเอาน้ำผึ้งตระหนกจนแทบจะก้าวขาไม่ออก
“ลุงสิป ลุงคิณมา”
พลอยใส ละหน้าจากตัวเลขที่กำลังเขียน และเอ่ยอย่างลิงโลดวิ่งเข้ามากอดผู้ชายที่ชื่อ อคิณ ขณะที่พลอยใสลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผู้ชายอีกคน
“ลุงปุณณ์หนูบวกเลขได้แล้วนะคะ”
เสียงหวานของเด็กหญิง ทำให้หนุ่มๆทั้งหมดอมยิ้ม และต่างพูดคุยกับเด็กๆอย่างเป็นกันเอง ขณะที่คุณหมอเจ้าของบ้านหันไปสั่งแม่บ้านให้นำเครื่องดื่มและของว่างเข้าไปในห้องทำงาน คล้ายว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกัน
“เก่งมากเลยครับ เดี๋ยวพวกลุงไปคุยงานกันก่อนนะ น้องพลอยใสกับพลอยสวยเรียนกับคุณครู และอยู่กับพี่เลี้ยงไปก่อน เสร็จแล้วบวกเลขมาอวดลุงด้วยนะครับ”
ปุณณ์ บอกกับเด็กหญิงทั้งสองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และทั้งคู่ก็พยักหน้าตามอย่างว่าง่าย หนุ่มทั้งสี่เดินเข้าไปในห้อง ขณะที่น้ำผึ้งสังเกตว่าชายที่ชื่อ สิปปกร จะหันมองเธอหลายครั้ง แต่คุณหมอพยักหน้าให้เพื่อนและหันมาบอกเธอ
“ถ้าเด็กๆเรียนเสร็จแล้ว พาทานมื้อเย็นได้เลยนะไม่ต้องรอผม แต่ถ้าผมคุยงานจนดึก ผึ้งอย่าเพิ่งกลับนะผมอยากคุยด้วย”
“ค่ะ”
เหมือนเธอจะเห็นมุมปากของ คุณสิปปกร เพื่อนสนิทของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่คุณหมอจะเดินเข้าห้องทำงาน ทำให้น้ำผึ้งต้องหันกลับมาสนใจเด็กทั้งสองที่กำลังเรียนกับคุณครูอย่างตั้งใจต่อ
.
.
“กูรู้ละทำไมมึงถึงให้สาวไรเดอร์นั่นมาเป็นพี่เลี้ยงลูกมึง”
สิปปกร เอ่ยแซวเมื่อ นกุล เข้ามาในห้อง ขณะที่อคิณหันไปยิ้มกับปุณณ์และวิช คล้ายมองตาและรู้ใจ ด้วยพวกตนสนิทกันมานานมากแล้ว เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน การแสดงออกเพียงน้อยนิดของเพื่อนจึงเป็นสิ่งที่สังเกตได้ไม่ยาก
“น้องเขาเข้ากับลูกกูได้ดีจนกูแปลกใจ และตอนนี้พลอยใสก็เริ่มเปิดรับคนอื่นและเริ่มคุยกับกูด้วยประโยคยาวๆละ”
นกุล ตอบเสียงราบเรียบไม่ยอมสบตากับเพื่อน
“แค่นั้น?”
“แล้วจะแค่ไหน?”
หมอหนุ่มเลิกคิ้วสูง เข้าใจว่าตอนนี้เพื่อนๆกำลังเอ่ยแซวในความผิดปกติของเขา ที่ผ่านมานกุลไม่ใช่คนยังไงก็ได้กับเรื่องของผู้หญิงใกล้ตัว เขาเป็นคนช่างเลือกในทุกอย่าง ยิ่งการมีลูกสาวฝาแฝดที่ต้องดูแลหลังจากภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว ชายหนุ่มยิ่งเป็นคนโลกส่วนตัวสูงกับผู้หญิงรอบข้าง
สามปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยคบผู้หญิงเป็นแฟน และไม่คิดที่จะจีบใครทั้งนั้น แม้กระทั่งเรื่องเซ็กซ์เขาเองค่อนข้างระมัดระวัง แม้จะอยู่ในวัยฉกรรจ์ที่ความต้องการมากมายล้นเหลือ แต่นกุลใช่ว่าจะปลดปล่อยกับใครง่ายๆ
คติที่เขาถือมาตลอดคือไม่ยุ่งกับเด็กในบ้าน ลูกน้องที่ทำงานด้วยกัน และเหล่าพวกคุณหนูไฮโซรวยๆเอาแต่ใจ เพราะรู้ว่าความสัมพันธ์นั้นจะทำให้ยุ่งยากยิ่งกว่าเดิม และเขาไม่อยากต้องมามีปัญหากับลูกสาวทั้งสอง
ทว่ากริยาที่เขาแสดงออกกับ พี่เลี้ยงของลูกสาวเมื่อสามวันก่อนนั้น นกุลก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงหยอกเย้ากระต่ายตัวขาวตัวนุ่มนั้นได้อย่างเพลิดเพลิน
นั่นเหมือนเขาจะเริ่มแหกกฎตัวเองที่วางไว้
และเหมือนอะไรบางอย่างที่แสดงออกมาจะทำให้เพื่อนทั้งสี่สัมผัสได้ สิปปกร ถึงได้เอ่ยแซวเขาออกมาแบบนั้น ทว่านกุลก็ไม่คิดจะถือสาแต่อย่างใด
“แต่เด็กนั่นก็กล้าดีเหมือนกันนะ นึกว่าจะกลัวมึงจนหนีหูตูบไปแล้ว เห็นคืนนั้นตัวสั่นจนสลบไป”
วิช เอ่ยเสียงเข้มด้วยเขาเข้าใจอาการกลัวเหล่านี้ดี เพราะเขาก็เคยเป็นมาก่อนและได้รับการบำบัดมาเนิ่นนาน ทว่าสิ่งที่พวกตนได้กระทำในวันนั้น อาจเป็นภาพที่คนภายนอกยากจะเข้าใจได้ง่ายนัก ไม่แปลกที่สาวไรเดอร์คนสวยจะตกใจแบบนั้น
“อืม กูบอกแล้วไงว่ากูควบคุมได้”
นกุล ตอบเพื่อนเสียงหนักแน่น
ควบคุมได้ซิ ...ที่ผ่านมาเขาควบคุมคนแวดล้อมตัวเองได้ทุกเรื่องแหละ และเขามั่นใจแบบนั้น
.
.
หลังจากส่งเด็กทั้งสองเข้านอนเรียบร้อยแล้ว น้ำผึ้ง ก็เดินลงมาด้านล่าง เห็นประตูห้องทำงานของเขาเปิดค้างไว้อยู่และเพื่อนๆของเขาได้กลับไปหมดแล้ว นกุล นั่งเอนหลังกับพนักเก้าอี้นวมตัวใหญ่ เปลือกตาหนาของเขาหลับสนิท คาดว่าเขาน่าจะคุยเรื่องงานที่ค่อนข้างเครียดกับเพื่อน
หญิงสาวลังเลอยู่สักพัก ทว่าสุดท้ายก็ตัดสินใจเคาะประตูหนึ่งครั้งเบาๆ คุณหมอขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะปรือตาขึ้นมอง เมื่อเห็นคนตัวเล็กยืนอยู่หน้าห้อง ชายหนุ่มจึงพยักหน้าเชิงอนุญาต
“ขอโทษทีผมพักสายตา”
“ไม่เป็นไรค่ะ ผึ้งเองก็เพิ่งเข้ามา คุณหมอมีธุระอะไรจะคุยกับผึ้งเหรอคะ?”
น้ำผึ้ง เบี่ยงสายตาหลบเขาเล็กน้อย ยอมรับว่าตั้งแต่วันนั้นเธออดที่จะคิดฟุ้งซ่านกับเขาไม่ได้จริงๆ วันนี้คุณหมออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตไหมสีเอิร์ธโทน ใบหน้าหล่อสะอาดเกลี้ยงเกลาน่ามองนั้นเหมือนจะมีเคราครึ้มขึ้นตรงสันกรามเล็กน้อย ทว่าก็ยังดูเซ็กซี่น่าหลงใหลเมื่อตัดกับริมฝีปากหยักอิ่มแดงระเรื่อเหมือนผู้หญิง
น่าจูบชะมัด
ไม่นะ!! นี่เธอกำลังคิดอะไร?
“ผมว่าจะให้คุณค้างประจำอยู่ที่นี่เลยจะได้มีเวลาให้เด็กทั้งสองได้อย่างเต็มที่ เพราะช่วงนี้ผมมีงานของโรงพยาบาลหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ ผมอาจจะกลับดึกหรือบางวันอาจจะนอนที่โรงพยาบาล คุณแม่เองก็สุขภาพไม่ค่อยดีอาจจะไม่มีเวลาให้ยัยหนูเท่าไหร่ เลยอยากให้คุณมาดูแลเต็มตัว”
น้ำเสียงของคุณหมอราบเรียบทว่าก็ฉายแววกังวลอยู่ในที
เธอจับความรู้สึกนั้นได้ คาดว่าที่เขากลับดึกหลายวันในช่วงนี้ และยังคุยกับเพื่อนทั้งสี่อย่างเคร่งเครียด อาจเพราะกำลังมีปัญหาอะไรสักอย่างแน่นอน
“ได้ค่ะ”
น้ำผึ้งตอบรับเขาอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นท่าทีของเขาที่ตอนนี้อาจต้องการความช่วยเหลือจากเธอจริงๆ “งั้นกลับบ้านวันนี้ผึ้งจะได้เก็บของไว้เลย พรุ่งนี้จะได้มาค้างที่นี่ได้”
“ค้างคืนนี้เลย”
“คะ?”
อะไรจะรวดเร็วปานนั้น “มะไม่ได้ค่ะ ผึ้งไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยอย่างไงก็ต้องกลับไปเอาของใช้ส่วนตัวก่อน”
“ผมเตรียมไว้ให้หมดแล้ว ส่วนของส่วนตัวของคุณค่อยไปเอาพรุ่งนี้”
“คะ?”
ควรจะงงอะไรก่อนดี เขาเตรียมห้องไว้ให้เธอ หรือท่าทีของเขาในตอนนี้ที่เริ่มจะทำให้ใจเธอสั่นไหวแปลกๆ
“คือบ้านผมมีห้องที่เตรียมให้ไว้พี่เลี้ยงลูกอยู่แล้ว ในนั้นมีของใช้ส่วนตัวทุกอย่าง” คุณหมอตอบคล้ายรู้ในข้อสงสัยของเธอ “ส่วนของที่คุณจะเอามาเพิ่ม พรุ่งนี้ให้สมชายไปช่วยขน”
ร่างหนาเหยียดกายลุกขึ้น
“มาซิผมจะพาไปที่ห้อง”
***************