Chapter 16
“อื้อ ~” ยาหยีร้องครางอื้อในลำคอ ส่งสัญญาณบอกเขาให้รู้ว่าเริ่มหายใจไม่ทัน วายุที่เห็นแบบนั้นจึงผละปากออกให้หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แต่เพียงเสี้ยวนาทียาหยีก็ต้องร้องตกใจ เมื่อถูกจับเปลี่ยนท่าให้หันหน้าไปทางทะเลอันมืดมิด อีกทั้งโดนถกดึงแพนตี้ตัวจิ๋วลงที่ข้อเท้า และพอเหลียวมองคนตัวสูงก็เห็นเขาอยู่ในสภาพล่อนจ้อนแล้ว
“อื้อ! เฮีย ~” ยาหยีเปล่งเสียงร้องครางดังยิ่งกว่าเดิม เมื่อโดนมือสากใช้นิ้วถูไถรอยแยกขึ้นลงจนรู้สึกวาบหวาม
“หืม...” เขาขานรับในลำคอพร้อมทั้งเอาปลายนิ้วเรียวยาวถูวนปากทางร่องลึกจนฉ่ำแฉะ
“อ๊ะ ~ เจ็บ” จากที่กำลังเสียวซาบซ่าน กลับต้องสะดุ้งตัวโหยง เมื่อโดนนิ้วเรียวยาวดันเข้ามาในร่องสวาทจนรู้สึกอึดอัด คับแน่น เจ็บแปลบ จึงต้องบิดเร่าขยับตัวหนีให้สิ่งแปลกปลอมหลุดจากร่องคับแคบ แต่มันกลับไม่เป็นผล เพราะยิ่งพยายามขยับตัวหนี เขายิ่งเอาแขนแกร่งกอดรัดเอวคอดกิ่วไว้แน่น มิหนำซ้ำยังรัวนิ้วชักเข้าชักออกในร่องสวาทอย่างถี่ยิบ ทำเอาร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงจ้วงแทง
เมื่อเริ่มปรับสภาพร่างกายเข้ากับนิ้วเรียวยาวได้แล้ว ก็ถูกจับหมุนตัวให้หันหน้าเข้าหากัน แต่ยาหยีไม่ได้มองหน้า กลับมองลงต่ำตั้งใจจะดูนิ้วของเขาที่จ้วงแทงเข้าร่องสวาทไม่หยุด แต่สิ่งแรกที่เห็นกลับเป็นแท่งร้อนปะทะที่ตาเสียก่อน จึงต้องหันหน้าหนีด้วยใจเต้นระส่ำอย่างบ้าคลั่ง เพราะนอกจากตัวตนของเขาจะลำใหญ่ยาว หัวหยักอมชมพูมันวาวแล้ว เวลาได้เห็นทีไรใจมันเต้นตุบ ๆ อยู่ร่ำไป ถึงแม้ที่ผ่านมาจะเช็ดตัวให้เขาและได้เห็นส่วนนั้นอยู่บ่อยครั้ง ก็ยังไม่ชินกับขนาดอลังการยามขยายตัวอยู่ดี
“อย่าหันหน้าหนี มองมันให้ชิน” วายุพูดบอกพร้อมทั้งดึงมือเล็กมากำแก่นกายชักรูดขึ้นลง
พอโดนชักนำให้ทำแบบนั้น หญิงสาวก็ฮึดสู้ลำแกร่ง ด้วยการเอามือเล็กชักรูดแก่นกายเอาใจเขา และยิ่งได้ยินคนตัวสูงซู้ดปากคราง หญิงสาวก็ยิ่งขยับมือขึ้นลงอย่างรัวเร็ว จนน้ำใส ๆ ไหลปริ่มออกจากหัวหยักจนมันวาว
ในระหว่างที่ยาหยีกำลังเมามันกับการชักรูดแท่งยาว ก็ต้องเปล่งเสียงร้องครางด้วยความซาบซ่าน เมื่อโดนปลายลิ้นสากตวัดเลียยอดปทุมถันอย่างมูมมาม จนเย็นวาบเสียวซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย แทบจะยืนทรงตัวไม่ไหว
แต่ในขณะที่ร่างบางกำลังจะทรุดตัวไปนั่งกองกับพื้นด้วยสภาพแข้งขาอ่อนแรง วายุก็จับร่างบางเปลี่ยนท่าให้หันหลังให้มือเล็กยึดเกาะที่ราวระเบียงไว้ โดยที่เขารวบกอดเอวคอดกิ่วไว้แน่น แล้วดันนิ้วชี้สอดใส่ช่องทางรักอีกครั้ง
“ฮะ...เฮีย หนูยืนไม่ไหวแล้ว...”
พอยาหยีบอกไปแบบนั้น วายุก็อุ้มหญิงสาวเข้าไปในห้อง แล้ววางร่างบางนอนหงายบนเตียงนุ่ม
พอเรือนร่างขาวโพลนสัดส่วนสวยงามนอนอ่อนระทวยอยู่บนที่นอนนุ่มสีขาว ชายหนุ่มก็มองหญิงสาวด้วยแววตาปรารถนาเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความใคร่
และเมื่อเลือดในกายมันสูบฉีดจนฮอร์โมนพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ชายหนุ่มจึงไม่รอช้าที่จะขยับตัวไปนั่งแทรกกลางหว่างขา จับขาเรียวฉีกอ้าออกกว้าง แล้วจ่อหัวหยักบานใหญ่กดผลุบเข้าร่องสวาทจนรูเล็กขยายอ้าตามขนาดตัวตนของเขา
กึด!
“จะ...เจ็บ” ยาหยีกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นด้วยความปวดร้าว ก่อนหน้าแค่โดนนิ้วก็ว่าเจ็บแล้ว พอโดนแท่งร้อนเสียบเข้าแค่ส่วนหัวหยัก ตอนนี้เหมือนกับว่าส่วนกลางกายจะฉีกขาดออกจากกัน
“อย่าเกร็ง ยิ่งเกร็งยิ่งเจ็บ” เขาเองก็ปวดหนึบไปทั้งลำไม่ต่างกัน ที่โดนร่องรูเล็กตอดรัดไว้แน่นจนยากจะดันส่วนที่เหลือเข้าไป แต่ในเมื่อมันได้เข้าไปแล้ว ก็ต้องเอาเข้าให้สุด ใบหน้าหล่อเหลาจึงขบกรามแน่น แล้วตอกแก่นกายดันพรวดเข้าไปในร่องสวาทจนมิดด้าม
กึด! ปึก!
“กรี๊ดดดด! เจ็บ!” ยาหยีดิ้นพล่านด้วยความเจ็บแปลบทรมาน
“ซี้ด ~ ถ้ามันเจ็บแบบนี้ เขาเรียกว่าโดนเปิดซิง...” วายุก้มมองจุดเชื่อมกลางกายที่ผสานร่างเป็นหนึ่งเดียว แล้วอธิบายให้ยาหยีฟังราวกับสอนวิชาเพศศึกษา
“หนูเจ็บมากเลย พอแล้วได้ไหมคะ” ตอนนี้ยาหยีเจ็บปวดที่ส่วนกลางกายสุด ๆ ราวกับร่างกายจะปริแตกเป็นเสี่ยง ๆ
“เฮียยังไม่เสร็จเลย จะให้หยุดแล้วเหรอ?” ร่างแกร่งขยับถอดแก่นกายออกจากร่องสวาทช้า ๆ ทำให้เห็นเลือดพรหมจรรย์เคลือบแก่นกายจนมันวาว พอเห็นเลือดจาง ๆ ติดลำแกร่ง อารมณ์ความใคร่ก็ยิ่งพลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม เขาจึงตอกอัดลำแกร่งเข้าร่องสวาท เน้น ๆ แรง ๆ อยู่หลายครั้ง
ปึก! ปึก!
“กรี๊ด...เฮีย! หนูเจ็บ อย่าทำหนูแรง” ยาหยีร้องลั่นจนน้ำตารินไหลอาบแก้ม
“โอ๋ ๆ ทนหน่อยนะเด็กดี อีกแป๊บเดียวก็หายเจ็บแล้ว” วายุเอามือสากเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มเนียนใสอย่างอ่อนโยน แต่แรงสะบัดเอวสอบกลับสวนทางกัน เพราะเขาถาโถมแก่นกายอย่างดุเดือดเลือดสาด
ปึก! ปึก! ปึก!
“ฮือ ~ หนูเจ็บ” ใบหน้าสวยทำสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดทรมาน ยามที่แก่นกายจ้วงแทงเข้าใส่ร่องสวาทไม่ยั้งแรง
“เมี้ยว ~”
“หยุดเลยไอ้อ้วน อย่ามากวนป๊าเอามี้” วายุหันไปดุเจ้าแมวอ้วนที่คิดจะมากวนเขาทำรักกับยาหยี
ซึ่งเสียงดุของเขา ทำเอาแมวตัวอ้วนหัวหด สะบัดตูดเดินไปนอนแอ้งแม้งบนที่นอนตามเดิม
“อ๊ะ ๆ อื้อ” ในเวลาต่อมาเสียงครางเสียดเสียวดังขึ้น เมื่อหญิงสาวเริ่มปรับสภาพร่างกายรับแรงกระแทกของเขาได้ แต่ยิ่งร้องครางเสียงดัง คนตัวโตก็ยิ่งถาโถมแก่นกายเข้าใส่อย่างหนักหน่วง จนในที่สุดยาหยีก็หลั่งน้ำสีใสออกจากร่องสวาท
ในระหว่างที่ร่างบางกำลังปลดปล่อยห้วงอารมณ์แห่งความสุขไหลออกมาอย่างท่วมท้น ร่องรูรักก็โดนแก่นกายกระแทกใส่สุดแรงไม่หยุด
ปึก! ปึก!
“อ๊ะ ๆ”
“ซี้ด...” ปากหยักซู้ดปากคราง แล้วสะบัดเอวสอบจนร่างบางเคลื่อนตัวขึ้นลงจนผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ และเมื่อความเสียวซ่านจู่โจมแท่งร้อนอย่างหนักหน่วง เขาก็ดึงแก่นกายออกจากร่องคับแคบ แล้วนอนหงายข้าง ๆ ร่างบาง ปล่อยให้ตัวตนของเขาพุ่งกระฉูดน้ำสีขาวขุ่นออกมาทุกหยาดหยดราวกับท่อประปาแตก
หลังจากรีดน้ำรักออกจนหมด แต่ทว่าแก่นกายกลับยังไม่ยอมสงบ เขาก็เลยจับหญิงสาวนอนพลิกคว่ำ
“ไม่เอาแล้วเฮีย”
“หนูอย่างอแงสิยาหยี” เขาไม่ฟังเสียงห้ามของยาหยี แต่กลับเอามือถูไถร่องรักจากทางด้านหลังกระตุ้นอารมณ์ความใคร่ให้ลุกโชนขึ้น พอเห็นร่างบางกระตุกเกร็งไม่หยุด เขาก็จ่อแก่นกายผลุบเข้าร่องแคบ แล้วสะบัดเอวใส่ร่องรักอย่างหนักหน่วง จนเสียงครางดังลั่นด้วยความซาบซ่านขึ้นมาอีกครั้ง
รุ่งเช้า
ยาหยีปรือตามองใบหน้าหล่อเหลาที่ยังหลับสนิท พลางนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น
ย้อนกลับไปเช้าวันรุ่งขึ้นหลังวันเกิดลุงอาทิตย์ผ่านพ้นไป เมื่อวายุเดินออกจากห้องด้วยความโมโหและขับรถออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว
ยาหยีก็เข้าไปพบคุณลุงอาทิตย์กับป้าจันทร์ฉาย เพื่อปฏิเสธการแต่งงาน แต่เพียงแค่หย่อนตัวนั่งบนโซฟา ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ จู่ ๆ ลุงอาทิตย์กลับพูดกับเธอว่า...
‘หนูยาหยี โฉนดที่ดินพร้อมบ้านและไร่องุ่นนิธิรดา ที่โดนไอ้เสี่ยคนนั้นยึดไป ลุงส่งคนไปติดต่อขอซื้อคืนจากมันมาได้แล้วนะลูก’
‘จริงเหรอคะคุณลุง’ จากที่กำลังคิดไม่ตกเรื่องของเธอและวายุ ยาหยีก็ถามกลับลุงอาทิตย์ด้วยแววตาเป็นประกายวาววับ เพราะยาหยีอยากได้ที่ดินผืนนั้นคืนเป็นอย่างมาก
“จริงลูก”
“คุณลุงซื้อที่ดินจากเสี่ยคนนั้นมาเท่าไรคะ”
“ยี่สิบล้านบาท...”
“ยี่สิบล้านเลยเหรอคะ...” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เพราะแค่ล้านเดียวเธอก็ไม่รู้ว่าทั้งชีวิตจะสามารถเก็บเงินจำนวนนี้ได้ตอนไหน นี่ตั้งยี่สิบล้านดูเหมือนจะสิ้นหวังไปเลย
‘อืม...ไอ้เสี่ยคนนั้นมันโก่งราคา หากไม่ให้เงินตามที่มันเสนอมา มันไม่ยอมให้ไถ่คืน แต่เงินแค่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับลุงหรอก เพราะลุงตั้งใจจะยกที่ดินผืนนี้ให้หนูอยู่แล้ว”
“คุณลุง...” ยาหยีเอ่ยเรียกลุงอาทิตย์ด้วยความซาบซึ้งใจ เพราะไม่คิดว่าลุงอาทิตย์จะทำเพื่อเธอขนาดนี้
“แต่...หนูต้องแต่งงานกับวายุ แล้วมีหลานให้ลุง ลุงจะโอนโฉนดที่ดินผืนนี้เป็นชื่อหนูทันที มันอาจจะเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่เห็นแก่ตัว แต่ลุงเชื่อว่าหากพ่อแม่ของหนูยังอยู่ ก็จะทำแบบลุงนี่แหละ”
“แต่การแต่งงานและการมีลูกสักคนต้องเกิดจากความรักนะคะ ไม่ใช่การถูกบังคับ อีกอย่าง...เฮียไม่ได้รักหนู”
“แล้วหนูรักเฮียวายุหรือเปล่าลูก”
“รักค่ะ”
“ลุงเชื่อว่าสักวันหนึ่งวายุมันต้องรักหนู อีกอย่างวายุต้องรับผิดชอบหนูด้วย”
“แต่เฮียวายุอาจจะไม่ได้ทำแบบนั้นกับหนูก็ได้นะคะ ถึงจะทำ ต่างคนก็ต่างเมา คนที่ผิดก็น่าจะเป็นหนู ที่อาจจะเดินไปนอนห้องเฮียเอง จนเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น”
“แต่เรื่องทั้งหมด หนูเป็นคนเสียหายนะลูก”
“คือหนู...”
“หนูไม่อยากได้ที่ดินพ่อแม่ของหนูคืนเหรอลูก”
“อยากได้ค่ะ”
“งั้นก็เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของวายุ อย่าคิดมากเลย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของลุง
ถึงยาหยีจะไม่เห็นด้วยกับการบังคับจิตใจกัน แต่ข้อเสนอของลุงอาทิตย์ ทำให้ยาหยียอมเห็นแก่ตัว เพื่อแลกกับที่ดินพ่อแม่ของเธอ
แต่เมื่อคืนกลับทำให้ความจริงกระจ่างแจ้งแล้วว่า...วายุไม่ได้ล่วงเกินอะไรเธอเลย พอนึกถึงตรงนี้เธอก็รู้สึกละอายใจมากเหลือเกิน
“หนูขอโทษนะคะเฮีย” ยาหยียื่นหน้าหอมแก้มสาก ก่อนจะยกแขนแกร่งออกจากเอวและขยับลงจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเขา
เมื่อหญิงสาวเดินลงจากเตียง ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ส่วนกลางกาย แต่มันก็ไม่ได้เจ็บมากเหมือนตอนโดนแท่งร้อนจ้วงเข้าไปในร่องสวาท
และในขณะที่กำลังจะเดินไปห้องน้ำ เจ้าแมวยูริยังเดินมาคลอเคลียที่ขาเรียวอย่างออดอ้อนพร้อมร้อง “เมี้ยว ๆ ~” ไม่หยุด
“จุ๊ ๆ อย่าร้องเสียงดัง ป๊ายังนอนหลับอยู่ ห้ามกวนป๊านอนนะ เดี๋ยวมี้ไปอาบน้ำก่อน” ก็เพราะเมื่อคืนเขาแทนตัวเองว่าป๊ากับยูริ ยาหยีก็เลยยกให้เขาเป็นป๊าของยูริอย่างไม่อิดออด
และเมื่อยาหยีกอดหอมเจ้าแมวอ้วนแสนรักจนพอใจ เธอก็วางยูริไว้ที่เบาะนุ่มตามเดิม จากนั้นหญิงสาวก็เข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว