กลิ่นที่หลงไหล

1111 Words
ตอนที่ 5 กลิ่นที่หลงไหล ตอนแรก มนชิดา ไม่ได้อยากไปพบกับ ปริญ มากนัก เพราะในการเจอเขาในวันนี้ทำให้เธอรู้สึกประหม่าและไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่กับตัวตนที่เปลี่ยนไปจากอดีตราวหน้ามือเป็นหลังมือของชายหนุ่ม แต่กริยาของสองแม่ลูกนั้นทำให้เธอเริ่มรู้สึกอยากจะเอาชนะขึ้นมา ทั้งที่ใจลึกๆแล้ว เธอไม่อยากให้ ปริญ มาร่วมพันธมิตรกับทางโกอายกรุ๊ปเท่าไหร่ อะไรหลายอย่างที่เธอรับรู้ในอดีต บอกเธอว่าตระกูลของสุรีย์พรค่อนข้างจะเอารัดเอาเปรียบคนอื่นเสมอ แต่สุดท้ายในตอนเย็น เธอก็มาตามนัดหมายจนได้ เมื่อมินิแวนคันหรูพร้อมคนของปริญ มาจอดรอหน้าบริษัท “คุณปริญ ให้มารับคุณมนครับ” คนของเขาที่มนชิดา คุ้นหน้าจากที่ได้เจอวันก่อนกล่าวอย่างนอบน้อม ก่อนจะเปิดประตูรถให้เธอเข้าไปนั่ง เพื่อพาหญิงสาวไปยังจุดหมายที่เจ้านายรออยู่ “ถึงแล้วครับคุณมน” มนชิดา ค่อนข้างแปลกใจ เนื่องด้วยคาดว่าคนของเขาจะพาเธอไปยัง สำนักงานของภาสกรกรุ๊ป แต่กลับมายังร้านอาหารหรูติดริมแม่น้ำ “คุณปริญ รออยู่ด้านในแล้วครับ” เธอเดินตามที่คนของเขาบอกอย่างเกร็งๆ ใจที่นึกถึงแต่เรื่องราวในอดีต ทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกเวียนหัวและสับสน ยิ่งมาอยู่ใกล้และได้พบเขาอีกครั้ง ภาพอดีตต่างๆมากมายเริ่มผุดขึ้นมาทีละนิดละน้อย “อ้ะ” “ไปไรหรือเปล่าครับ?” ร่างสูงที่รออยู่ในห้องปราดเข้ามาประคอง เมื่อเห็นเธอเซถลาเหมือนจะล้ม จนกลิ่นกายของเขาปะทะเข้ามาในจมูก เธอเงยหน้ามองเขาด้วยนัยน์ตาปรือเชื่อม “ไม่สบายเหรอครับ?” ปริญ เลิกคิ้วขึ้นสูง แต่ยังโอบเอวคอดไว้หลวมๆ ไม่ยอมปล่อย อย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าเพราะอะไรร่างนิ่มนี้ถึงมีเสน่ห์ดึงดูดเขาอย่างล้นเหลือ “แค่เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ สงสัยมนจ้องคอมนานไป” หญิงสาว ยิ้มกลบเกลื่อน เบือนหน้าจากสายตาคมคายที่จ้องมองเธออย่างล้ำลึก ...สายตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยน้ำตา วันที่ศรีไพร เลือกที่จะแต่งงานกับ พิพัฒน์ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้เสพสมครองคู่กัน ตะวัน เคยเอ่ยอธิฐานไว้ตอนไปวัดด้วยกัน ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของศรีไพรกับตะวันนั้น ผูกพันธ์แน่นแฟ้นจนเกินจะแปรเปลี่ยนเป็นคนรักได้ แม้ตะวันจะมีใจให้ศรีไพร แต่เธอก็ไม่เลือกเขาในวันนั้น แต่เมื่อวันหนึ่งที่เธอรู้ตัวว่าแท้จริง หัวใจของเธออยู่กับเขามาตลอด ...วันนั้นที่เธอต้องการจะบอกเขา ตะวัน ก็จากโลกนี้ไป เขาคงไม่รู้ว่า ศรีไพร ร่ำให้เสียใจมากแค่ไหน “ผมชอบกลิ่นน้ำหอมของคุณมนจัง ผมไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อน” ปริญ เอ่ยเบาๆ ดวงตาคู่สีนิลหรี่ต่ำ เมื่อปล่อยร่างของเธอออกจากวงแขน และสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าเข้าไปเต็มปอด “เป็นน้ำหอมทำมือของที่บ้านค่ะ สลัดจากดอกไม้ป่า” มนชิดา บอกเสียงหวาน เมื่อสบตากับหน้าหล่อเหลาที่ฉายแววสงสัยเต็มประดา น้ำหอมสกัดที่แม่เธอทำเป็นน้ำหอมดอกไม้ป่าห้าชนิดที่ น้าศรีไพร ทำไว้และใช้มาเนิ่นนานแล้ว “อ้อเหรอครับ ผมชอบกลิ่นมันจัง” เขาทำหน้าค้างไว้ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงเอาสันจมูกลงใกล้เธอ เพื่อสัมผัสกลิ่นอีกรอบ “คะ..คุณปริญ” “ขอโทษครับ ผมรุ่มร่ามไปหน่อย” ปริญ ผละออกห่างเมื่อได้สติ และผายมือเชิญเธอไปยังโต๊ะอาหารที่เตรียมไว้รออยู่แล้ว โต๊ะที่เขาจองไว้อยู่ติดริมกระจกในห้องส่วนตัว มองเห็นวิวที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตัวเอง อาหารเริ่มเสิร์ฟหลังจากนั้น เธอแอบลอบมองเขาขณะก้มหน้าจัดการอาหารบนจานตัวเอง วันนี้ปริญ อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตไหมสีงาช้างพับแขนไปจนถึงข้อศอก กับกางเกงชิโนเนื้อดี หน้าตาหล่อคมคายดูเกลี้ยงเกลากว่าเมื่อวันก่อนเหมือนเพิ่งจะโกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเกลากว่าเดิม จนเห็นไผแดงตรงหางคิ้วเด่นชัดกว่าเดิม ไผแดงที่เธอเคยลูบไล้มันอยู่ประจำ “หน้าผมมีอะไรหรือเปล่าครับ?” ปริญ เงยหน้าถามด้วยเสียงทุ่มต่ำ แต่แววตาคมกริบนั้นก็ไม่ได้ฉายแววตำหนิเลยไม่แต่น้อย “ปะ..เปล่าค่ะ มนแค่แปลกใจว่า ทำไมคุณปริญถึงนัดให้มาคุยงานที่นี่ ไม่ใช่ที่บริษัท” กระนั้นเธอก็ตอบเขาด้วยเสียงราบเรียบ พยายามเก็บความประหม่าไว้ในใจจนลึกสุด เมื่อความปั่นป่วนเริ่มเล่นงานเพราะภาพอดีตในหัวเริ่มเด่นชัดขึ้น “ผมแค่อยากทานมื้อเย็นกับคุณมนเท่านั้น” ปริญ เอ่ยตามตรงไม่อ้อมค้อม รายละเอียดต่างๆเขาได้ข้อมูลครบหมดถ้วนหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องรับฟังอีกแต่อย่างใด ตอนนี้เขาแค่ขอเวลาตัดสินใจเท่านั้น “แล้วคุณปริญมองว่ายังไงคะ สำหรับการร่วมพันธมิตรในครั้งนี้” “ก็น่าสนใจดีนะครับ แต่เป็นธุรกิจที่เราไม่เคยทำ ผมอาจต้องให้ทางคอนเซ้าท์หาข้อมูลเพิ่มเติมอีกหน่อย” ความจริงเขาไม่ได้ใส่ใจมาก ข้อเสนอต่างๆที่โกวายกรุ๊ปแจ้งมาเขาจึงไม่รีบร้อนที่จะพิจารณาเท่าใดนัก “ถ้าดูแล้วเสี่ยงเกินไป อย่าร่วมดีกว่าค่ะ” “หือ” คำบอกของเธอทำให้ ปริญ ชะงักเล็กน้อย หน้าหล่อเหลาเงยมองหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ แม้วันนี้เขาบอกว่าจะชวนเธอมาทานมื้อเย็นก็จริง แต่เธอเองก็มาในนามโกอายกรุ๊ป อย่างไรเสียก็ต้องพรีเซ้นต์ให้เขาโอนอ่อนเพื่ออยากเซ็นสัญญาอยู่แล้ว “ความจริงคุณปริญเองก็ไม่ได้อยากจะร่วมทุนธุรกิจกับโกอายอยู่แล้วใช่มั้ยคะ แค่มาคุยเพราะทางกรรมการและผู้ใหญ่แนะนำมาเท่านั้น” ปริญ หัวเราะออกมาเล็กน้อย “ผมชักชอบผู้หญิงอย่างคุณแล้วซิ” ปากหยักได้รูปยกยิ้ม ดวงตาคู่สีนิลวาววับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด อะไรหลายอย่างจากผู้หญิงคนนี้ ทำให้เขาอยากจะค้นหาเธอเพิ่มยิ่งกว่าเดิม ยิ่งอยู่ใกล้เธอ เขาก็ยิ่งอยากจะรุกเข้าไปมากกว่านี้ *****************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD