"ขอบคุณที่เข้าใจค่ะ" เฌอปรางพยักหน้าเบาๆ ใจเริ่มสงบลงเล็กน้อย แม้หัวใจยังเต้นแรงและใบหน้าแดงระเรื่อจากความเขินอาย แต่เธอรู้สึกปลอดภัยเพราะวาโยเข้าใจและ ให้สัญญากับเธอว่าจะไม่บอกใคร เท่านี้แหละที่เธอต้องการ ส่วนเรื่องความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ค่อยไปเยียวยาหัวใจตัวเองทีหลังแล้วกัน
ทั้งสองนั่งนิ่งๆ อยู่สักครู่ แค่สบตากันอย่างไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ เฌอปรางใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก แต่เธอก็พยายามควบคุมตัวเองให้สงบที่สุด เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอรู้สึกยังไงตอนนี้ มันเป็นหลากหลายอารมณ์ที่เธอก็บอกไม่ถูกว่าเธอรู้สึกยังไงกันแน่
เฌอปรางลุกขึ้นแต่งตัว ส่วนวาโยก็ยังอยู่ที่เดิม เขาแสร้งทำหลับต่อ เพื่อให้เธอรู้สึกกระดากอาย กับการอยู่ร่วมห้องกับผู้ชายอย่างเขา ผิดคาดมากจริงๆ เขาคิดว่าเธอจะบังคับให้เขายอมรับผิดชอบเธอ แต่เปล่าเลยเธอกับเลือกที่จะฟันเขาแล้วทิ้ง มันน่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เฌอปรางออกจากห้องพักแขก เธอค่อยๆ เปิดประตูบ้านวาโยอย่างเบาและระมัดระวัง ก้าวออกไปด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ เธอไม่อยากให้ใครเห็นเธอออกจากบ้านในเช้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ชายของเธอ เฌอปรางไม่รู้ว่าพี่ชายของเธอกลับบ้านหรือยัง ถ้ายังไม่กลับคนที่ไม่ควรให้เห็นที่สุดก็คือเขานั่นแหละ
“ถ้าพี่ฌาณเห็น…บรรลัยแน่…” เธอคิดในใจ ใบหน้าแดงระเรื่อจากความเขินอายและความกังวล
เฌอปรางก้าวเดินอย่างระมัดระวัง ทุกสายตาในละแวกนั้นเหมือนจะจับจ้องเธออยู่ คนรับใช้ในบ้านก็มองตามอย่างงๆ นาทีนี้เฌอปรางไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอเพียงโฟกัสไปที่การหนีออกไปจากที่นี่โดยไม่มีใครเห็น เธอต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ต้องตอบคำถามใคร
“ฉันต้องไม่ให้ใครเห็นเด็ดขาด…โดยเฉพาะพี่ฌาณ ถ้าพี่ชาญเห็นมีหวังให้ฉันแต่งงานกับพี่เหนือแน่ๆ” เธอพึมพำกับตัวเอง
หัวใจของเฌอปรางเต้นแรง แต่ในใจลึกๆ เธอรู้สึกโล่งขึ้นเมื่อได้ออกมาอยู่ข้างนอก และพร้อมจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยโดยไม่ให้ใครจับได้ มิสชั่นคอมพลีทแล้ว แต่ก็ยังต้องลุ้นต่อเผื่อเจอพี่ชายที่บ้านแล้วพี่ชายถามเรื่องเมื่อคืน เธอคงต้องเตรียมคำตอบเอาไว้
แม้ใจจะยังเขินอายจากเหตุการณ์เมื่อคืน แต่เธอก็มั่นใจแล้วว่า…วาโยจะไม่พูดเรื่องนี้ เธอเชื่อในความเป็นลูกผู้ชายของเขา แม้จะปากปีจอแค่ไหน แต่เรื่องหน้าตัวเมียวาโยไม่มีทางทำ เธอรู้จักวาโยดี
ในที่สุดเฌอปรางก็เดินถึงบ้านของเธอ เฌอปรางเดินเข้าบ้านด้วยฝีเท้าช้าๆ พยายามให้ทุกอย่างดูเป็นปกติ แต่เมื่อสายตาของเธอสะดุดกับพี่ชายที่นั่งรออยู่บนโซฟา หัวใจของเธอก็แทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ฌาณยิ้มบางๆ ให้เธอ แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความสงสัย
“เมื่อคืนอยู่ที่ไหน?” เขาถามเสียงเรียบ แต่เต็มไปด้วยท่าทางจับผิด
เฌอปรางสูดลมหายใจลึก พยายามกลั้นความตื่นเต้นและความเขินอาย
“อ่อ… ปรางนอนที่ห้องรับแขกบ้านพี่เหนือค่ะ” เธอพูดอย่างรีบร้อน แต่พยายามให้เสียงมั่นคงที่สุด
ฌาณเลิกคิ้ว พลางจ้องเธออย่างตั้งใจ
“แล้วไปนอนตอนไหนทำไมพี่ไม่เห็น”
เฌอปรางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา
“ก็พี่ฌานเมาขนาดนั้นไม่สนใจน้องเลยจะเห็นได้ยังไง” เธอพูดรีบเร่ง พร้อมพยายามทำตัวเนียนที่สุด
ฌาณยังคงจ้องเธออยู่ แต่เฌอปรางก็ทำใจนิ่ง รู้ตัวดีว่าถ้าเธอแสดงอาการสั่นหรือเขินมากไป พี่ชายอาจจับได้แน่
“ฮึ…ก็ได้ แต่อย่าให้พี่จับได้แล้วกันว่าแอบทำอะไรลับหลังพี่” ฌาณพูดเสียงเข้ม แต่ไม่พูดต่อ
เฌอปรางถอนหายใจเฮือกใหญ่ในใจ ใบหน้าแดงระเรื่อจากความตื่นเต้นและความเขินอาย
“รอดไปอีกครั้ง…” เธอคิด พลางยิ้มบางๆ ให้กับตัวเอง แม้หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด
เฌอปรางก้าวขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง ใจเต้นแรงเหมือนจะกระโดดออกจากอก เธอปิดประตูเบาๆ และพิงตัวกับประตูสักครู่เพื่อรวบรวมสติ
ทุกอย่างเกิดเร็วเกินกว่าที่เธอคาดคิด ทุกอย่างในหัวของเธอเริ่มตีกันด้วยความสับสน
“ถ้าฉันท้อง…ทุกอย่างจบแน่ ฉันต้องแต่งงานกับพี่เหนือแน่ๆ” เธอพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าร้อนผ่าวจากความเขินอายและความวิตก
เธอรีบถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อที่จะไปจัดการบางอย่างกับตัวเอง น้ำอุ่นไหลผ่านร่างกาย ทำให้หัวใจของเธอสงบลงเล็กน้อย แต่ความวิตกยังไม่จาง เธอต้องไปซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินรับประทาน ไม่อย่างนั้นอาจจะสายเกินแก้
หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเรียบร้อย เฌอปรางหยิบกระเป๋า เตรียมออกไปข้างนอกด้วยความระมัดระวังที่สุด ใจยังคงเต้นแรงจากความเขินอายและความกังวล เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้โดยเฉพาะพี่ชาย
ทุกย่างก้าวที่เธอออกจากบ้านเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ความคิดเรื่องผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและอนาคตของเธอ ทำให้เธอก้าวเดินด้วยความเครียด แต่ในใจลึกๆ เธอก็มั่นใจแล้วว่า…เธอต้องควบคุมสถานการณ์นี้ด้วยตัวเองได้