“แผลไม่ลึกมาก ในระหว่างนี้ห้ามโดนน้ำ”
เสียงหมออีธานบอกเขาอย่างใจเย็น ขณะวางอุปกรณ์ทำแผลลงในถาด เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งขมวดคิ้วอยู่บนโซฟา
“เปลี่ยนผ้าก๊อซทุกวัน ใช้ยาทาแผล แล้วก็—”
“ฉันไม่ใช่เด็กหัดเดิน ไม่ต้องพูดย้ำ” โจฮันพูดขัดขึ้นอย่างรำคาญ หันหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากสบตาใครตอนอารมณ์ไม่ดี
“นายนี่มันดื้อจริงๆ”
เสียงหมออีธานพูดเรียบๆ แต่ยิ้มขำนิดๆ
ก่อนหยิบยาขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“นี่คือยาสำหรับลดบวม ลดอักเสบ และแก้อักเสบในสมองเผื่อโดนรีโมทแรงไปหน่อย”
“หึ”โจฮันแค่นหัวเราะในลำคอ ส่ายหน้าเบาๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองโดนเข้าเต็มแรงจริงๆ
“อย่าลืมกินยา ห้ามแกะแผล แล้วก็-”หมออีธานชะงักเล็กน้อย “ถ้าอยากให้แผลหายเร็วก็อย่าเครียด อย่าหัวร้อน ”
เขาพูดขำๆอย่างคนสนิทกัน
“ปากนายนี่ใช้ได้ ถ้าไม่ใช่หมอฉันจะซัดหน้านายซักที” เขาเอ่ยขึ้นเสียงเบา จับแผลบนขมับที่โดนปิดไว้ด้วยผ้าก๊อซอย่างหงุดหงิด
“หึ!!งั้นฉันกลับนะ ที่โรงพยาบาลมีเคส ”
หมอสะพายกล่องปฐมพยาบาลขึ้นบ่า
“อืม ขอบใจ คาลอสไปส่งอีธานด้วย”
“ครับนาย”
ลูกน้องรับคำแล้วเดินไปเปิดประตูให้หมอ หมออีธานคือหมอประจำตระกูล ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ที่ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะมาทำหน้าที่นี้
อีกด้าน
หลังจากที่เธอออกมาจากคอนโดเขาได้ ก็รีบเรียกรถกลับมาที่ผับ ก่อนหยิบมือถือขึ้นมาดู เกือบ40สายที่ใครบ้างก็ไม่รู้โทรตาม ดีที่ไม่มีเบอร์พ่อกับแม่ เพราะเธอย้ายมาอยู่คอนโดพักใหญ่ๆแล้ว ไม่งั้นมีหวัง ป่านนี้พ่อกับแม่เธอคงไปแจ้งความคนหายแล้ว
ครืด ครืด
{ฮัลโหลพิ้งเมื่อคืนหายไปไหนมา รู้ไหมฉันเป็นห่วงแทบแย่ ฉันกับคีรินทร์ทั้งโทรทั้งตามหา เป็นห่วงมากเลยรู้ไหม}
พอแดนเหนือรับสายเขาก็ถามเธอยาวเหยียด
“คือ ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง เมื่อคืนเมามากไปหน่อยเลยเรียกรถกลับคอนโด แล้วน้ำตาลกับเรยาล่ะ”
{สองคนนั้นเมามาก ฉันกับคีรินทร์พาไปนอนห้องที่จองไว้ ว่าแต่เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกรู้ไหม}
“อืม ขอบใจนายมากนะ งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนไว้คุยกัน”
{โอเค}
“เฮ้อ!! ดีที่น้ำตาลกับเรยาเมา ไม่งั้นคงโดนเพื่อนอีกสองคนบ่นหนักแน่”
พิชชาถอนหายใจโล่งอก รีบขับรถจากผับกลับคอนโด และเปิดน้ำอุ่นนอนแช่เพื่อผ่อนคลาย
แต่พอหลับตาลง หน้าของไอ้คนฉวยโอกาสโจฮันก็วนเวียนในหัว ทุกภาพความเร่าร้อนที่เธอคิดว่าฝันแต่มันไม้ใช่
“ฮึ่ย ไอ้บ้า สาธุ ไม่ว่าชาตินี้ชาติหน้า หรือแม้กระทั่งชาติไหนๆ ขออย่าให้ฉันเจอไอ้มาเฟียเลวโจฮันอีกเลย”
พูดมาแล้วน้ำตาจะไหล เธอไม่ได้เสียดายครั้งแรกอะไรหรอก แต่เสียใจที่เป็นเขาต่างหาก
วันไนท์กับคนที่รู้จัก ใครเขาทำกันละ ปกติต้องวันไนท์กับคนแปลกหน้าสิถึงจะถูก
เช้าที่บริษัท Beauty Pink
“คุณจิตราคะ วันนี้เพื่อนพิ้งจะเข้ามาดูบริษัท ฝากช่วยดูแลด้วยนะคะ”
“รับทราบเลยค่ะคุณพิ้ง” จิตราเลขาใหญ่ของบริษัท รับคำทันทีพร้อมรอยยิ้ม มือถือแฟ้มเอกสารไว้แน่น
“เอ่อคุณพิ้งคะ คุณจีน่ายอมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์เราแล้วนะคะ แต่นัดทำสัญญาเดือนหน้า
เห็นบอกตอนนี้ไม่สะดวก เพราะติดงานอยู่ที่ต่างประเทศ ”
“ดีเลยค่ะ เดือนหน้าก็ไม่เป็นไร เพราะลิปสติก10สีตัวใหม่ออกพอดี แบบของผลิตภัณฑ์เก็บเป็นความลับที่สุดนะคะ”
“ ได้ค่ะคุณพิ้ง ว่าแต่เพื่อนคุณพิ้งล่ะคะ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนสนิทสมัยมหาลัยไว้ใจได้ค่ะ”
“รับทราบค่ะ”
เลขาสาวรีบรับคำ
เธอถอนหายใจเบาๆ ด้วยความรู้สึกหลายปะปนกันไปหมด ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง
ช่วงสายของวัน รถยุโรปคันหรูสีขาวเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าตึกสำนักงานใหญ่ เรยาเพื่อนสนิทสมัยมหาลัยก้าวลงจากรถ ในชุดเดรสเรียบหรูแต่ดูแพง ขยับแว่นตากันแดดราคาแพง สำรวจบริเวรโดยรอบอย่างตื่นตา
“ว้าว ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของ Beauty Pinkเหรอ ดูดีกว่าที่คิดอีกแฮะ!”
พิชชายิ้มกว้างยืนรอรับเพื่อนด้วยตัวเอง
“เป็นไง ที่นี่ฉันกับคุณพ่อคุณแม่ช่วยกันออกแบบเลยนะ ”
พิชชาเดินไปกอดเอวเพื่อน ก่อนเดินเข้าไปในบริษัทพร้อมกัน
“แกเก่งอะ สมแล้วที่เรียนเก่งมาตั้งแต่มหาลัย”
“ใช่ม๊ะ ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆๆ”
สองสาวเดินกอดกันเข้ามาภายในบริษัท
“นี่ห้องทำงานฉันเอง นี่คุณจิตราเลขาฉันเอง ส่วนนี่เรยาเพื่อนพิ้งเอง ”
พอเข้ามาถึงในห้องทำงาน พิชชาก็แนะนำให้เพื่อนรู้จักเลขา
“สวัสดีค่ะคุณเรยา”
“สวัสดีค่ะคุณจิตรา”
เรยามองดูบริษัทเพื่อนอย่างตื่นตาตื่นใจ มองสำรวจไปทั่วห้องทำงาน
“กรี๊ด!!!นี่ลิปสติกตัวใหม่แกเหรอ ”
เรยารีบเดินไปหยิบลิปสติก คอลเลคชั่นใหม่ที่ยังไม่มีใครได้เห็น เพราะเตรียมเปิดตัวเดือนหน้านี้แล้ว
“ เป็นไงแพ็คเกจเรียบหรูดูแพงไหม”
“สุดยอดเลย ควรค่าแก่การครอบครองมาก”
“ ลองดูสิ คอลเลคชั่นนี้เราทำมาทั้งหมด 10 สีเลยนะ”
เรยาพยักหน้าอย่างดีใจ และหยิบลิปสติกขึ้นมาลอง
“โอ้โห้!! ทำไมสีไฮโซโก้หรูแบบนี้ แกขายแท่งเท่าไหร่กัน”
“พันนิดๆอะ แต่สีสวยติดทนนะ ”
“อือหื้อ ไม่แพงเลย”
“คุณจิตราคะ เดี๋ยวไปเอาลิปสติกที่คลังให้เรยาด้วย ”
“ ได้ค่ะคุณพิ้ง”
“ ฉันต้องไปคุยกับลูกค้า เดี๋ยวยังไงจะเดินดูโรงงานได้ตามสบายเลยนะ ”
พิชชามองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนบอกเพื่อนสาวแล้วออกจากห้องไปคุยกับลูกค้า โดยให้เลขาดูแลเพื่อนแทน