ตอนที่3

1212 Words
“มิตาเป็นยังไงบ้าง” แป๋วแหววที่นั่งรอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นรมิตาเดินกลับออกมาด้วยท่าทีอ่อนแรง พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาลัย และก็เป็นแป๋วแหววเองที่ชักชวนรมิตาให้มาทำงานด้วยกันที่ธาราริน แต่เพื่อนรักกลับถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกันโกงเงินบริษัท แป๋วแหววไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้เด็ดขาดเธอเป็นเพื่อนรมิตามาหลายปีนิสัยใจคอเป็นรมิตาเป็นยังไงแป๋วแหววรู้ดีที่สุด รมิตาส่ายหน้าแล้วนั่งลงข้างแป๋วแหววอย่างหมดแรง “เขาไม่ฟังเราเลย มิตาไม่ได้ทำจริงๆ นะ ทั้งการยักยอกและขายข้อมูล มิตาไม่ได้ช่วยอะไรหัวหน้าเลยมิตาแค่ทำงานของมิตาเท่านั้นเอง” น้ำตามากมายไหลออกมาจากตาคู่สวยเมื่อความอดกลั้นของรมิตาหมดลง แป๋วแหววสงสารเพื่อนจับใจร่างเล็กโอบกอดเพื่อนเอาไว้อย่างปลอบประโลม “ใจเย็นๆ ก่อนนะมิตา เราไปปรึกษาทนายดีไหมพวกเขาน่าจะช่วยเราได้” รมิตาส่ายหน้าอีกครั้งเธอไม่ได้เล่าเรื่องที่ถูกเสนอให้ขึ้นเตียงเพื่อชดใช้ความผิดให้แป๋วแหววฟัง ไม่อยากให้แป๋วแหววมามีส่วนเกี่ยวพันด้วยนี่เป็นปัญหาที่เธอจะต้องแก้ไขมันด้วยตัวเอง “ขอบคุณมากนะแป๋ว แต่เรื่องนี้มิตาจะจัดการเองแล้วที่แผนกเป็นยังไงบ้าง” ร่างเล็กพยายามเข้มแข็งปาดน้ำตาออกจากหน้าลวกๆ แล้วเอ่ยถาม “ตอนนี้วุ่นวายมากทั้งคอมพิวเตอร์และเอกสารถูกนำไปตรวจสอบหมดว่าใครทำอะไรบ้าง โทรศัพท์มือถือก็โดนยึดไปถึงโทรหามิตาไม่ได้ ทีมเราถูกย้ายให้ไปช่วยงานทีมอื่นๆ ก่อนจนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จ” “งั้นแป๋วขึ้นไปทำงานเถอะ มิตาขอนั่งอยู่ตรงนี้สักพัก” “แป๋วอยู่เป็นเพื่อนดีกว่า สีหน้ามิตาดูไม่ค่อยดีเลย” “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมิตาว่าจะกลับแล้วล่ะฝากบอกหัวหน้าฝ่ายด้วยนะ” แป๋วแหววเห็นสีหน้าเพื่อนไม่สู้ดีนักจึงไม่อยากถามอะไรอีก เอาไว้ให้รมิตาหายตกใจแล้วค่อยช่วยคิดหาทางออก “ก็ได้จ้ะ แต่ถ้ารู้สึกไม่โอโคก็โทรเข้ามาเบอร์โต๊ะนะ ช่วงเย็นๆ น่าจะได้มือถือคืนแล้ว” รมิตาฝืนยิ้มให้ก่อนจะโบกมือลาแป๋วแหววที่เดินออกไปแต่ก็มองกลับมาด้วยความเป็นห่วงจนพ้นสายตา หลังออกจากบริษัทรมิตาก็หาร้านกาแฟเล็กๆ เพื่อหาข้อมูลในเพจและเว็บไซน์ต่างๆ เกี่ยวกับการช่วยเหลือการถูกใส่ร้ายจากที่ทำงาน มือเล็กพยายามโทรสอบถามหลายๆ ที่ก็ได้รับข้อมูลเหมือนๆ กันคือส่งเรื่องที่ต้องการร้องเรียนมา พวกเขาจะรันเอกสารตามคิวซึ่งน่าจะต้องรอถึงหนึ่งหรือสองสัปดาห์ รมิตาไม่มีเวลาขนาดนั้นในเมื่อเดตไลน์ของเธอคือเวลาสองทุ่มของวันนี้ คิดไตร่ตรองมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงร่างบางก็เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของโรงแรมหรูห้าดาวที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุง เธอเดินคิดไปมาเรื่อย ๆ จนมาถึงสถานที่ที่นัดเอาไว้ เธอไม่มีทางเลือก… รมิตายืนมองหมายเลขห้อง ‘403’ สองจิตสองใจถ้าถอยกลับออกไปอนาคตข้างหน้าคงนอนอยู่ในคุกเพราะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้แต่ถ้าเปิดประตูเข้าไปเธอจะกลายเป็นผู้หญิงของ ธรณ์ พัชรวิทิต โดยทันที ใบหน้างามพริ้มพรายมีแววจนใจก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป ห้องดีลักซ์สวีทหนึ่งห้องนอนมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเตียงนุ่มขนาดคิงไซซ์ปูทับด้วยผ้าคอตตอนสีเดียวกันกับสตูลปลายเตียง มีห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารแยกเป็นสัดส่วนด้านนอกเป็นกระจกใสมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน นี่คงเป็นห้องที่เอาไว้เชือดเธอโดยเฉพาะ… ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกตามออกมาด้วยร่างสูงที่อยู่ในชุดคลุมสีขาว เส้นผมเปียกหมาดปรกหน้าเล็กน้อยเสื้อคลุมแหวกกว้างกลางอกเผยให้เห็นแผงอกขาวที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ไขมัน เขาเป็นผู้ชายที่หุ่นดีมากๆ รวมหน้าตาหล่อเหลานั้นแล้วด้วยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆ หลายคนถึงได้ยกให้เป็นต้นแบบผู้ชายในฝัน “มาแล้วเหรอ” น้ำเสียงฟังดูเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น รมิตาหยักหน้า คงไม่ต้องพูดแล้วมั้งว่าเธอเลือกข้อเสนอข้อไหนถึงได้ถ่อสังขารมาถึงที่นี่ “นั่งก่อนซิ” เธอเดินไปนั่งบนโซฟาตามคำเชิญ ส่วนเจ้าของห้องเดินเข้าไปในส่วนของห้องนอนไม่นานเขาก็กลับออกมาพร้อมผ้าผืนเล็กกำลังเช็ดผมที่เปียก “กินอะไรมาหรือยัง” เขาพูดคุยด้วยท่าทีสบายต่างจากรมิตาที่รู้สึกตะครั่นตะคร้อเหมือนกำลังจะมีไข้ “ค่ะเรียบร้อย” โกหกเธอเครียดจนกินอะไรไม่ลงเลยต่างหาก “คือฉัน…” “ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็กลับไปคิดมาว่าจะเอาข้อหนึ่งหรือข้อสอง” เขาดักคออย่างรู้ทัน บีบบังคับให้เธอยอมจำนนทางอ้อม “เธอกำลังทำให้ฉันเสียเวลานะ” รมิตาไม่กล้าต่อรองใดๆ กับเขาอีก ชะตากรรมของเธอคงไม่พ้นเนื้อมือผู้ชายคนนี้ “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันขอทราบระยะเวลาที่แน่นอนค่ะ” ในเมื่อหนีไม่พ้นเธอก็ต้องการเวลาที่แน่ชัดในการเป็นนางบำเรอบนเตียงของเขา ใบหน้าหล่อผุดยิ้มอย่างพอใจ เขาเดินไปเปิดลิ้นชักนำซองเอกสารสีน้ำตาลที่เตรียมไว้มายื่นให้เธอ “นี่คือฉบับร่างสัญญา ระยะเวลาคือหนึ่งปีส่วนหน้าที่ก็อย่างที่บอก เลขาส่วนตัวและเลขาบนเตียง” มือเล็กจำใจรับมาเปิดอ่านทีละตัวอักษรอย่างละเอียด เนื้อหาในสัญญาก็อย่างที่เขาว่ามา คือการเป็นเลขาส่วนตัวและนางบำเรอบนเตียงระยะเวลาคือหนึ่งปีมีการจ่ายเงินให้เดือนละหนึ่งแสนบาทนอกเหนือจากเงินเดือน และรายละเอียดอื่นๆ ยิบย่อยอย่างที่ควรจะเป็น “อยากแก้ตรงไหนไหม” เมื่ออ่านจบรมิตาก็ยื่นเอกสารคืนให้เขา “ไม่มีอะไรเพิ่มเติมค่ะ” “เดี๋ยวสัญญาฉบับจริงผู้ช่วยของฉันจะส่งไปให้ในภายหลัง เราเริ่มกันได้หรือยัง” พอถึงเวลาจริงๆ รมิตาถึงรู้ว่าตัวเองไม่พร้อม นัยต์ตาของเขาที่มองมามีแววรอคอยอย่างเร่าร้อนจนเธอต้องหลบตามองไปที่อื่น “คือฉันยังไม่อาบน้ำ” มองไปเห็นประตูห้องน้ำพอดีคนคิดหาทางรอดจึงพูดโพล่งออกไปโดยทันคิดว่า นี่คือการขุดหลุมฝังตัวเอง “เชิญ ข้างในมีผ้าเช็ดตัวผืนใหม่อยู่บนชั้น”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD