เมลดากลับมาอยู่เมืองไทยได้หนึ่งเดือนแล้ว ตอนนี้หญิงสาวเข้าไปช่วยงานที่บริษัทของบิดาในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าการตลอด ในขณะที่มาวินนั้นทำหน้าที่รักษาการประธานบริษัทก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่เพื่อแต่งตั้งประธานคนต่อไปซึ่งมารดาของเมลดาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะรู้ว่ามาวินก็คือลูกชายของคุณสามารถ
ในทุกวันเมลดาจะไปส่งลูกชายที่โรงเรียนจากนั้นก็เข้ามาทำงานส่วนในเวลาเย็นคนที่ไปรับบอสตันจากโรงเรียนก็คือพี่ฝ้ายและลุงดิเรกขับรถของที่บ้านยกเว้นก็แต่เย็นวันศุกร์ที่เมลดาจะออกจากบริษัทตั้งแต่บ่ายเพื่อนไปรับลูกชายด้วยตัวเองจากนั้นก็จะพาลูกชายไปที่สวนสนุกที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า
“พี่วินโมเดลไปก่อนนะคะ ออกช้าเดี๋ยวรถที่หน้าโรงเรียนจะติด”
“พี่ฝากบอกเจ้าแสบด้วยนะว่าพรุ่งนี้พี่จะพาไปเที่ยวสวนสัตว์”
“พี่แน่ใจนะคะว่าจะไปกันสองคนได้” เมลดาถามพี่ชายด้วยความไม่แน่ใจเพราะเมื่อวานเขาบอกกับเธอว่าอยากจะพาบอสตันไปเที่ยวสวนสัตว์กันแค่สองคนคือลุงกับหลานและจะพาเด็กชายไปค้างที่บ้านในคืนวันเสาร์ด้วย
“แน่ใจสิ โมเดลเตรียมขนมใส่กระเป๋าให้เยอะๆ หน่อยก็แล้วกัน”
“ขอบคุณนะคะพี่วิน”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกยังไงบอสตันก็คือหลานของพี่ โมเดลเองก็จะได้มีเวลาออกไปเจอกับเพื่อนๆ บ้าง” มาวินเห็นใจน้องสาวที่ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหนเลยตั้งแต่กลับมาถึงเมืองไทย
เมื่อบอกกับพี่ชายแล้วเมลดาก็ออกจากบริษัทเพื่อตรงไปยังโรงเรียนของลูกชายซึ่งเมลดาไม่ได้ให้เข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติแต่เลือกให้เรียนโรงเรียนที่ตนเองรับส่งสะดวกซึ่งบังเอิญว่าที่นี่มีแผนกภาษาอังกฤษด้วยบอสตันเลยปรับตัวได้ค่อนข้างดีกับเพื่อนใหม่จนตอนนี้เด็กชายแทบจะลืมเพื่อนที่โรงเรียนเดิมไปแล้ว
“เด็กชายคิมหันต์ K.3 ห้องโลมาผู้ปกครองมารับแล้วค่ะ”
เสียงประกาศจากคุณครูเวรทำให้เจ้าของชื่อรีบบอกลาเพื่อนๆ และคว้ากระเป๋ามายืนรอที่หน้าประตู เมื่อเห็นว่ารถที่รับเป็นรถของมารดาเขาก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจเพราะปกติแล้วคนที่มารับจะเป็นคนขับรถกับพี่เลี้ยงเสียมากกว่า
เมื่อออกจากหน้าโรงเรียนแล้วเมลดาก็พาลูกชายมายังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน
“บอสตันหิวไหมครับ”
“ไม่หิวครับ ผมอยากไปเล่นสวนสนุกแล้วครับ”
“แต่แม่ว่ากินอะไรหน่อยดีไหมจะได้มีแรงเล่นนานๆ”
“ได้ครับ” เมื่อได้ยินว่าจะได้เล่นนานๆ บอสตันก็ยอมตามารดาไปร้านเบอร์เกอร์ที่อยู่ไกลเท่าไหร่
“บอสตันครับ ไม่เอาผักออกแบบนั้นสิครับ” เมลดาบอกลูกชายเมื่อเห็นว่าเขากำลังดึงผักที่อยู่ในแฮมเบอร์เกอร์ออก
“ผมไม่ชอบมันไม่อร่อยครับแม่”
“แต่ผักมีประโยชน์นะครับบอสตัน” เมลดาเอาผักไปใส่ให้ลูกชายอย่างเดิม
“พรุ่งนี้ผมค่อยกินได้ไหม” บอสตันเงยหน้ามองมารดาแล้วกะพริบตาปริบๆ
“แม่ว่าบอสตันกินนิดหนึ่งดีกว่าไหมครับ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปเที่ยวสวนสัตว์กับลุงวิน
“เที่ยวสวนสัตว์เหรอครับแม่” เด็กชายถามอย่างตื่นเต้น เขาเคยคุยกับผู้เป็นลุงไว้แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะได้ไปวันไหน
“ใช่ครับ พรุ่งนี้ลุงวินจะพาบอสตันไปเที่ยวสวนสัตว์แล้วก็จะพาบอสตันไปนอนที่บ้านลุงวิน”
เมื่อได้ยินว่าจะได้ไปเที่ยวและไปนอนค้างที่บ้านคุณลุงบอสตันก็หยิบผักไปทานอย่างไม่อิดออด เมื่อทานจนอิ่มแล้ว เมลดาก็พาลูกชายเดินไปยังร้านขายของเล่นเพื่อให้อาหารย่อยสักพักก่อนที่จะพาไปยังสวนสนุก
“แม่รออยู่ข้างนอกนะครับบอสตัน ถ้าครบเวลาแล้วออกมาไม่เจอก็ให้รออยู่ที่เดิม”
“แม่จะไปไหนครับ”
“บางทีแม่อาจจะไปเข้าห้องน้ำหรือจะเดินไปร้านเครื่องสำอาง ถ้าแม่ยังไม่มาหนูก็รออยู่ตรงนี้หรือโทรตามแม่ก็ได้ แต่อย่าเดินไปไหนคนเดียวเข้าใจไหมครับ”
“ครับแม่”
เมลดามองลูกชายที่เข้าไปในสวนสนุกขนาดเล็ก เมื่อเห็นว่าลูกชายวิ่งเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกันก็ยิ้ม หญิงสาวบอกกับพนักงานด้านหน้าว่าตนเองจะไปเข้าห้องน้ำและถ้ามีเรื่องด่วนก็ให้โทรศัพท์ตามโดยใช้นาฬิกาของลูกชายที่มีเบอร์ของเธอบันทึกเอาไว้แล้ว
หญิงสาวเดินมาเข้าห้องน้ำจากนั้นก็เดินกลับมาดูลูกชาย เมื่อเห็นว่าบอสตันกำลังวิ่งเล่นอยู่ด้านในอย่างสนุกสนานตนเองก็เดินมาดูเครื่องสำอางในร้านที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
ขณะที่กำลังเลือกลิปสติกอยู่เมลดาก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองตัวเองอยู่ พอหญิงสาวหันไปก็ตกใจจนหน้าซีดเพราะคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอนั้นคือวาคิมผู้ชายที่เธอไม่เคยอยากจะเจอกับเขาอีกเลย
“วาคิม”
“ผมนึกว่าคุณจะจำชื่อผมไม่ได้และนะโมเดล”
เมลดามองหน้าเขาแล้วแค่นยิ้ม
“ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะคะ”
“ไม่รู้สิ ผมนึกว่าในชีวิตคุณจะจำได้แค่ผู้ชายที่ชื่อมาวินเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“ไม่เจอกันนานคุณยังพูดประชดเก่งเหมือนเดิมนะคะ”
“มันก็ไม่ต่างจากคุณหรอกนะ ปากก็บอกว่าไม่เคยมีอะไรกันแต่ก็แอบไปมีลูกด้วยกันคงสนุกมากสินะที่เห็นว่าผมเป็นไอ้โง่ยอมให้คุณหลอก” เมลดาตกใจที่วาคิมรู้ว่าเธอมีลูก
“แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณนี่”
“ผมรู้ว่าไม่เกี่ยวกับผม”
คำพูดของเขาทำให้เมลดาโล่งใจอยู่บ้างที่เขาคิดว่าบอสตันเป็นลูกของเธอกับมาวิน
“วันนี้ทำไมมาคนเดียวล่ะ สามีกับลูกไปไหน”
“เขาจะไปไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณนี่”
“ถึงแม้เราจะเลิกกันแล้วเราก็เป็นเพื่อนกันได้นี่ ผมก็อยากจะรู้จักครอบครัวของคุณเหมือนกันนะ ลูกชายของคุณก็ดูน่ารักดี หน้าเหมือนพ่อเขาเลย”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าลูกฉันหน้าเหมือนพี่วิน”
“ผมเคยเจอลูกคุณมาแล้ว”
“คุณเจอที่ไหน เมื่อไหร่” เมลดาตกใจมากเพราะไม่คิดว่าเขาจะเจอกับบอสตันมาก่อน
“ผมเจอที่วัด เสียใจด้วยนะเรื่องพ่อ”
“ขอบคุณค่ะ ฉันคุยกับคุณนานแล้วขอตัวก่อนนะคะ”
“จะรีบไปไหนล่ะ กินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยไม่ได้เหรอ”
“ฉันมีธุระ คงกินข้าวกับคุณไม่ได้หรอกนะ”
“ธุระของคุณคืออะไรหรือนัดกับลูกกับสามีไว้ล่ะโมเดล ดีเหมือนกันผมจะได้ไปเจอเขาตอนนี้เลย”
เมลดาไม่อยากให้วาคิมเจอกับบอสตันหญิงสาวจึงหยุดเดินและหันกลับมามองเขาอีกครั้ง
“ถ้าคุณอยากกินข้าวกับฉันจริงๆ รอตรงนี้ก่อนฉันขอโทรบอกพี่วินก่อน”
“อย่าลืมบอกเขาด้วยนะว่าคุณกำลังจะมากินข้าวกับผัวเก่า”
“พูดจาหยาบคาย”
“ผมพูดความจริง” วาคิมตอบพลางทำสีหน้ายียวน
“ถ้ายังพูดแบบนี้ฉันจะไม่ไปกินข้าวกับคุณ”
“จะรีบไปหาผัวใหม่เหรอ”