ทฤษฎีบังคับรักที่ 4 : ไปเอาของคืน

1378 Words
“สองห่อแถมหนึ่ง ช่วยซื้อหน่อยพี่เก๋าต้องขายอีกสามชุดก็ครบแล้ว” “โอเค เอามาให้ครบสามชุดเลย” สิ้นเสียงการตกลงซื้อขายห่อขนมก็ถูกวางลงในตะกร้าที่มาร์ตินถืออยู่ วันนี้เป็นการซื้อของที่ถูกเชียร์อย่างหนัก ฉันเป็นคนหนึ่งที่พนักงานเชียร์อะไรก็ซื้อหมด ช่วยเขาซื้อยังไงเอากลับไปเต๋าก็กินอยู่ดี ชีวิตเหมือนลูกนกมีอะไรป้อนใส่ปากมันก็เก็บเรียบ แล้วไหนจะเก็บไว้แจกพี่ ๆ พนักงานของหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ของเขตที่เข้ามาเก็บขยะประจำอาทิตย์ เพราะงั้นพนักงานร้านนี้เลยเชียร์ให้ฉันซื้อของได้ง่ายที่สุด ซื้อไปไม่เสียหายได้หลายเด้ง ช่วยพนักงานแล้วก็แบ่งคนอื่นเขากิน “เดี๋ยวเอาไปรอที่เคาน์เตอร์ให้ดีกว่า พี่เก๋าแม่งทั้งสวยทั้งใจดี เกิดมาพึ่งเคยเจอคนสวยใจดีที่สุดในโลกขนาดนี้ ~” ดิวหยิบขนมเหล่านั้นขึ้นมากอดเอาไว้ ปากเอ่ยชมไม่หยุด “จับหน่อยจะลอยแล้ว เท้าไม่ติดพื้น ~ ไปเอามาอีก มีอะไรเอามาขายอีก” ฉันไม่ใช่คนบ้ายอแต่อย่างใด ที่ช่วยซื้อของก็เพราะเห็นว่าดิวเป็นคนที่ไม่โกหกก็เท่านั้น “ถ้าพูดแบบนี้ ช่วยน้ำอีกห้าชุดสิครับพี่คนสวย...หนึ่งแถมหนึ่ง” ดิวเอียงหน้าเข้ามากระซิบกระซาบแล้วชี้นิ้วไปยังตู้แช่เครื่องดื่ม “ไหน...” ในจังหวะที่เราหันไปพร้อมกันนั้นดันเผลอไปสบตากับร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกัน สายตาเรียบเฉยของมาร์ตินมองไปที่ดิวก่อนจะละสายตามามองที่ฉัน ลืมไปเลยว่าไม่ได้มาคนเดียวแล้วทำไมต้องมองหน้าดิวแบบนั้นด้วยล่ะ? “สรุปเขาเป็นแฟนพี่ปลาเก๋ามั้ย” และเสียงของดิวที่ถามด้วยความอยากรู้ทำให้ฉันหันขวับไปมอง “พูดอะไรน่ะ ไม่ใช่แฟนเป็นเพื่อนกันก็เจอบ่อยไม่ใช่เหรอ” พนักงานร้านนี้ก็รู้จักเต๋าเต้ยกับมาร์ตินทั้งนั้น คนหล่อขวัญใจทุกคนที่มักจะมาพร้อมกันอยู่บ่อยครั้ง แล้วอะไรมาคิดว่าเป็นแฟนฉันอีกเนี่ย! “ก็เห็นเขามอง...” ดิวแสดงออกแปลก ๆ ปากที่กำลังพูดต้องหยุดลงและสายตาที่มองไปยังมาร์ตินเมื่อครู่ กลับมาสบตาฉัน ส่งสายตาขอความช่วยเหลือทำให้ต้องหันกลับไปยังมาร์ติน จ้องหน้า... สบตา... ก็หน้านิ่ง ๆ ปกตินิ... “อะไร” เมื่อเห็นว่าเรา 2 คนเอาแต่จ้องหน้าเขาสลับกันไปมาทำให้มาร์ตินถึงกลับเปิดปากถามอย่างข้องใจในที่สุด “เปล่าไม่มีอะไร...ดิวเอาไปรอที่เคาน์เตอร์เดี๋ยวไปจ่ายเงิน น้ำที่ว่านั่นก็ด้วยนะเอาไปรอเลย” “ได้ครับพี่ปลาเก๋าคนสวย ~” ดิวขานรับด้วยเสียงร่าเริงแล้วรีบไปจัดการตามที่ฉันบอกทันที ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่ตัวเองกับมาร์ติน “มาร์ตินอยากได้อะไรอีกมั้ย เราซื้อแค่นี้แหละ” ฉันถามอีกฝ่าย ระหว่างนั้นก็ก้มหน้าเช็กของในตะกร้าที่มาร์ตินถืออยู่ “....” แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบ “...ไม่เอาอะไรแล้วเหรอ” ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายเอียงคอมอง ดวงตากลมกะพริบมองปริบ ๆ ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ “ไม่เอาแล้ว” ของในตะกร้าก็มีแค่ของฉันซะส่วนใหญ่ ของมาร์ตินไม่มีเลย ไอ้เต๋าก็เอาแต่โค้กกับเบียร์ “งั้นไปจ่ายเงินกันเถอะ” พูดจบก็ยื่นมือไปเพื่อจะดึงตะกร้ามาถือเอง ไม่มีของมาร์ตินเลยยังจะใช้เขาถือตะกร้าอีกมันก็ยังไงอยู่นะ “เดี๋ยวเราถือให้” แต่เขากลับไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น มาร์ตินดึงตะกร้าหลบแล้วเดินนำหน้าฉันตรงไปยังเคาน์เตอร์ ส่วนตัวเองมีหน้าที่เดินตามไปและสุดท้ายก็เป็นเขาที่จัดการทุกอย่างยันการจ่ายเงิน “ขอบคุณครับพี่ปลาเก๋าคนสวย ~” เสียงดิวกล่าวขอบคุณหลังจากช่วยถือของมาส่งที่รถ จากนั้นเขาก็เดินกลับร้านไปทำงานของตัวเองต่อ “ก็พูดเรื่องจริงไม่หยุดเลย ไปก่อนนะ...ปะ อุ๊ย! เดี๋ยวไปซื้อนมร้อนแป๊บนะมาร์ติน” หลังจากร่ำลาดิวเสร็จตัวเองก็หันกลับมาทางมาร์ติน แต่แล้วสายตาดันเห็นเข้ากับร้านนมร้อนเจ้าประจำพอดี มาร์ตินพยักหน้าอย่างเข้าใจหันมองตามทางที่ฉันเดินไปอยู่ไม่ไกล “อ่าว มากับใครล่ะวันนี้ปลาเก๋า” ป้าเจ้าของร้านทักทายขึ้นเมื่อเห็นหน้า “มากับเพื่อนค่ะ นั่นไงคนนั้น คนหล่อ ๆ ขวัญใจป้าน่ะ” ไม่ได้พูดเปล่าแต่ชี้นิ้วไปทางมาร์ตินที่นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์รออยู่ “เอาเป็นแฟนซะให้แล้วใจไปปลาเก๋า หล่อ ผิวพรรณก็ดีเหมือนลูกคนรวยขนาดนั้น” อยากจะพูดเหลือเกินว่าไม่ใช่แค่เหมือนลูกคนรวยหรอกป้าแต่ของจริงเลยล่ะคนนี้ ถ้ามาร์ตินย้ายมาอยู่แถวบ้านฉันคนแถวนี้คงไม่มีใครแปลกใจแน่ ๆ ทุกคนเจอเขาบ่อยจนพ่อแม่ค้าบางคนคิดว่าอยู่หมู่บ้านเดียวกันไปแล้ว แล้วก็ชอบแซวว่าเป็นแฟนฉันอยู่เรื่อย “เพื่อนกันค่ะป้า จะมาแฟนได้ไงล่ะ...เอานมหวานสองถุงค่ะ” “แล้วเขามีแฟนหรือยัง” ป้ายังไม่หยุดสงสัยเรื่องของมาร์ติน แล้วป้าก็ถามทุกครั้งที่เจอเขาเลยนะสงสัยจะลืม “ไม่มีค่ะ จะแนะนำลูกสาวเหรอป้า” “จะบอกให้ปลาเก๋า” “หึย! พูดไปนั่น เพื่อนกันรู้จักกันมาตั้งมัธยมแล้วค่ะ” สภาพฉันดูตรงสเปกมาร์ตินมากหรือไง? เขาไม่มีทางชอบอะไรแปลก ๆ แบบนี้หรอก หาเชียร์กันไปเรื่อย แล้วถ้าทิศเหนือได้ยินละก็มันแหกอกฉันแน่! “เป็นแฟนได้ เอาเลย...” ป้ายังไม่หยุดเชียร์ แล้วคิดว่าเราพูดกันขนาดนี้มาร์ตินจะได้ยินไหม? “เพื่อนกันค่ะ หนูสองคนเป็นเพื่อนกัน นมร้อนหนูได้ยังไม่งั้นจะยกหม้อวิ่งหนีแล้วนะ” ไม่ได้พูดเล่นแต่ยื่นมือไปจะจับหูจับหม้อของป้าจริง ๆ ไม่ได้ขู่นะไม่ได้ขู่! “จ้า ๆ เพื่อนกันจ้า เดี๋ยวตักให้เลยใจเย็น ๆ” (มาร์ติน) เพื่อน เพื่อน เพื่อน นัยน์ตาคมจ้องไปยังร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่กำลังซื้อนมร้อนอยู่ไม่วางตา ทุกบทสนทนาของปลาเก๋ากับป้าเจ้าของร้านนมเขาได้ยินมันทุกประโยค มีแต่คำว่า ‘เพื่อน’ เยอะแยะเต็มไปหมด แล้วพูดไม่หยุดพูดเก่งที่ 1 แต่เรื่องที่ทะเลไม่เห็นจะพูดออกมาสักที พรึ่บ! โทรศัพท์ของเขาถูกกดปิดเครื่องด้วยฝีมือตัวเองแล้วหย่อนลงในถุงขนมของปลาเก๋าปะปนอยู่ใต้ถุง เขารู้จักเธอดี...รายนี้ถือขึ้นไปที่ห้องนอนแน่นอน เพราะมันเป็นส่วนของตัวเองและจะวางมันทั้งถุงโดยไม่รื้ออะไรออกมา เวลาต่อมา ณ บ้าน “เต๋านี่นะ ไปละ..หันมาดูของตัวเองก่อนไอ้คนนี้นิ!” พรึ่บ! เสียงหวานพูดขึ้นพร้อมวางถุงขนมลงบนโต๊ะ โดยที่มาร์ตินเดินเอาถุงเครื่องดื่มหายเข้าไปในครัวเพื่อเก็บมันเข้าที่ ปล่อยให้ปลาเก๋าสู้รบกับแฝดตัวเองจนกระทั่งได้ยินเสียงลอยมาไกล ๆ ว่าเธอขอตัวขึ้นห้อง เป็นจังหวะเดียวกันที่เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเดินกลับมานั่งที่ห้องเพื่อดูบอลกับเพื่อนตามเดิม ปล่อยเวลาล่วงเลยไปประมาณ 5 นาที... “เดี๋ยวมา สงสัยจะลืมโทรศัพท์ไว้ในถุงขนมปลาเก๋า” ร่างสูงลุกขึ้นยืนขึ้นหลังจากทำทีเป็นหาของในถุงที่วางอยู่จนหมดแล้ว ปากพูดกับเพื่อนในระหว่างหมุนตัวเดินขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อไปเอาของของตัวเองคืน “เออ” เต๋าเต้ยกลับเพียงสั้น ๆ สายตายังคงให้ความสนใจที่โทรทัศน์ตรงหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD