“ดูเหมือนปรางจะกังวลมากนะ” เขาพูดเสียงต่ำ แต่ก็ทำให้เฌอปรางหัวใจเต้นแรงขึ้นอีก เธอไม่ตอบ แต่เลือกที่จะออกไปจากร้านขายยาทันทีที่ได้ยา เธอก้มหน้าลง รีบคว้ากระเป๋าและเดินออกจากร้าน รู้สึกทั้งอาย ทั้งเครียด แต่ก็โล่งใจที่ได้ยาคุมอยู่ในมือ
วินาสสันตโรจริงๆ เธอคิดในใจ ใครจะไปคิดว่าจะเจอวาโยอีกครั้งในสถานการณ์แบบนี้ สถานการณ์ที่ไม่ควรจะเจอเขาที่สุด
หลังจากเฌอปรางรีบออกจากร้านไปสักพัก ใจยังเต้นแรงจากเหตุการณ์ทั้งหมด คืนที่ผ่านมาและเช้าวันนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว วาโยยังยืนมองตามหลังเธอด้วยแววตาครุ่นคิดและแอบยิ้มน้อยๆ ออกมา
ส่วนเฌอปรางก็เลือกเดินมาที่รถของตัวเอง ยังไม่ทันได้สงบใจ แล้วเธอก็พบว่าโลกนี้มันกลมอีกแล้ว โลกก็ช่างกลมเหลือเกิน… สายตาของเธอสะดุดกับรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ข้างๆ เธอ และ…ใช่…วาโยกำลังยืนอยู่ข้างรถคันนั้น
“โลกนี้…ทำไมมันกลมขนาดนี้!” เฌอปรางคิดในใจ ใบหน้าแดงระเรื่อ ทั้งโกรธทั้งอาย เรื่องเมื่อคืนกำลังตามหลอกหลอนในหัวของเธอ
เธอรีบก้าวไปด้านหน้ารถ พยายามทำตัวเฉยๆ ทั้งๆ ที่ใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
“ทำไมต้องเจอพี่ตรงนี้ด้วย ซวยไม่หยุดจริงๆ” เฌอปรางพูดใส่่หน้าชายหนุ่ม แต่ฝ่ายชายก็ไม่ได้ถือสาแต่อย่างใด ถ้าเธอทำแล้วสบายใจก็ทำเลย เขาไม่ติดอะไรอยู่แล้ว
วาโยมองเฌอปรางด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ผสมความเป็นห่วง
“พูดว่าซวยบ่อยๆ นี่แช่งตัวเองป่ะ?” เขาถามอย่างแผ่วเบา แต่แฝงรอยยิ้มที่ทำให้เฌอปรางรู้สึกว่าเธอกำลังโดนเขายิ้มเยาะ
เธอพยายามทำหน้าเรียบเฉย แต่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา
“ไม่มีอะไรจะซวยไปกว่าการเจอพี่เหนือทุกที่แบบนี้หรอก มันไม่มีขั้นกว่าหรอกค่ะ” เธอตอบออกไปโดยไม่สนความรู้สึกของอีกคน
“ปากแจ๋วไม่เปลี่ยน แบบนี้มันน่าจะโดนปิดปากด้วยปากมั้ยน้าาาา” วาโยยืนอยู่ข้างรถ แอบยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความกวน มันทำให้เธอตาลุกวาวด้วยความไม่พอใจ ตาบ้านี่มันบ้าจริงๆ กัดไม่ปล่อย กัดไม่เลือก
“หลบไปก่อนที่ปรางจะขับรถเหยียบตายตอนนี้” เฌอปรางแทบอยากมุดหน้าลงดิน ใบหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความโกรธ หนอย...ปิดปากด้วยปากน่ะเหรอ ไอ้ลามก เธอไม่น่าหลวมตัวคุยด้วยเลย
เมื่อเฌอปรางกล่าวจบเธอรีบก้าวขึ้นไปบนรถด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่วาโยจะทันได้พูดอะไรต่อ เฌอปรางรีบปิดประตูรถดังปัง! ด้วยความใจร้อนและเขินอายสุดขีด วาโยยืนอยู่ด้านนอก มองประตูรถที่ปิดลงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้าแดงระเรื่อของเธอยังติดอยู่ในความทรงจำของเขา
“ฮึ…โลกช่างสนุกจริงๆ เวลาได้เห็นหน้ายัยปรางเป็นแบบนี้” เขาพึมพำเบาๆ พลางหัวเราะเงียบๆ กับตัวเอง
เฌอปรางนั่งลงบนเบาะ ใจยังเต้นแรงไม่หยุด เธอรู้ตัวดี…ยิ่งวาโยอยู่ใกล้เท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเขินอายและตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น เพราะภาพในหัวของเธอกำลังเริ่มจำเรื่องราวเมื่อคืนได้บ้าง แผงอกกว้างที่แน่นไปด้วยซิกแพ็ค เธอกำลังมองเห็นมัน บ้าไปแล้ว บ้ามากจริงๆ ใจเธอยังคงเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
“ทำไม…ทำไมใจฉันถึงเต้นแรงแบบนี้นะ?” เธอคิดในใจ ใบหน้าร้อนผ่าวจากความเขินอาย
เธอมองออกไปทางกระจก เห็นรถของวาโยขับออกไปแล้วอย่างไม่สนใจใคร เขาคงไม่รู้สึกอะไร…ไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ แต่ทำไมตัวเธอถึงยังรู้สึกใจสั่นไม่หยุด เธอต้องควบคุมตัวเองให้ได้สิปราง อย่าให้คนบ้าแบบนั้นมามีอิทธิพลเหนือเธอ ให้เขาเหนือแค่ชื่อนะ แต่อย่าอยู่เหนือเธอ
เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามรวบรวมสติ แต่หัวใจของเฌอปรางยังคงเต้นแรงราวกับเต้นไปตามแรงดึงดูดที่เขามีต่อเธอ แม้รถของวาโยจะหายไปจากสายตา แต่ความสับสนในใจของเฌอปรางยังคงอยู่ ทำให้เธอรู้ตัว…ว่าเรื่องเมื่อคืนและความใกล้ชิดของเขา ไม่ง่ายเลยที่จะลืม
เฌอปรางกลับมาถึงบ้านด้วยความไม่พอใจเต็มเปี่ยม ใจยังคงเต้นแรงจากเหตุการณ์เช้านี้ ทั้งเขินอาย ทั้งโมโหในเวลาเดียวกัน เธอรีบขึ้นไปบนห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาเรียบร้อยสำหรับไปมหาวิทยาลัย ใบหน้าแดงเล็กน้อยแต่สายตาเรียบเฉย พยายามรวบรวมสติและควบคุมอารมณ์ให้กลับเป็นปกติ
“เอาล่ะ…ต้องไปมหาวิทยาลัยแล้ว อีกแค่เดือนเดียวก็จะจบแล้ว ฉันต้องตั้งใจเรียน ไม่ให้เรื่องวุ่นวายเช้านี้มาทำลายสมาธิเด็ดขาด” เธอพึมพำกับตัวเอง
หลังจากจัดกระเป๋าเรียบร้อย เฌอปรางรีบก้าวลงบันไดด้วยฝีเท้ารวดเร็ว รู้สึกทั้งเครียด ทั้งอยากหนีความอายที่ยังค้างอยู่
เธอขึ้นรถยนต์ของตนเองที่พี่ชายสุดที่รักซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เพื่อขับไปมหาวิทยาลัย ใจยังเต้นแรงจากเหตุการณ์เมื่อเช้า แต่ก็พยายามโฟกัสกับการเรียนและอนาคตของตัวเอง ระหว่างทางที่เฌอปรางขับรถไปมหาวิทยาลัย ใจของเธอกลับไม่โฟกัสกับถนนเท่าที่ควร ความคิดทั้งหมดกลับวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์เช้านี้และวาโย แม้จะพยายามตั้งใจขับรถ แต่หัวใจก็เต้นแรงจนแทบจะควบคุมไม่ได้
ความทรงจำเมื่อคืน ความใกล้ชิด การหยอกล้อของวาโย…ทุกอย่างยังติดอยู่ในหัวของเธอ ทำไมเธอต้องคิดถึงเขาตลอดเวลา ทำไมถึงรู้สึกเขินเวลาเจอเขา เธอต้องควบคุมตัวเองให้ได้ เฌอปรางพยายามบอกตัวเองย่างนั้น
มือที่จับพวงมาลัยแน่นขึ้น ร่างกายทั้งตัวสั่นเล็กน้อยจากความสับสนในใจ เธอรู้ดี…ยิ่งคิดถึงวาโยมากเท่าไหร่ ใจของเธอก็ยิ่งไม่สงบมากขึ้นเท่านั้น แต่เธอก็ต้องพยายามอย่างที่สุด ที่จะลบมันออกไปจากใจของเธอ