ตอนที่ 7
ความปราถนาในใจ
“เสียงครางคุณหวานดีจัง ...ผมอยากฟังทั้งคืนเลย”
ปริญ กระซิบบอกข้างหูเธอ สัมผัสจากกลีบอ่อนนุ่มพร้อมเสียงครางหวานกระเส่านี้ช่างเหมือนกับเสียงที่เขาได้ยินในความฝันมาตลอด แค่นึกลำดับเหตุการณ์เขาก็เริ่มปวดหนึบจนแทบจะระเบิดในตอนนี้
ริมผีปากหยักบดเบียดเข้าหากันแน่น
“....”
“ถ้าค้างกับผมคืนนี้ ผมมีพรให้คุณมนขอได้สองข้อ อะไรก็ได้ที่คุณต้องการผมจะเนรมิตรให้”
เขาไม่ใช่ตะวันแล้ว แต่กลายร่างเป็นพระเจ้า
...หรือว่า เป็นปีศาจกันแน่ จึงจะสามารถให้พร ตามที่เธอขอได้เช่นนี้
“คุณปริญครับ มีสายด่วนจากสิงคโปร์ครับ”
เสียงลูกน้องของเขาตะโกนบอกจากด้านนอก
“แปป”
หน้าหล่อเหลายังคงเรียบเฉย ก่อนจะผละมือออกจากกลีบเนื้อนิ่มอย่างเสียดาย
“รอผมนี่นะครับ เดี๋ยวไปคุยเรื่องงานแปปเดียว”
มือหนากดคนตัวเล็กที่เตรียมขยับไว้ ก่อนจะยกมือขึ้นเลียปลายนิ้วตัวเอง กลืนกินความหวานหอมจากกลีบกุหลาบของเธอด้วยท่าทางที่ยั่วยวน
เขาไม่ใช่ตะวัน อีกต่อไป...ไม่ใช่แม้สักนิด
ปริญ ยกคิ้วให้เธอ ก่อนจะหันหลังผละออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป มนชิดา จึงได้ถอนหายใจออกมา
เมื่อเห็นฝีเท้าถอยห่างออกไปแล้ว หน้าสวยจึงโผล่ออกจากห้อง ก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะเหมือนเดิม ใจครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ ด้วยเริ่มลังเลกับเงื่อนใจพรสองข้อที่เขาให้มา
ศรีไพรอยากได้อะไร ตะวันจะหาให้ทุกอย่าง
พลันเสียงของ ตะวัน ก็ดังก้องขึ้นมาในโสตประสาท พร้อมภาพของเขา ใบหน้าหล่อเหลาคมคายด้วยแววตาใสซื่อที่มองมายังศรีไพร เปี่ยมไปด้วยความรักที่ท่วมท้น
ขอโทษนะตะวัน ศรีจะแต่งงานกับคุณพัฒน์แล้ว
ไม่นะ อย่าทำแบบนั้น
เสียงร่ำให้ของ ตะวัน แว่วดังในหูจน มนชิดา เริ่มจะปวดเกร็งไปทั่วโสตประสาท ทุกครั้งที่ภาพอดีตปรากฎชัดลมหายใจเธอจะเริ่มตัดขัด และครั้งนี้เหมือนจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง
“มะ ..ไม่ หายใจไม่ออก”
เธอพยายามตะเกียกตะกาย เปิดประตูเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อเหงื่อเริ่มซึมตามตัว ภาพและเสียงเด่นชัดขึ้นในวันแต่งงานของพิพัฒน์กับศรีไพร
“อือ ยะ..อย่า”
สติสัมปะชัญญะของเธอเริ่มดับวูบลง ร่างบางเซถลากับขอบประตู ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักวิ่งมาแต่ไกล ก่อนที่ร่างบางของเธอจะโดนวงแขนแข็งแรงโอบไว้ ให้หน้าสวยซบยังหน้าอกแกร่งของใครคนหนึ่ง
สมองเธอไม่รับรู้อะไรต่อจากนั้น แต่จมูกสัมผัสได้กลิ่นกายหอมสะอาดของเขา
กลิ่นกายที่เธอคุ้นชินมาแสนนาน
.
“ไม่น่าจะเป็นอะไร ทุกอย่างปกติน่าจะเครียดมากกว่า”
เสียงบอกของเพื่อนที่เป็นหมอ ทำให้สีหน้าของ ปริญ ดีขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากเขาพาร่างที่ไม่ได้สติของเธอกลับมายังบ้านของตัวเอง แล้วเรียก หมอนกุล เพื่อนสนิทให้มาดูอาการ
“มึงแน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร ทำไมเขาตัวสั่นและยังไม่ได้สติแบบนี้” ปริญ เอ่ยถามเสียงเข้มอย่างไม่วางใจ เมื่อปราดมามองหน้าสวยของ มนชิดา ที่ยังคงเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ
“แน่ใจ อาการแบบนี้คล้ายกับแพนนิคอย่างนึง กูให้ยาคลายระบบประสาทไปแล้ว เดี๋ยวนอนอีกสักพักคงน่าจะดีขึ้น”
นกุล บอกเพื่อนและยังคงมองเขานิ่ง
“มองอะไรของมึง?”
“ว่าแต่ กูไม่เคยเห็นเด็กมึงคนนี้เลย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนรสนิยมเป็นแนวหวานน่ารักแล้วเหรอวะ”
นกุล ถามกลับ เมื่อเหลือบมองหน้าเนียนใสที่ยังหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนกลางห้องในบ้านพักของ ปริญ
ความจริงเขาไม่อยากจะซอกแซกมากนัก แต่แค่สงสัยในท่าทางห่วงใยอย่างล้นเหลือของเพื่อนหนุ่ม และยังพาสาวสวยคนนี้มาที่บ้านพักส่วนตัวอีกด้วย
“เรื่องของกู”
คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้ เพราะเขาเองก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงกระวนกระวายใจนักตอนที่เธอตัวสั่นและสลบไปในอ้อมแขนของเขา
ตอนที่เธอโอบกอดเข้าไว้แน่น
“ช่วยด้วย!”
เสียงอ้อนวอนที่แสนทรมานนั้น มันสะท้อนเข้าไปในโสตประสาทของเขา จนรู้สึกเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้
เขาเคยได้ยินคำร้องขอนี้ แต่นึกไม่ออกว่าได้ยินเมื่อไหร่?
“อืม อย่างไงมึงก็อย่าเพิ่งไปกดดันน้องเขาละให้จิตใจเขาได้ผ่อนคลายสักหน่อย มีอะไรก็โทรหากูได้เลย”
หมอนกุล กำชับเพื่อนก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ปริญ ไม่ได้เดินไปส่งเพื่อนเช่นทุกครั้ง เขาย่อกายนั่งลงข้างเตียงของตัวเอง แล้วมองหน้าคนตัวเล็กที่หลับไหลไม่ได้สติ หน้าเนียนใสผุดผาดภายใต้กรอบหน้างามนั้นยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนเธอคนนั้น
คนที่อยู่ในความฝันของเขามาตลอด
มือหนาไล้นิ้วยังเรียวแก้มนวลช้าๆ ปัดปรอยผมที่ปรกหน้าออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาครุ่นคิดเมื่อมองเธออย่างพิจารณา
“ขอโทษ”
เธอพึมพำออกมาเบาๆ มือนิ่มไขว่คว้าขึ้นสูง ก่อนจะเกาะมือเขาแล้วกุมไว้แน่น
“หือ”
ปริญ ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัย แต่ยอมให้เธอเกาะกุมมือของเขาไว้ไม่ยอมชักออก หน้าหล่อเหลาเอียงคอลงไปใกล้ เพื่อฟังว่าปากขมุบขมิบที่พึมพำนั้นพูดว่าอะไร
“ขอโทษนะๆ ...ขอโทษ”
ขอโทษเหรอ? ขอโทษเขาหรือใครกัน?
ไม่เคยมีสักครั้งในชีวิตที่ ปริญ เกิดความตื่นเต้นสงสัยใคร่รู้ ในเรื่องความคิดคนอื่นมากเท่านี้มาก่อน ตอนนี้เขาอยากจะมุดเข้าไปสมองของเธอ อยากจะรู้ว่าเธอคิดอะไร และเอ่ยถึงใคร?
และเรื่องอะไรกันที่ทำให้เธอเครียดจนไม่ได้สติแบบนี้
เขาอยากรู้ทุกอย่างที่เป็นเธอ
.....จนแทบจะระเบิดออกมาให้ได้
*******************