“อ้าว คุณมิตาไม่ไปทานข้าวหรือครับ” ชยพลเดินออกมาจากห้องทำงานของท่านประธาน เห็นรมิตากำลังนั่งทำงานอยู่ทั้งที่เลยเวลาพักมาประมาณครึ่งชั่วโมง
“ทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะ พอดีมีสรุปการประชุมเมื่อเช้า มิตาเลยว่าจะรีบทำให้เสร็จนะคะ”
“ไม่ต้องรีบก็ได้นะครับ ไม่ได้ด่วนขนาดนั้น”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณชารีบไปพักเถอะ”
ตึก ตึก
รอยยิ้มจากใบหน้าสวยของรมิตาเล่นงานหัวใจของหนุ่มโสดอีกครั้ง ชยพลรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่รมิตาระบายยิ้ม ใบหน้างามทรงเสน่ห์กับรอยยิ้มบางๆ ไม่อาจละสายตานั้นทำให้ชยพลรู้สึกเหมือนหัวจะหลุดจากบ่า
“งั้นผมไปก่อนนะครับ” เลขาหนุ่มรีบเดินออกไปถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าใบหูของเขาแดงเถือก
“มิตาอยู่หรือเปล่าเข้ามาหาฉันหน่อย” เสียงอินเตอร์คอมดังขึ้น ทันทีที่ชยพลเดินออกไป
“ค่ะ”
ใบหน้างามฉายแววกังวลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาวๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องของท่านประธาน
“ทำไมไม่หยุดพัก” เขาถามทั้งที่ตายังจดจ่ออยู่กับเอกสารบนโต๊ะ รมิตารู้สึกว่าเวลาที่เขาใส่แว่นสี่เหลี่ยมสีใสนั้นกับเอกสารกองโตมันทำให้เขาดูดีมากเลยทีเดียว
“มิตาต้องเตรียมเอกสารการประชุมค่ะ”
“ฉันบอกให้ชาทำไม่ใช่หรือไง หน้าที่เธอคืออะไรมิตา”
เขาวางเอกสารที่อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัวเพราะอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน ส่วนตัวเหตุจะเป็นใครได้นอกจากเลขาสาวสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“มิตาก็ทำหน้าที่ได้ดีแล้วไม่ใช่หรือคะ บนเตียงกับคุณก็ทั้งคืน งานบนโต๊ะก็ไม่มีอะไรผิดพลาด คุณต้องการอะไรอีก?”
“ทำไมเดี๋ยวนี้ยอกย้อนฉันเก่งนักนะ เมื่อคืนนึกว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก”
เขาที่อารมณ์เสียเป็นทุนเดิมเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุกขึ้นเต็มความสูงเดินเข้าไปหาเลขาคนโปรดที่ทำให้ปั่นป่วน
รมิตาเผลอถอยขาออกไปก้าวหนึ่งเมื่อเขาเข้ามาใกล้จนใบหน้าแทบจะชนกันแต่การถอยของเธอไม่เป็นผลเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่รั้งเอวคอดเข้ามาแนบตัว
“งอนอะไรไหนบอกซิ”
เสียงกระซิบข้างหูทำให้รมิตาย่นคอหนี ทว่าก็หนีไปได้ไม่ไกลเมื่อถูกริมฝีปากนุ่มจูบเบาๆ ที่ต้นคอ
“พอค่ะ มิตายังมีงานต้องทำต่อ” รมิตารีบห้ามเมื่อเขามีท่าทีว่าจะไม่หยุดเพียงแค่จูบ
“เดี๋ยวนี้เป็นอะไรห๊ะมิตา จับนิดจูบหน่อยไม่ได้เลยมีอะไรก็พูดมาเธอน่าจะรู้นะว่าความอดทนของฉันต่ำขนาดไหน” ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววไม่สบอารมณ์ เขาถอยห่างจากรมิตากลับไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของตัวเองดังเดิม
“ถ้าอย่างนั้นมิตาขอพูดกับคุณตรงๆ เลยนะคะ”
“...”
รมิตารวบรวมความกล้าทั้งหมดพูดความในใจที่เก็บไว้ตลอดทั้งเดือนออกไป
“มิตาจะลาออกค่ะ ทันทีที่หมดสัญ…”
ปัง!
ฝ่ามือใหญ่ฟาดลงบนโต๊ะเสียงดังลั่น ดวงตาคมกริบตวัดมองเลขาคนโปรดที่กล้าพูดประโยคนั้นออกมา
“ทำไม? ที่ฉันให้มันไม่พอใจเหรอ ต้องการอะไร เงิน เซ็กส์ หรืออะไรบอกมาสิ”
ถ้อยคำของเขาราวกับเข็มนับพันนับหมื่นเล่มทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจเธอ รมิตาน้ำตาร่วงเธออยู่กับเขามานานเกือบปี นิสัยใจคอเป็นอย่างไรเขาไม่รู้เลยหรือ
“เพราะคุณกำลังจะมีเจ้าของค่ะ มิตาไม่อยากทำบาปไปมากกว่านี้ อีกอย่างจากนี้ไปจนหมดสัญญารบกวนคุณใส่ถุงยางด้วยนะคะ ขอตัวค่ะ”
เพล้ง!
ยังไม่ทันที่จะก้าวขาแก้วใบใหญ่ก็ถูกฟาดลงพื้นจนแตกละเอียดด้วยแรงโทสะ รมิตาสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตอันน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงพุ่งเข้ามาสู่ตัวเธอ ขาทั้งสองข้างแข็งทื่อ เป็นครั้งแรกที่รมิตาได้เห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวราวกับพญามัจจุราชที่พร้อมจะพรากเอาชีวิตของเธอไป
“คิดจะไปจากฉันงั้นเหรอ มิตา!” เขาเค้นเสียงต่ำออกมาทีละคำ รู้สึกได้ว่าความสามารถในการควบคุมความโกรธใกล้ถึงจุดวิกฤติ
ผู้ชายที่ใครๆ ต่างขนานนามว่าเย็นชาราวกับเจ้าชายที่อยู่จุดบนสุดของเทือกเขาน้ำแข็งกำลังกายร่างเป็นพญายมราชที่แผดเผาไปด้วยไฟจากนรก
เขาพุ่งตัวเข้าคว้าแขนรมิตาทันทีดวงตาที่ถลึงกว้างอย่างดุดันมีเปลวไฟลุกโชนแผดเผาหัวใจของเธอให้เจ็บปวด
“คุณธรณ์มิตาเจ็บ!” รมิตาขัดขืน พยายามงัดมือหนาที่เหมือนคีมเหล็กออกจากแขน
“ฉันถามว่าคิดจะไปจากฉันใช่ไหม!”
“ใช่! ฉันจะไปจากคุณ ฮึก”
คำตอบของรมิตาไม่ได้ช่วยทำให้อารมณ์เดือนดาลของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อยกลับเพิ่มไฟโทสะให้ลุกโชนขึ้นราวกับน้ำมันน้ำที่ราดลงบนกองไฟ
“ฉันไม่อยากเป็นนางบำเรอของคุณอีกแล้ว ปล่อยฉันไป ฮื่อ อึก”
เสียงสะอื้นทำให้หัวใจของธรณ์กระตุกสั่นไหวอย่างรุนแรง เขาไม่เคยเห็นรมิตาร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้มาก่อน ใบหน้าสวยเชิดแสนดื้อรั้นที่เจอเพียงครั้งแรกก็อยากได้มาครอบครองนั้นบัดนี้กลับเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
ไม่รู้ทำไมเพียงแค่เห็นน้ำตาของเลขาที่มีไว้ใช้งานบนเตียงถึงมีอิทธิพลต่อใจเขามากขนาดนี้ ธรณ์คลายมือที่บีบแน่นลงเปลี่ยนมาเป็นเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยจนมันแดงก่ำ
“พี่ธรณ์ เกิดอะไรขึ้นค่ะ!”