ผู้หญิงในความฝัน

1186 Words
ตอนที่ 2 ผู้หญิงในความฝัน “ผิวเป็นรอยบวมแดงเลย” ปริญ ขยับร่างมาใกล้กว่าเดิม มือหนายังเกาะกุมมือของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ใบหน้าหล่อเหลาเงยมองเธอแล้วส่งรอยยิ้มให้ ดวงตาสีนิลเข้มฉายแววสว่างไสวเมื่อสบตาเธอ มนชิดา ใจเต้นระส่ำเมื่อมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาของเขา เธอเคยเห็น ปริญในสื่ออยู่บ่อยครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตัวเป็นๆของเขาในระยะใกล้แค่ปลายจมูก “ทำไมมองหน้าผมแบบนั้น?” ปากหยักได้รูปของเขายกยิ้ม นั่นทำให้หน้าหล่อนั้นเจิดจรัสราวกับเทพบุตร เขาดูดีมากในชาติภพนี้ อาจเป็นเพราะผลบุญความดีมากมายที่เขาได้กระทำมาในภพที่แล้วก่อนที่ตายจากศรีไพรไป “อะ..เอ่อ มนไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวชักมือกลับ ขนอ่อนในกายเริ่มลุกชูชันเมื่อลมหายใจอุ่นร้อนของเขารวยรดรินอยู่ไม่ห่าง แต่เหมือนอีกฝ่ายดูจะไม่ยินยอม ร่างหนานั้นเขยิบมาชิดใกล้มากกว่าเดิม “คุณชื่อมนเหรอ?” “ค่ะ ชื่อมน ..มนชิดา มนเป็นทีมการตลาดของที่นี่ค่ะ” น้ำเสียงของเธออ่อนไหวระริกอย่างไม่ทราบสาเหตุ พลันแววตาของ ปริญ ดำมืดลงทันที เมื่อมองหน้าเนียนใสผุดผาดของหญิงสาวตรงหน้าเต็มตา ปากนิดจมูกหน่อย ดวงตาสว่างสุกสกาว คล้ายใครคนหนึ่งที่เขาพบเจอในความฝัน แทบทุกคืน คนที่เขาฝันเห็นมาตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน โดยที่ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นคือใครและมาจากไหน ทุกครั้งที่ได้เจอในความฝัน เธอและเขาเริงรักกันอย่างเร่าร้อน สัมผัสในฝันนั้นรบกวนจิตใจเขาทุกคืนวัน จนตื่นมาฝันเปียกแทบทุกครา “เราเคยเจอกันมาก่อนมั้ยครับ?” เขากระซิบถามเสียงแหบพร่า ทว่านัยน์ตาคู่สีนิลเข้มยังแฝงแววสับสนลุ่มลึก “คะ” มนชิดา ถอยหลังจนชิดผนังห้องด้วยความประหม่า จะต้องให้เธอตอบเขาว่าอย่างไร เราเคยเจอกันมาก่อน เมื่อชาติที่แล้ว ตอนนั้นคุณชื่อตะวัน เป็นคนที่คอยทำดีกับศรีไพรมาตลอด แม้เธอจะเลือกแต่งงานกับพิพัฒน์ ถ้าบอกไปแบบนี้ ...เขาจะเชื่อเธอมั้ย? “ไม่ค่ะ เราไม่เคยเจอกัน” เธอเลือกตอบแบบนี้ “อืม จริงเหรอครับ? ..แต่ท่าทางของคุณ” ปริญ ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นกริยาของเธอ นิ้วเรียวแข็งเชยปลายคางเรียวมนขึ้นมาสบตาอีกครั้ง “ค่ะ มนเพิ่งมาทำงานที่นี่ไม่ถึงสองเดือน” เธอต้องการอยากจะมาเจอเขาก็จริง เพราะอยากเห็นว่าเขาเป็นอย่างไรในภพนี้ แต่ไม่คาดว่ากริยาของเขาจะแตกต่างจาก ตะวัน ผู้ที่แสนสุภาพและขึ้อายคนนั้น ปริญ ในภพนี้ดูลุ่มลึก แฝงด้วยความดุดันราวสัตว์ป่า เขาดูน่าเกรงขาม จนเธอรู้สึกหวั่นไหวเมื่อสบตาและอยู่ใกล้ จนแทบจะลืมเลือนทุกสิ่งรอบข้างในตอนนี้ “หือ น้ำหอมคุณมนหอมจังกลิ่นเหมือนดอกไม้ป่า” ปริญ ขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นหอมประหลาด ด้วยเขาไม่เคยได้กลิ่นนี้จากผู้หญิงคนไหน กลิ่นมันแปลกแต่แฝงด้วยเสน่ห์ยั่วยวนจนเขาอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าหล่อลงซอกคอระหงของเธอ “อะ ..คุณปริญ” ดวงตาของ มนชิดา เบิกโพลงอย่างตระหนก หัวใจเธอเต้นระส่ำแทบจะทะลุออกมา มือทั้งสองเธอยึดกับขอบโต๊ะไว้แน่น เมื่อเขาซุกหน้าดอมดมจุดอ่อนไหว “ผมชอบกลิ่นนี้” ปริญ กระซิบข้างหู มือหนาโอบกอดเธอไว้แน่นตั้งแต่ตอนไหนไม่แน่ใจ แต่ทำให้ มนชิดา อึ้งจนทำตัวแทบไม่ถูก เธอไม่คุ้นชินกับรสสัมผัสของเขาไม่ว่าในอดีตก็ตาม ตะวัน ไม่เคยล่วงเกิน ศรีไพร เลยสักครั้ง “คุณปริญ ปล่อยมนก่อนค่ะ” เธอปรามเสียงสั่น ใจเริ่มอ่อนไหว เมื่อสัมผัสกับร่างกำยำแน่นเครียดด้วยมวลเนื้อแข็งแรงของเขา “ผมอยากจะดมกลิ่นอีกหน่อย” หน้าหล่อเหลายังคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอ และงับติ่งหูเบาๆ กลิ่นจากเรือนผมสลวยหอมละมุนผสมกับกลิ่นดอกไม้ป่า ทำให้เขาไม่อาจจะผละจากเธอได้ เธอมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด จนเขาอยากจะจู่โจม แบบที่ไม่เคยทำอย่างนี้กับใครมาก่อนที่เพิ่งจะเจอหน้ากันไม่กี่วินาที “มะ ..ไม่ อื้อ” มนชิดา ยืนตัวแข็งนิ่งปล่อยให้คนตัวโตดูดดอมดมอย่างเอาแต่ใจ สมองเธอเริ่มสับสนด้วยไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเช่นนี้ เขาผละหน้าออกห่างจาก ก่อนจะสบตาเธออีกครั้ง “ผมอาจรุ่มร่ามไปหน่อย” ปริญ กัดฟันแน่น เมื่อสบตาสวยจากกรอบหน้างาม ก่อนจะหลุบต่ำมองปากจิ้มลิ้มที่เผลออยู่ตรงหน้าอย่างชั่งใจ “สักพักคุณพัฒน์น่าจะถึง อื้อ...” เสียงของเธอหลุบหายไปในลำคอ เมื่อเขาก้มลงประทับจูบเธออย่างรวดเร็ว มือหนาจับหน้าของเธอไว้แน่น ขณะที่ริมผีปากหยักบดขยี้เรียวปากอิ่มของเธอ ปริญ ขบเม้มริมผีปากและไล้ปลายลิ้นร้อนยังเรียวปากอ่อนนุ่มของเธอ ก่อนจะผละออก “อืม” หน้าหล่อเหลา มองเธออย่างไม่เข้าใจตัวเอง ก่อนจะไล้ปลายลิ้นสัมผัสเลียความหอมหวานเมื่อสักครู่ เกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา? “...” มนชิดา ไม่เอ่ยคำใดออกมา เธอได้แต่ยืนนิ่งเช่นกัน เขาเป็นจูบแรกของเธอในภพนี้ สองแก้มอิ่มของเธอจึงร้อนฉ่าแดงก่ำเหมือนลูกตำลึงสุก แววตาเธอมองเขาคล้ายตัดพ้อต่อว่า เหมือนเด็กน้อยกำลังถูกรังแกก็มิปาน “มน..” เขาขยับมาใกล้อีกครั้ง เมื่อเห็นเธอทำท่าจะเดินออกจากห้อง ความสับสนในใจทำให้เขานิ่งเพียงครู่ ก่อนจะคว้าเอวคอดเข้ามาใหม่ “อะ..คุณปริญ” หน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงมาอีกครั้ง เขาอยากแน่ใจในความรู้สึกสับสนของตัวเอง จึงกดริมผีปากจุมพิตลงไปอีกครั้งอย่างหนักหน่วง “อื้อ” มนชิดา หลับตารับจูบจากเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับแตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ปริญ กดริมผีปากลงอย่างนุ่มนวลและขบเม้มเบาๆ ไม่เร่งเร้าจู่โจมเช่นตอนแรก ความอุ่นร้อนและกลิ่นกายหอมสะอาดของเขาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด จูบของเขาอ้อยอิ่ง และเว้าวอน เธอรู้สึกราวกับโลกรอบข้างหยุดหมุน สมองปิดการรับรู้ใดๆ นอกจากสัมผัสผ่าวร้อนจากจุมพิตของเขาที่เด่นชัด ริมผีปากของเธอเผยอออกโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ลิ้นสากร้อนของเขาจะสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากนุ่ม ดุนดันตวัดรัดเลียลิ้นเล็ก จนเธอรู้สึกร้อนวาบไปทั่วร่าง “อื้อ” *********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD