บทที่ 9 งานแต่งกำหนดแล้วนะ

1718 Words
มื้อเช้าผ่านพ้นไป ทั้งสามคนที่นั่งทานอาหารที่โต๊ะเล็กก็ออกจากบ้านไปรถคันเดียวกัน โดยให้รถของตระกูลหานกลับไปก่อน ดังนั้นเมื่ออยู่ในรถถิงถิงเห็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยได้เห็นก็คือหลี่เหวินอวี้ยิ้มเบิกบานใจ ราวกับมีเรื่อง ดี ๆ ทั้งที่เมื่อกี้มีคนมาหาเรื่องแท้ ๆ “นี่สหายหลี่งดเชื่อเบื่อทวง” เสี่ยวหมิงเห็นหลี่ เหวินอวี้ไม่ยอมจ่ายสักทีก็แบมือออกมาพร้อมกับทวงเงิน หมิงทำงานทุ่มเทเต็มที่ขนาดนี้ต้องจ่ายทันทีหลังจบงานสิ การแบมือของเจ้าเด็กน้อยทำให้ถิงถิงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จนกระทั่งหลี่เหวินอวี้ดึงปึกธนบัตรออกมาแล้วก็ส่งให้เสี่ยวหมิง จากนั้นเสียงเปลี่ยนเป็นอ่อนน้อมอย่างเคารพทันที “เนี่ยแหละนะนายพลหลี่ที่เขาบอกทั้งหล่อ ใจดี และพูดคำไหนคำนั้น ใช้บริการหมิงบ่อย ๆ นะ หมิงน่ะว่างสำหรับนายพลหลี่เสมอ” “ครั้งนี้คงไม่มาอีกนาน” หลี่เหวินอวี้พูดสั้น ๆ แต่กลับทำให้คนฟังอยู่เงียบ ๆ นั้นเก็บข้อมูล คล้ายกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือว่าผู้หญิงสองคนนี้มาวุ่นวายบ่อย ๆ “อย่าประมาทเด็ดขาดนะนายพลหลี่ หมิงจะขอเตือนสักคำ จิตใจสตรียากแท้หยั่งถึง” อื้ม...เสี่ยวหมิงพูดได้ดี จิตใจสตรียากแท้หยั่งถึง จริง ๆ เขาฟังจบหันไปมองเธอที่มองเขาอยู่แล้วพร้อมยกมุมปากขึ้นเบา ๆ เธอหลบหน้าเขาทันทีที่เขามองมา สายตาแบบนั้นหมายความว่ายังไง เธอไม่ใช่สตรีเหล่านั้นสักหน่อยที่คิดจะเกาะติดเขา หวังว่าเขาคงไม่รวมเธอไปอยู่ในกลุ่มนั้นหรอกนะ ไม่นานรถแล่นมาจอดที่หน้าโรงเรียน ถิงถิงลงรถพร้อมกับเสี่ยวหมิง แต่ทว่าเขาก็เดินลงมาส่งด้วย แต่แทนที่จะไปส่งเสี่ยวหมิงกลับมาส่งเธอที่ร้านขนมปัง “ขอบคุณที่มาส่งนะคะ คุณไปทำงานเถอะค่ะ” “ฉันก็แค่ทำหน้าที่คู่หมั้นที่ดีเท่านั้น เธอไม่ต้องเกรงใจ” เสียงนั้นพูดออกมาแต่ไม่ได้มองหน้าเธอ ทำให้เธอไม่เข้าใจว่าเขายินดีจริง ๆ หรือแค่ทำเพราะผู้ใหญ่สั่ง อยากหมั้นกับเธอหรือไม่อยากหมั้นกันแน่นะ บางทีก็มองไม่ออก อารมณ์เขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด จนเธอเองก็ตามไม่ทัน “ข้างนอกคุณไม่จำเป็นต้องดูแลฉันดีก็ได้ค่ะ” “จำเป็นสิ...เสร็จงานแล้วก็รอ ฉันจะมารับตอนเย็น” เขาพูดจบก็เดินออกไป แต่ทว่าทหารนายหนึ่งกลับไม่ตามเขาไปด้วย ทั้งปักหลักนั่งอยู่ในร้านขนมปัง ทำให้เธอแปลกใจกับการกระทำของเหล่าทหารพวกนี้ เธอสลัดความคิดวุ่นวายเรื่องของเขาก่อนจะเข้าไปรับหน้าที่ในร้านขนมปัง คุณอ็องรี ให้เธออยู่ในแผนกคิดค้นสูตรขนมใหม่ ๆ ดังนั้นไม่ต้องทำทั้งขนมและขายหน้าร้าน แต่มาอยู่ในห้องสูตรลับของร้านโดยที่มีคนที่ทำงานที่นี่คือคุณอ็องรี กับพนักงานชายอีกหนึ่งคนที่เป็นเชฟเหมือนกัน เธอคิดว่าสูตรขนมที่มีในหัวก็หลายชนิดดังนั้นเธอไม่ต้องรีบคิด แต่เสนอให้ทำครัวซองก์ในรูปแบบอาหารเช้าแบบฝรั่งที่มีผักแฮมและซีสต์ ราดด้วยซอสที่ผสมออกมาในแบบเฉพาะ เท่านี้ก็มีขนมแบบใหม่ในร้านเพิ่มขึ้น เพ่ยถิงถิงชอบมากกับงานที่ทำ จนเธอลืมเวลากินข้าวกลางวัน และเห็นนาฬิกาบอกเวลาเป็นเวลาเลิกงานของเธอแล้ว เนื่องจากไม่ใช่พนักงานขายหน้าร้าน จึงเลิกในเวลาปกติซึ่งเป็นช่วงเลิกงานของข้าราชการ กับเลิกเรียนของเด็กนักเรียน เธอเดินออกมาด้านนอกกลับเห็นว่าเสี่ยวหมิงและนายทหารคนนั้นนั่งอยู่ด้วยกัน และเมื่อเดินออกมานั่ง อีกคนที่มาด้วยกันเมื่อเช้าเปิดประตูเข้ามาในร้านพอดี “เสร็จงานแล้วใช่ไหมกลับกัน” เขาไม่ได้ทักทายแต่เข้ามาถึงก็สั่ง สั่งเก่งจริง ๆ สมกับเป็นทหารจนเธอนึกอยากขัดใจเขาขึ้นมา “ฉันว่าจะไปหาอะไรกินสักหน่อยค่ะ เดี๋ยวฉันไปกับเสี่ยวหมิงก็ได้ ถ้าคุณรีบกลับบ้านก็กลับไปก่อนดีไหมคะ” เธอเลือกจะไล่เขาอ้อม ๆ และคิดว่าอยู่กับเสี่ยวหมิงน่าจะปลอดภัยเพราะมีคนของตระกูลหานดูแลอยู่ “ไม่ดี!” นั่นไง เขาเป็นอะไรนัก เธอว่าซ้ายเขามักชอบไปขวาตลอด นี่จะขัดใจเธอให้ได้เลยใช่ไหม “แต่ฉันหิวนะคะ อีกอย่างไม่ได้กินข้าวกลางวันด้วย” “พี่ถิง ทำงานหนักจนลืมกินข้าวไม่ดีนะครับ เดี๋ยว หมิงพาไปกินร้านไก่ตุ๋นแถวบ้านเก่าหมิง รับรองอร่อยและบำรุงร่างกายอีกด้วย” เสี่ยวหมิงไม่เห็นสีหน้านายพลหลี่ว่าตอนนี้มองเสี่ยวหมิงเป็นศัตรูอีกแล้ว ทั้งที่เมื่อเช้าเพิ่งจะสงบศึกกันไปแท้ ๆ “ขึ้นรถ...ฉันจะพาไปเอง” สุดท้ายเธอและเสี่ยวหมิงก็ต้องมานั่งอยู่ในรถคันเดียวกับเขา แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมเขาไม่ให้นายทหารที่ติดตามเขาขับ แต่เลือกจะขับเอง ดังนั้นเธอจึงต้องมานั่งคู่กับเขาด้านหน้า ซึ่งไม่ชินสักนิด ยังดีที่เสี่ยวหมิงยื่นหน้ามาคุยด้วย “นี่หมิงไม่อยากจะนินทาพี่เขย ตอนพี่เขยกับพี่สาวนอนด้วยกันครั้งแรก หมิงซื้อไก่ตุ๋นไปสองตัวเลยนะ บำรุงให้พี่ถงมีกำลัง เพราะพี่ถงนั้นใช้แรงไปมาก” เพ่ยถิงถิงไม่คิดว่าเสี่ยวหมิงจะพูดเรื่องนี้ในรถ ซึ่งเขานั่งอยู่ด้วยทั้งมองมาที่เธอด้วยแววตาขบขัน ส่วนเธอใบหน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว “นี่พี่ถิงไม่เชื่อหรือไง พี่ถงน่ะเก่งกาจทำให้พี่เขยร้องลั่นห้องเลยล่ะ พี่ถงเป็นคนควบคุมเองด้วยนะ นับว่าเป็นสตรีที่กล้าหาญมาก” เสี่ยวหมิงพูดโดยไม่รู้ว่าตัวเองทำให้เพ่ยถิงถิงที่คิดภาพตามจนใบหน้าแทบจะมีเลือดหยดออกมาได้ ทั้งโอ้อวดความสามารถของพี่สาวจนเธออับอายแทนพี่ถงไปแล้ว “พี่สาวนายเก่งกาจมาก เอาพี่ใหญ่เหิงอยู่หมัด สงสัยก่อนจะเข้าหอต้องให้ถิงถิงไปเรียนรู้จากพี่สาวนายดีไหมเสี่ยวหมิง” เขายังพูดเล่นกับเสี่ยวหมิง แต่ถิงถิงขึงตาใส่คนลามก พูดเรื่องแบบนี้กับเด็กได้ยังไง เดี๋ยวก็เสียคนหมดพอดี “ได้เลย...นี่ ๆ พี่ถิงต้องแต่งงานกับนายพลหลี่ใช่ม๊า เมื่อคืนพี่เขยบอกหมิงแล้ว เดี๋ยวหมิงจะรีบไปบอกพี่ถงให้รับรองว่าพี่ถิงเก่งกาจแน่นอน” เก่งกาจกับผีนะสิเจ้าเด็กแสบ ต่อให้เธอเป็นสตรียุค 80 ที่ไม่ได้แสดงออกความรักกันอย่างเปิดเผย แต่เธอก็เป็นวิญญาณในปี 2025 นะ จะไม่รู้เรื่องราวพวกนี้ได้อย่างไร แม้ว่าเธอจะไม่เคยลองกับผู้ชายจริง ๆ แต่ก็ใช่จะหาดูไม่ได้ แม้ว่าทางระบายความใคร่ของเธอจะเป็นพวกของเล่นที่ช่วยผ่อนคลายไปได้บ้าง เพราะเนื่องจากเป็นดารา จะไปวันไนต์กับใครที่ไหนก็ไม่ได้ บวกกับเธอไม่ได้มีความรักดังนั้นประสบการณ์ตรงยังไม่เคยได้รับ แต่หากต้องใช้งานจริง ๆ เธอจะทำไม่เป็นได้อย่างไร บางทีเขาอาจจะต้องร้องขอชีวิตก็เป็นได้ แต่คิดเพ้อเจ้อได้สักพัก เธอก็เพิ่งได้สติว่ากำลังคิดถึงเรื่องบนเตียงระหว่างเธอและเขาที่เธอเป็นคนควบคุมจังหวะ นั่นมันเป็นไปได้ยังไง ไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอเสียหน่อย “เหลวไหล” เธอว่าเสี่ยวหมิงกับเขา “เหลวไหลที่ไหน อีกหน่อยเธอก็จะได้ใช้แล้วนะ” “ใช้...ใช้กับใคร คุณพูดให้มันดี ๆ นะ” เธอขึ้นเสียงใส่เขาที่พูดจาไม่น่าฟัง “ผมนี่ไง คุณรู้อะไรไหมว่างานแต่งงานของเราถูกกำหนดแล้ว” ฮะ...ถูกกำหนดแล้ว...ให้ตายเถอะกำหนดเมื่อไหร่ เธอเพิ่งพบกับเขาเมื่อวาน วันนี้เขามาบอกว่าถูกกำหนดงานแต่งงานแล้ว นี่มันเรื่องล้อเล่นเหรอ “กำหนดเมื่อไหร่คะ” เขาไม่ตอบแต่ยิ้มอย่างมีเลศนัย นั่นทำให้เพ่ยถิงถิงหงุดหงิดอยากจะใช้เล็บข่วนหน้าเขาจริง ๆ เวลาที่ต้องการให้พูดมากหน่อยกลับไม่พูด ไม่รู้จะประหยัดคำพูดไปไหน สิ่งเดียวที่เธอทำได้คืออดทนรอแล้วกลับไปถามคุณปู่สินะ ในด้านชายแดนแม่เลี้ยงของเพ่ยถิงถิงใช้เวลาห้าวันเต็มในการเดินทางมาหาสามีโดยรถไฟ แต่เมื่อมาถึงเธอกลับเห็นว่าเขากำลังประคองผู้หญิงคนนั้นออกจากบ้านอย่างประคบประหงม เธอยืนชี้หน้าด่าทอเขา “ไอ้ผู้ชายเฮงซวยนี่แกมีชู้งั้นเหรอ” “ผมไม่ได้มีชู้ แต่นี่คือเมียของผมอีกคน คุณมาก็ดีเราจะได้หย่ากัน ผมจะได้เอาชื่อภรรยาเข้าทะเบียนบ้าน” หงหรูเหมือนรู้สึกว่าฟ้าจะถล่มก็วันนี้ เธอเดินทางมาชายแดนเพื่อจะเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ แล้วที่นังลูกเลี้ยงหลอกให้เธอมาที่นี่… เพื่อต้องการให้เธอหย่ากับพ่อของหล่อนอย่างนั้นใช่ไหม แล้วเขาถูดลดขั้นจึงไม่มีอะไรจะเสียแล้วสินะ ถึงไม่คิดจะประคองชีวิตสมรส นางเด็กนั่นมันร้ายลึกจริง ๆ นี่พ่อลูกคงวางแผนมาดี ยังไงเธอจะไม่ยอมจบแค่หย่ากับผู้ชายไม่รู้จักพอเด็ดขาด นางเด็กนั่นก็ต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าพ่อของหล่อนทำให้ฉันลงนรก ฉันจะลากหล่อนลงไปด้วย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD