ตอนที่ 5 ร้อนตัว

1351 Words
เสียงของเฮียไคที่ตะโกนเรียกชื่อยัยคริสออกมา ทำให้ฉันรีบหันหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความตกใจ เพราะภายใต้ผ้าขนหนูสีขาวผืนนั้นมันมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่ งูยักษ์ใช่มั้ย!! หรือว่ามันคือตัวอะไร? อนาคอนด้าหรือเปล่า!! “เอ่อ เดี๋ยวเฮียขอตัวก่อนนะ” พูดจบเฮียไคก็รีบเดินออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้ฉันที่ยืนตัวสั่นอยู่กับยัยเพื่อนตัวดีที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่รู้ว่าคืนนี้ฉันจะข่มตานอนได้มั้ย แต่บอกได้เลยว่าฉันจำไปจนวันตายแน่นอน ก็ใหญ่ขนาดนั้นจะไม่ให้จำได้ไง ไม่รู้ว่าตอนที่มันแข็งตัว มันจะใหญ่กว่านี้มั้ย เดี๋ยวนะ!! นี่ฉันกำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย แกควรจะรีบอาบน้ำแล้วไปนอนได้แล้วนะยัยจัส!! วันต่อมา 08.55 น. “อื้อ!!” ฉันค่อยๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นช้าๆ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างมาทับบนตัวของฉัน และมันก็ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะมันคือแขนกับขา ของยันคริสตัลที่พาดอยู่บนตัวของฉันในตอนนี้ “ยัยคริส ฉันหนัก” หนักที่แปลว่าหนักจริงๆ จนฉันหายใจหายคอแทบจะไม่ออกแล้วตอนนี้ นี่ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเฮียไคถึงได้บ่นเมื่อคืน!! “ฉันตัวเล็กน่าทะนุถนอมขนาดนี้ เอาอะไรมาหนัก” “หนักจริงๆ เมื่อคืนพี่แกก็บ่นตอนที่อุ้มแกขึ้นมา” “เฮียไคเหรอ เขาบ่นอะไร?” “บอกว่าแกควรลดชาบู ปิ้งย่างลงบ้าง เพราะเขาอุ้มแกจะไม่ไหวอยู่แล้ว” นี่ถ้าบอกไปว่าเฮียไคว่ามันเป็นหมู มีหวังยัยนี่ได้กรี๊ดบ้านแตกแน่ๆ “นี่ฉันหนักขนาดนั้นเลยเหรอ น้ำหนักก็ไม่ได้เพิ่มเลยนะ” “ล่าสุดแกชั่งตอนไหน?” “มกราปีที่แล้ว” “ยัยบ้า นี่มันมกราอีกปีละนะ มีหน้ามาบอกว่าน้ำหนักไม่เพิ่ม” “ก็ไม่ชั่งไง มันเลยไม่เพิ่ม ปล่อยให้มันอยู่ที่ห้าสิบสามนั่นแหละ” ฉันได้แต่ปลงให้กับคำตอบของยัยคริส ก่อนจะหันไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ กับหัวเตียงขึ้นมาดูเวลา “ยัยคริส จะเก้าโมงแล้วลุกเร็ว” “จะรีบลุกไปทำไมอ่า ฉันยังง่วงอยู่เลยนะ” “วันนี้มีเรียนตอนสิบโมง วิชาอาจารย์แม่ แกลืมเหรอ” “เออ จริงด้วย การบ้านยังไม่ได้ทำเลย” “ยัยคริสตัล!! แล้วเมื่อคืนแกจะถ่อไปเฝ้าฉันทำไมยะ” “ก็ห่วงแกไง แกไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อนอ่า” บอกตรงๆ ว่าฉันซาบซึ้งใจมากเลยนะ อย่างน้อยยัยคริส มันก็ห่วงฉันจริงๆ “ไป ลุกเลย เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านรอแกนะ” “อ่า เดี๋ยวให้เฮียไคซิ่งไปส่ง รับรองว่าทันแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะตื่นหรือยัง” “ทำไมแกไม่ขับรถไปเอง” “ขี้เกียจ หรือว่าแกจะขับ” “ฉันขับเป็นที่ไหนเล่า ยัยบ้า” “งั้นเฮียไคไปส่งนั่นแหละ ถูกแล้ว” ถ้าเป็นปกติฉันจะไม่อะไรเลยนะ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ทำให้ฉันไม่รู้จะมองหน้าเฮียไคยังไงดี หรือจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นดี “งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ ถ้าแกออกบ้านแล้วทักบอกด้วย เดี๋ยวฉันจะออกมารอหน้าบ้าน” “โอเคจ้ะ” หลังจากที่กลับมาจากบ้านยัยคริสตัล ฉันก็รีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความเร็วแสง หน้านี่ไม่ต้องแต่ง ทาแค่ครีมกับแป้งฝุ่นพอ ติ้ง!! ติ้ง!! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา ฉันจึงหันไปหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนจะพบว่าเป็นยัยคริสตัลที่ส่งข้อความมา คริสตัล : กำลังจะออกบ้านแล้วนะ คริสตัล : แกออกมาได้เลย @บนรถ “เฮียไค หวัดดีค่ะ” ทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถ ฉันก็รีบยกมือไหว้คนที่นั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ ซึ่งเฮียไคเองก็มองฉันผ่านกระจกมองหลังก่อนที่เขาจะเบือนสายตาไปมองยังถนนเบื้องหน้าในเวลาต่อมา “คืนนี้ให้ยัยจัสติดรถไปทำงานด้วยนะเฮีย ส่วนหนูจะอยู่บ้านค่ะ ไม่ไปด้วยแล้ว” “อยู่คนเดียวได้เหรอ?” “ทุกทีคริสก็อยู่คนเดียวนะเฮียไค อย่าลืม” ฉันได้แต่นั่งฟังบทสนทนาของสองพี่น้องที่คุยกัน โดยที่ฉันแอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ตอนนี้ แล้วจู่ๆ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็ฉายชัดขึ้นมาทันที ภาพที่เฮียไคเปลือยท่อนบน แล้วมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว กล้ามหน้าท้องเป็นมัดๆ รอยสักที่ดูแล้วรู้สึกว่าเฮียไคเท่มาก แล้วก็……. “ยัยจัส ไม่สบายป่ะ ทำไมหน้าแดงขนาดนั้น?” เสียงของยัยคริสตัลเรียกฉันให้ออกจากภวังค์ ก่อนจะรีบยกฝ่ามือขึ้นมาแตะแก้มตัวเอง “ป เปล่าสักหน่อย ฉันปกติดี สงสัยในนี้จะร้อน” ทั้งๆ ที่แอร์ในรถเฮียไคคือเย็นมาก แต่ไม่รู้ทำไมร่างกายถึงได้ร้อนวูบวาบขนาดนี้ ที่สำคัญฉันรู้สึกร้อนออกหน้าเอามากๆ ด้วย “ร้อนเหรอ? งั้นแกมานั่งหน้ามั้ย เดี๋ยวฉันย้ายไปนั่งเบาะหลัง เฮียไคจอดรถแป๊บนึงค่ะ” “ไม่เป็นไร ฉันนั่งตรงนี้ก็ได้” ก่อนที่เฮียไคจะจอดรถตามที่ยัยคริสตัลบอก ฉันก็รีบพูดตอบไปในทันที แต่ว่าถึงยังไงเฮียไคก็ยังจอดรถตรงข้างทางอยู่ดี “มาสลับที่กัน แกมานั่งข้างหน้า” ไม่พูดเปล่าแต่ยัยคริส มันเปิดประตูรถลงมา แล้วมาเปิดประตูด้านหลังตรงที่ฉันนั่งเรียบร้อย สุดท้ายฉันก็จำต้องย้ายตูดตัวเองมานั่งข้างหน้าแบบเกร็งๆ จนถึงมหาวิทยาลัย “ขอบคุณนะคะเฮีย วันนี้พวกหนูเรียนเสร็จบ่ายสามนะ” ทันทีที่รถแล่นมาจอดหน้าตึกคณะบริหาร ยัยคริสตัลก็เอ่ยบอกคนที่เป็นสารถีขับรถมาส่งพวกฉันในวันนี้ “เดี๋ยวเฮียมารอที่เดิม” “โอเคค่ะ งั้นพวกหนูไปแล้วนะ” พูดจบยัยคริสตัลก็เปิดประตูแล้วลงจากรถในทันที ซึ่งฉันเองที่นั่งเงียบมาตลอดทางก็รีบหันไปยกมือไหว้ขอบคุณเฮียไคที่ตอนนี้กำลังหันมามองฉันอยู่ “ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” “เดี๋ยวก่อน!” คำว่าเดี๋ยวก่อนทำให้ฉันต้องชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดประตูรถเพื่อลงตามยัยคริสตรัลไป ก่อนจะหันไปมองเจ้าของประโยคพร้อมกับเอ่ยถามเขาในเวลาต่อมา “ม มีอะไรเหรอคะ?” “เมื่อคืน….” อย่าบอกนะว่าจะถามเรื่องเมื่อคืนนี้อะ? “เรื่องเมื่อคืนจัสไม่เห็นอะไรของเฮียไคเลยนะคะ สาบาน” สาบานขอให้มีแฟนเร็วๆ นี้ด้วยเถิด สาธุ “เฮียยังไม่ได้ถามเลยนะ ร้อนตัวแบบนี้แสดงว่าเห็น” “ม ไม่เห็นค่ะ” ซะเมื่อไหร่ล่ะ เห็นเต็มสองลูกตาเลย ใหญ่มหึมาขนาดนั้น ไม่เห็นก็บ้าแล้วเหอะ!!! “หึ” “จัสขอตัวก่อนนะคะ” ไม่รอให้คนด้านข้างได้เอ่ยพูดอะไร ฉันก็รีบเปิดประตูแล้วลงจากรถของเฮียไคด้วยความรวดเร็ว และ…. “เฮียไคคุยอะไรกับแก? แล้วนี่ทำไมถึงหน้าแดง ไม่สบายเหรอ?” นี่ฉันหน้าแดงขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ว่าทำไมรู้สึกว่าร้อนออกหน้าแปลกๆ “ไม่มีอะไร เฮียไคแค่ถามว่า เมื่อคืนแกเป็นยังไงบ้าง” แล้วฉันก็เล่าเรื่องที่มันอ้วกแตกอ้วกแตน จนเฮียไคต้องมาอุ้มกลับเตียงให้ฟัง แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่มันดึงผ้าขนหนูที่พันเอวเฮียไคจนหล่นไปกองกับพื้นหรอกนะ ใครจะบ้าเล่าเรื่องแบบนี้กันล่ะ จริงมั้ย >|||<
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD