5. หอมไม่ได้ไง?

2145 Words
5 หลังจากที่กลับมาจากมหาลัยไบรอันต์ไปไหนก็ไม่รู้ เขาขับรถมาส่งฉันที่คอนโดแล้วออกไปเลย นี้ฉันเจ็บอยู่นะ ทำไมเขาเป็นคนแบบนี้ก็ไม่รู้ เขาได้นิสัยจากใครมา แม่เขาพ่อเขาใจดีหมด ยกเว้นเขานี้แหละ พูดแล้วก็น้อยใจอีก เฮ่อ ตอนนี้ไบรอันต์อยู่ปีสี่ใกล้จะจบแล้วด้วย เขาคงต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทของครอบครัว ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศแล้วยังมีสาขาที่ต่างประเทศอีกด้วย ครอบครัวเขารวยเว่อร์ๆเลยแหละ แต่ฉันก็ไม่ได้น้อยหน้านะขอบอก พ่อกับแม่ฉันทำธุระกิจเกี่ยวกับเพชรพลอยพวกนี้แหละ ไม่อยากโม้ว่าเป็นเจ้าของย่ะ อิอิ ไม่ค่อยเลยว่ามั้ย _ _! 20.45น. หลังจากเข้าไปอาบน้ำที่แสนจะทรมานฉันก็ออกมาดูทีวีซีรีย์เกาหลีที่ฉันชอบมากๆตอนนี้ ถึงจะหิวมากๆแต่ก็อยากดูซีรี่ย์อยู่ แบบเคยเป็นมั้ยเวลาดูอะไรที่ชอบมากๆก็จะอยู่กับมันไงไม่อยากลุกไปไหน ตอนนี้ฉันฟิวส์นั้นแหละ ส่วนไบรอันต์ยังไม่กลับมาไม่รู้ไปไหน ฉันอยากจะทักหา โทรหานะ แต่ติดซีรี่ย์ไง ฮ่าฮ่าฮ่า (หรอ?) ฉันมองไปที่โทรศัพท์อีกครั้งเมื่อคิดถึงเขานั่งคิดอยู่นานสองนาน แต่มันก็แปลกนะว่ามั้ย เวลาที่ฉันดูซีรี่ย์จะไม่มีใครเข้ามากวนฉันได้แต่วันนี้เขากลับเข้ามากวนฉันใจตลอดจนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยๆ 'ตืดดดด. ตืดดดด. ตืดดดดดด. ' ฉันตัดสินใจกดโทรหาคนในร้านที่ทิ้งฉันไว้ห้องคนเดียว 'ฮัลโหล...' เสียงปลายสายตอบกลับมาไม่สบอารมณ์มากนัก "เอ่อ...นายอยู่ไหน?" 'เธอเองหรอ มีอะไร?' ดูเหมือนเขาจะไม่รู้เบอร์ฉันนะว่ามั้ย แม้กระทั่งเบอร์เขายังไม่ใส่ใจแกเลยนินิว น้อยใจชะมัด "นายอยู่ไหน?" ฉันย้ำคำถามเดิม 'อยู่ไหนก็เรื่องของฉัน อย่ายุ่งเรื่องของฉันให้มาก!' ปลายสายตอบด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว "ฉันเป็นคู่หมั้นนายนะ! กลับห้องเดี๋ยวนี้!" ตอนนี้ฉันเริ่มโมโห น้อยใจแล้วด้วยจนเผลอสั่งเอาแต่ใจ 'แค่หมั้นยังไม่ได้แต่ง อย่าสำคัญตัวให้มาก แค่ฉันให้เธออยู่ด้วยก็บุญเท่าไหร่แล้ว' "..." 'น่าเบื่อ' 'ตู๊ด! ตู๊ด! ตู๊ด!' เคยเจ็บมั้ย เคยหูชามั้ย ตอนนี้ฉันเป็นแบบนั้นแหละ คนที่คุณเฝ้าคิดถึงมาเป็นสิบปี คนที่ฉันเฝ้าดูเขาห่างๆตลอดที่เราห่างกัน คนที่คุณเฝ้าเป็นห่วง คนที่คุณรัก... แต่มาวันนี้ดูเขาคนนั้นพูดกับฉันสิ มันน่าเจ็บปวดแค่ไหน พูดแล้วก็อยากหัวเราะ ถ้าเขาไม่อยากนอนร่วมห้องกับฉันก็บอกฉันดีๆก็ได้นิ ไม่สิเขาบอกตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงเขาไม่พูดแต่การกระทำเขามันฟ้องตลอด เขาแทบจะไม่กลับมานอนที่นี่เลยแค่มารับมาส่งตามที่แม่เขาบอกตั้งหาก ฉันนั่งร้องไห้จนพอใจก็ลุกขึ้นเข้าไปในห้องนอนของเขาเก็บเสื้อผ้าของใช้ต่างๆของตัวเองทั้งหมดไปไว้อีกห้องที่เขาบอกตั้งแต่ฉันมาวันแรก ห้องของฉันคือห้องนี้ ไม่ใช่ห้องนั้น ถึงแม้ว่าฉันจะร้องไห้จนพอแล้วแต่ตอนที่เก็บของน้ำตามันก็ยังไหลลงมาอีก ฉันไม่รู้จะไปที่ไหนยังไง ถ้าฉันออกจากคอนโดนี้ถ้าผู้ใหญ่รู้มันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่เราอาจจะไม่ได้แต่งงานกัน เพราะในสัญญาที่ผู้ใหญ่ให้แก่กันบอกว่า *ถ้าเราสองคนมีคนใดคนหนึ่งไม่อยากแต่งงาน งานหมั้นครั้งนั้นเป็นอันโมฆะ* สาเหตุนี้แหละฉันถึงไปไหนไม่ได้ หึ ที่จริงมันก็เป็นแค่ข้ออ้างของคนรักข้างเดียวอย่างฉันต่างหาก "อื้อ..." ฉันครางด้วยความรำคาญไม่รู้อะไรมากวนอยู่แถวๆหน้าอก แต่ปัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออก แล้วนี้ฉันหลับไปตอนไหนเนี่ยจำได้ครั้งสุดท้ายฉันดูรูปจากโทรศัพท์อยู่นี้น่า "จะดิ้นทำซากอะไรนักหนา" "เอ๊ะ?...เฮ้ย..." ฉันหันไปตามเสียงทันทีก็เห็นไอ้คนใจร้ายทำหน้าหล่อๆคิ้วขมวดกอดฉันจากด้านหลัง "ปล่อย! อื้ออ!" ฉันผลักไอ้คนใจร้ายที่กอดฉันออกแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลเขาไม่ยอมปล่อยแถมกอดแน่นกว่าเดิมอีกด้วย "นอน ง่วง!" พูดน้ำเสียงเข้ม กลัวตายแหละ แบร่ๆ "อย่านะไบรอันต์" ฉันส่งเสียงปราม "หอมหน่อย" ไอ้คนหน้าหมึนยังมีหน้ามาขอหอมแก้มคนอื่นซึ่งๆหน้าแบบนี้อีก "ไม่!.." ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง "ตอนเด็กฉันยังหอมได้เลย" ไอ้คนหน้าหมึนผงกหัวขึ้นมาตอบหน้าตาย นั้นมันตอนเด็กนะเว้ย ย้อนกลับไป 15 ปีก่อน "พี่ไบรอันต์ขานินิวขอนอนด้วยคนได้มั้ยคะ? " เด็กสาวผมยาวหยักโศกสวยกอดน้องหมีเดินเข้ามาในห้องเรียกถามเด็กชายผู้เป็นพี่ ลูกของเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ "มาได้ไงยัยปีศาจ" เด็กชายผู้น่ารักแต่ปากเสียถามกลับ "คุณพ่อ คุณแม่ ไปทำงานต่างประเทศอีกแล้ว เลยให้นินิวมาอยู่กับพี่ไบรอันต์ " เด็กหญิงอธิบายพลางปีนขึ้นเตียงไปหาเด็กชาย "ก็ได้ ให้นอนก็ได้ แต่มีข้อแม้นะ " เด็กชายทำหน้าเจ้าเล่ห์ "อะไรหรอคะ?" เด็กหญิงผู้ใสซื้อถามกลับ "เธอต้องให้ฉันหอมแก้มเธอนอน ป่ะ นอนได้แล้วง่วง " เด็กชายพูดเสร็จก็ล้มตัวลงนอนตบที่ข้างๆให้หญิงสาวนอนด้วย "แต่..." เด็กหญิงสาวมีท่าทีลังเลว่าจะเอายังไงดี "ถ้าไม่ก็ออกไป ออกไปเลย นู้นประตู " เด็กชายชี้ไปที่ประตูห้องกดดันเด็กหญิง "เอ่อ...ก็ได้" ว่าแล้วเด็กหญิงสาวผู้ใสซื่อก็ล้มตัวลงนอนข้างๆเด็กชายที่ยิ้มแป้น ปัจจุบัน คิดมาแล้วก็ ฮึ่ย!!! เขามัน! เขามันลามกตั้งแต่เด็ก ฉันโดนไบรอันต์หอมแก้มตั้งแต่อายุ5ขวบเชียวนะ คิดดูสิ เด็กขนาดนั้นคิดเรื่องแบบนี้ "น่า ไม่หอมมันนอนไม่หลับ " ลูกอ้อนมาแล้วไง เขาจับฉันพลิกหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขาแล้วทำหน้าอ้อนๆ ให้ตายสิทำไมเขามีอิทธิพลกับฉันขนาดนี้นะ "ตอนฉันไม่อยู่นายคงต้องเอาผู้หญิงมานอนด้วยทุกคืนสินะ ไม่งั้นคงนอนไม่หลับ" ฉันพูดประชดบวกกับความเป็นจริง หึ ไม่ได้หอมแก้มนอนไม่หลับ แล้วตอนฉันไม่อยู่เขาหอมแก้มของใครไอ้บ้านี้ ฉันไม่ได้อยากร้องไห้นะ แต่ตอนนี้น้ำตามันไหลมาแล้ว ไหลเป็นสายเลย "อย่างี่เง่า! ขอร้อง " เขาพูดเสียงแข็งเหมือนรำคาญเต็มทนแต่ประโยคสุดท้ายดูเหมือนเขาจะขอร้อง อ้อนฉันยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้มันห้ามน้ำตาไม่ได้หนิ ฉันรู้ว่าฉันไม่มีสิทธิ์พูดเรื่องผู้หญิงคนอื่นของเขาในเมื่อฉันไม่สามารถอยู่กับเขาได้ แต่ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว กลับมาทวงมันคืน! "ห้ามกัด" สุดท้ายฉันก็ยอมกับท่าทางหน้าตาสุดจะอ้อนของเขา ไม่หรอกเขาแค่พูดออกมาแบบนั้นแต่เป็นฉันเองที่ดูว่าเขาอ้อน ก็บอกแล้วไงเขาหนะมีอิทธิพลต่อฉันมากจริงๆ " อือ อย่าร้อง" เขายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ หอมผมฉันทีหนึ่ง แล้วกอดฉันแน่น ไม่นานมือที่กอดฉัน ก็ลูบไล้ไปตามตัวฉัน เชื่อเขาเลย _ _! ฉันลืมบอกใช่มั้ยว่าตอนนี้ฉันนอนอยู่ห้องนอนของเขา ก็ตอนที่ฉันดูรูปในโทรศัพท์ฉันดูอยู่ห้องเขาหนะสิ แล้วไม่รู้ด้วยว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน น่าอายชะมัดเลย รุ่งเช้า ไบรอันต์ เมื่อวานนี้ยัยปีศาจไปเรียนเป็นวันแรกมันก็น่าจะเป็นเรื่องดี แต่ยัยปีศาจก็ทำผมต้องอารมณ์เสียตั้งแต่ยังไม่ออกห้อง ก็ดูยัยนั้นแต่งตัวสิ จะใส่สั้นไปไหนไม่ทราบ ไปซื้อเศษผ้ามาตัดทำกระโปรงรึไง แล้วก็เสื้อนั้นจะฟิตไปไหน กลัวคนไม่รู้รึไงว่านมใหญ่ แล้วผมจะมาโมโหทำไมละแต่ยัยนั้นเป็นคู่หมั้น เป็นว่าที่ภรรยาแต่เป็นเมียทางพฤตินัยของผมแล้วนะ ผมก็ต้องหวงของของผมสิ มันถูกแล้ว และที่ผมไล่ยัยปีศาจไม่ให้นั่งโต๊ะด้วยก็เพราะมันเป็นตึกคณะวิศวะแล้วมันก็มีแต่ผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ไง มิหนำซ้ำตอนเที่ยงยัยปีศาจยังทำให้ผมแทบบ้าอีก ใครบอกให้ถอดรองเท้ากินข้าวว่ะ แต่จะโทษยัยปีศาจของผมก็ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีคนแกล้งเธอ ยัยนั้นไม่รู้หรอกว่าผมแทบคลั่งขนาดไหนที่เห็นเธอเลือดออก สุดท้ายช่วงนี้ที่ผมไม่ได้กลับห้องเพราะต้องทำงาน งานช่วงนี้ยุ่งมาก ก็อย่างที่รู้กันผมจะจบแล้ว ทั้งฝึกงานไม่สิต้องบอกว่าพ่อทิ้งงานบริษัทนำเข้ารถยนต์ทั้งหมดที่เมืองไทยมาให้ผมสานต่อตั้งแต่เข้าไปฝึกงานที่บริษัทใหญ่ ผมมีเรื่องให้คิดทุกวันจนจะบ้าอยู่แล้วแต่ตอนนี้มียัยปีศาจเพิ่มขึ้นมาอีกผมนี้จะบ้าคูณสองไปเลย เมื่อคืนที่เธอโทรมาหาผมตอนนั้นผมหงุดหงิดอยู่เลยตอบเธอไปแบบนั้น ตอนนี้ก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน ผมไม่รู้ว่ายัยปีศาจจะเข้าใจผมมั้ยรึว่าคิดว่าผมไปหาผู้หญิงอีกก็ไม่รู้ ก็ตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่องที่ผับผมก็ไม่ค่อยได้คุยกับยัยปีศาจเท่าไหร่ ออกจากห้องตั้งแต่เช้ายัยปีศาจก็ยังไม่ตื่น กลับห้องอีกทีก็ค่ำเกือบเที่ยงคืนยัยปีศาจก็หลับไปแล้ว มันเป็นแบบนี้มาอาทิตย์หนึ่งแล้ว แต่เมื่อคืนผมตั้งใจทิ้งงาน กลับห้องเร็วก็มาหายัยปีศาจนี้แหละ แต่กลับมาก็ต้องรู้โมโหอีก ยัยปีศาจขนของออกจากห้องแต่เธอยังโชคดีที่เผลอหลับที่ห้องผม ไม่งั้นยัยนั้นโดนลงโทษหนักแน่ "ตื่นได้แล้วนินิว " ผมลุกมาทำข้าวต้มหมูให้ยัยปีศาจตั้งแต่เช้าหวังว่าเธอตื่นจะได้กินเลย แต่ตอนนี้ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไม่มีทีท่าคนที่นอนอยู่บนเตียงจะตื่นเลย ผมเลยต้องมาปลุกนี้ไง "..." "นินิวตื่น! ลุกมากินข้าวกินยาก่อน" ก้มลงไปเขย่าคนขี้เซาไม่ยอมตื่น "อื้อออ" ยัยปีศาจพลิกหลบจากการก่อกวนเวลานอนของตัวเองไปอีกฝั่งของเตียงแล้วนอนต่อ เฮ่อ! "ไม่ตื่นจะอุ้มนะ" ไม่ต้องรอเอาคำตอบก็อุ้มร่างบางใต้ผ้าห่มเข้าห้องน้ำ จัดการวางเธอไว้ที่เค้าเตอร์อ่างล้างหน้า "..."แต่ก็อย่างว่ายัยปีศาจไม่ยอมตื่นแถมกอดคอซุกหน้ากับซอกคอผมอีกต่างหาก จะบ้าตาย ทำไมขี้เซาขนาดนี้นะ แล้วถ้าตอนนี้ไม่ใช่ผมเธอไม่เสร็จคนอื่นไปแล้วรึไง บ้าเอ้ย แต่ก็น่ารักดีเพราะเป็นผม "ไม่ตื่นจะปล้ำนะ" ไม่พูดเปล่ามือผมก็ล่วงเข้าไปในสาบเสื้อของเธอเลื่อนขึ้นมาบนหน้าอกแล้วออกแรงบีบไม่แรงมาก "อ่ะ อื้อ! ปล่อย" ยัยปีศาจลืมตาโผลผลักผมออก เหมือนเมื่อกี้เธอจะไม่ได้หลับนะว่ามั้ย "ตื่นแล้วหรอ หึ จุ๊บ มอร์นิ่งคิส " ผมก้มลุงไปจุ๊บปากบางนั้นเบาๆเป็นการทักทาย ที่จริงผมไม่ได้อยากจุ๊บหรอก อยากจูบมากกว่า แต่ต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน "เอ่อ...มอร์นิ่ง" ยัยปีศาจทำท่าเลิกลั่กๆทำอะไรไม่ถูก หน้าก็แดง น่ารักชะมัดเลย "ทำไมต้องหน้าแดงด้วย อเมริกาไม่คิสกันหรอ หึ" ผมเท้าแขนสองข้างไปข้างหน้ากักยัยปีศาจไว้ทำหน้าล้อเลียนยัยปีศาจที่ทำเหมือนตัวเองไม่เคยจุ๊บกับใครมาก่อน "ออกไปได้แล้ว ไป" ยัยปีศาจน่ารักลงจากเค้าเตอร์ผลักผมให้ออกจากห้องน้ำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD