(พระราม)
01.02 am.
ก็อกๆ แกร๊ง..
"ตะเอ๋เค้ากลับมาแล้ว"
ผมละสายตาจากหน้าจอแท็บแล็ตมองที่รักที่กำลังเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยรอยยิ้ม ผมมองเธอที่ตอนนี้ใส่ชุดเดรสสั้นสีขาวที่ค่อนข้างจะเรียกได้ว่าตั้งใจโชว์ทั้งเนินอก และแผ่นหลังเรียบเนียนเลยก็ว่าได้ ที่รักวางกระเป๋าเก็บเข้าที่เข้าทางก่อนจะเดินรวบผมขึ้นมานั่งข้างๆผมที่กำลังรออยู่
"คิดถึงหนูจนนอนไม่หลับเลยเหรอคะ?"
"แน่สิ เป็นห่วงว่าจะเอารถไปเฉียดชนฟุตบาทอะไรแบบนั้นอีก"
"โถ่แด๊ดดี้พูดแค่ว่าเป็นห่วงหนูมันจะตายเหรอคะ?"
ที่รักเม้มปากมองผมอย่างออดอ้อนพร้อมกับขยับเอาเรียวขาสวยๆมาพาดที่ตักผม และขยับใบหน้ามาหอมแก้มผมเบาๆ ใบหน้าสวยเหยียดยิ้มบางๆก่อนจะซบลงที่ลาดไหล่ผมอย่างอ้อนๆ..เธอกำลังเมาได้ที่เลยแหละ แต่ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่กำลังกรึ่มๆแบบนี้ของที่รักมันน่ารักน่าเอ็นดูซะจนผมไม่เคยอดใจไหว
"ดื่มกันไปเยอะเหรอ?"
"ไม่เยอะหรอกก็บอกอยู่ว่าไปอย่างคุณหนูก็ต้องกลับอย่างคุณหนู"
"เพื่อนล่ะเขากลับกันเรียบร้อยยัง?"
"โอ๊ะ เกือบลืมถาม"
ที่รักรีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดแชทถามเพื่อนตัวเองซึ่งไม่นานเพื่อนในกลุ่มของเธอก็ส่งข้อความตอบกลับจนที่รักเงยหน้ามองผมที่กำลังรอคำตอบอยู่
"เรียบร้อยทุกคนจ้า"
"หึ"
ผมพยักหน้ากับคำตอบที่ได้ จริงอยู่ที่แฟนผมไปเที่ยวผมต้องดูแลแฟนผมแน่นอน แต่เพื่อนๆของเธอผมก็ต้องถามไถ่เช่นกัน เพราะอย่างที่รู้ว่าทุกคนยังเด็กกันอยู่
"พรุ่งนี้วันเสาร์เราไปไหนกันดี?"
ที่รักเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยรอยยิ้มขณะที่ผมก็ได้แต่ถอนหายใจ และลูบผมเธออย่างรู้สึกผิด
"พี่ติดประชุมกับบอรด์น่ะสิ"
"ง่ะ" ใบหน้าสวยงองำพร้อมกับซบลงที่ลาดไหล่หนีหน้าผมทันที "อาทิตย์ก่อนก็ประชุม"
"ขอโทษนะครับพี่งานยุ่งมากจริงๆ กำลังใกล้ถึงช่วงที่ต้องตรวจงานประจำไตรมาสด้วย"
"อือ"
"ที่รัก"
ยัยเด็กงอนแน่นอนมาทรงนี้น่ะ ผมเชยคางที่รักขึ้นมาสบตากันอย่างรู้สึกผิดขณะที่ที่รักกำลังเม้มปากแน่นคล้ายจะร้องไห้
"เราไปเดทกันตอนค่ำได้ไหม ไปหาหนังดูหรือดินเนอร์ร้านที่เธอชอบ"
"ไม่เอา"
"โถ่ แล้วพี่ต้องทำยังไง"
"รักอยากไปเที่ยวเล่นกลางแดดกับพี่บ้างไม่ได้ตีเทนนิสกับพี่มาตั้งหลายอาทิตย์แล้ว"
ที่รักบ่นเสียงเบาในลำคอพร้อมซบใบหน้าลงที่อกของผม ขณะที่ผมทั้งรู้สึกผิดและหนักใจอย่างบอกไม่ถูก
"พี่ไม่รู้ว่าจะประชุมเสร็จตอนไหน"
"มันวันเสาร์อาทิตย์นะพี่พี่ควรได้พักบ้าง เนี่ยพอพูดมากก็เหมือนรักเป็นพวกงี่เง่าเลยแต่พี่อ่ะทำงานไม่พักจริงๆ"
ผมถอนหายใจมองที่รักอย่างเหนื่อยใจ เพราะขืนยังจะไปเถียงที่รักคงได้อาละวาดอีกแน่ แต่จะไม่ไปร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้อีกแหละ
"พี่จะทำงานก็ทำเถอะเดี๋ยวรักไปกับเพื่อนก็ได้"
"ที่รักพี่ยังไม่ได้พูดเลย.."
"แต่พี่ก็ไม่ไปประชุมไม่ได้อยู่แล้วนิ"
ที่รักเงยหน้ามามองผมด้วยความไม่พอใจก่อนเธอจะขยับลุกและถอนหายใจเสียงดัง
"ไปทำงานที่พี่รักเถอะค่ะเดี๋ยววันไหนพี่ได้หยุดเราค่อยไปกันก็ได้รักรอได้รักโอเค"
พูดจบเจ้าตัวก็เดินเข้าไปในห้องนอนทันทีทิ้งให้ผมได้นั่งรู้สึกผิด เพราะทำอะไรไม่ได้อีกครั้ง อ่าเรื่องนี้มันทำให้ที่รักโมโหหลายครั้งแล้วแต่ถ้าผมเข้าไปง้อเธอก็จะบอกว่าไม่ต้องง้อ เพราะเดี๋ยวก็หายและเธอก็หายโกรธอย่างที่พูดจริงๆ แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดีเพราะช่วงนี้ปล่อยปละละเลยน้องจริงๆ
ผมว่าผมควรเคลียร์งานให้เสร็จให้เร็วที่สุดก่อนที่ปัญหาเล็กๆจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผมกับที่รัก เพราะถ้าถึงตอนนั้นแล้วผมอาจโดนน้องงอนจริงๆไปเลยก็ได้
11.43 am.
"ไอ้รามมึงก็อย่าตึงนักสิวะ"
ผมถอนหายใจมองไอ้บอสที่นั่งอยู่ข้างๆ หลังจากที่เราประชุมไปหลายเรื่องแล้วผมเพิ่งจะโดนตำหนิเรื่องความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เข้ามาทำงานด้วย แต่จะให้พูดยังไงในเมื่อผมไม่ชอบคุยกับใครมากไปเกินกว่าจำเป็นน่ะ
"กูไม่ชอบไม่อยากทำ"
"กูรู้ว่ามึงไม่ชอบ แต่มึงจะขัดประธานบ่อยๆไม่ได้นะ"
ไอ้บอสยกมือขึ้นทำท่าปาดคอตัวเองขณะที่ผมก็ส่ายหน้าไปมา และเหลือบมองประธานที่กำลังนั่งฟังการรายงานของแผนกการเงิน และคนที่เป็นประธานก็คือพ่อผมเอง...อย่างที่รู้ว่าพ่อผมเป็นเจ้าของหลายบริษัทมากและบริษัทนี้เขาก็เป็นอีก แต่มีผมที่เข้ามาเป็นรองประธานช่วยเขาหลักๆก็ต้องทำหน้าที่ประธานแหละเลยโดนด่าเรื่องการไม่เข้าสังคมของตัวเอง
"ผมค่อนข้างเป็นห่วงการตรวจงานในไตรมาสที่จะถึงนี้มาก ดูก็รู้ว่าบริษัทเรากำลังเจอกับปัญหาใหญ่เรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทคู่ค้า เพราะงั้นผมคิดว่ารองประธานควรใส่ใจมากกว่านี้ไม่งั้นยอดอาจตกได้"
ผมพยักหน้ามองพ่อที่กำลังมองตรงมาด้วยแววตานิ่งเรียบไม่ต่างจากผมที่กำลังมองเขาด้วยแววตาเช่นเดียวกัน
"ผมจะปรับปรุงอย่างหนักในเรื่องนี้ขอบคุณท่านประธานครับที่ใส่ใจ"
"ขืนยอดตกบริษัทก็แย่สิท่านรองคุณกำลังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ผมไม่ควรใส่ใจเหรอ แล้วยังเรื่องปากท้องพนักงานอีกผมไม่อยากให้บริษัทที่เป็นที่ปรึกษาเรื่องการดำเนินงานภายในองค์กรอย่างบริษัทเราต้องมีเรื่องขับพนักงานออก เพราะไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงาน เพราะถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นเราคงไม่ได้รับการยอมรับจากหลายๆบริษัทแน่"
"ผมทราบครับท่านผมไม่พาคนในองค์กรเราไปตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน ผมจะรีบจัดการแก้ไขโดยด่วน"
พ่อผมพยักหน้าก่อนเขาจะผิดเอกสารและขยับลุกทุกคนในห้องประชุมจึงต้องลุกขึ้นตาม
"ผมรู้ว่าคุณจะแก้ไขปัญหาได้ เพราะงั้นผมจะตั้งตารอดูผลลัพธ์ในการตรวจงานนี้"
"ครับ"
"ขอบคุณทุกท่าน ผมขอจบการประชุมในวันนี้"
ผมก้มหัวให้ประธานที่เดินออกไปจากห้องประชุมก่อนจะนั่งลงที่เดิม ในขณะที่ผู้จัดการแต่ละแผนกกำลังทยอยเดินออกจากห้องประชุมไปจนเหลือแค่ไอ้บอสกับผมที่นั่งมองกันอยู่
"มึงกับพ่อมึงเนี่ยสามารถทำให้อุณหภูมิห้องลดลงได้อย่างน่าทึ่งเลยรู้ตัวไหม"
"ก็พอรู้แต่จะให้ทำยังไง"
"เฮ้อ แล้วจะเอายังไงโดนลูกค้าคอมเม้นเรื่องนี้มาจนพ่อมึงได้ยินอ่ะ"
"กูต้องรีบแก้ไขแหละเดี๋ยวตอนบ่ายต้องประชุมอีก"
ผมนวดคลึงที่ขมับตัวเองก่อนจะถอดแว่นสายตาทิ้งไปบนโต๊ะอย่างล้าๆ
ก๊อกๆ
"เข้ามา"
ไอ้บอสเป็นฝ่ายเอ่ยปากเองก่อนประตูจะถูกเปิดพร้อมกับเลขาของผมที่เดินเข้ามา
"ว่าไงดิน?"
ผมเงยหน้ามองเลขาที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ผมลาออกจากอาจารย์มาทำงานบริษัทได้เกือบสองปีอย่างดินด้วยความสงสัย
"คุณที่รักมารอทานข้าวครับเธอบอกจะรอที่ห้องท่านรอง"
"อ่อ ขอบคุณมากเดี๋ยววานเตรียมห้องประชุมสองไว้ประชุมตอนบ่ายสองทีนะ"
"ได้ครับท่าน"
"ขอบคุณ"
"น้องรักมาว่ะกูไม่ได้เจอนานขอไปเจอหน้าน้องให้หายคิดถึง.."
"ไม่ให้เจอ"
ผมตัดบทไอ้บอสด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะขยับลุกเดินออกจากห้องท่ามกลางเสียงโวยวายจากไอ้บอสอย่างขำๆ ผมก้าวเดินไปตามทางเดินด้วยความมั่นคงขณะที่สายตาก็กวาดมองแต่ละแผนกที่กำลังเตรียมตัวไปกินข้าวเที่ยงอย่างเนียนๆ ซึ่งพนักงานที่เห็นก็รีบก้มหัวทักทายผมจึงก้มหัวตอบก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์ไปชั้นของตัวเอง
ทำงานบริษัทมันก็ค่อนข้างดีทีเดียว เพราะผมที่ต้องการให้ทั้งพนักงานและผู้บริหารสนิทกับคนในองค์กรด้วยเราถึงอยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานมากหรอกแต่เราแค่ต้องรู้จักบริหารและรู้จุดแก้ไขให้มันส่งผลดีต่อคนในองค์กรมากที่สุด
แกร๊ง
ผมกวาดตามองหาที่รักแต่กลับไม่เจอเธออย่างที่เธอบอกดินไว้ ผมจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาซึ่งไม่นานปลายสายก็กดรับ
"ฮัลโหลเธออยู่ไหน?"
(อยู่ด้านล่างค่ะกำลังจะขึ้นไปห้องพี่อ่ะแต่สวนกับพ่อพี่ก่อนเลยยืนคุยกับท่าน)
"งั้นรอด้านล่าง"
(โอเค)
ผมใช้เวลาไม่นานก็ลงมาเจอกับที่รักที่กำลังนั่งรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ และพอเธอเห็นผมใบหน้าสวยก็แย้มยิ้มพร้อมทั้งเดินเข้ามาควงแขนผมทันที
"เจอกับพ่อพี่เหรอ?"
"อื้อเขากำลังจะออกจากลิฟต์เลยคุยกันนิดหน่อย พ่อพี่บอกว่าพี่โมโหที่เขาต่อว่ากลางที่ประชุมด้วยแหละ"
ที่รักแซวผมด้วยรอยยิ้มขณะที่ผมกำลังส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆ ลูกรักที่แท้จริงของพ่อผมไม่ใช่ผมหรอกแต่เป็นที่รักแทน เพราะเดี๋ยวนี้มีอะไรพ่อกับแม่ผมรายงานน้องหมด
"แงงโดนพ่อด่างอนพ่อไหมอ่ะ?"
"งอนบ้าอะไรก็โดนประจำ เราเถอะแทนที่มาจะบอกพี่ไว้"
"ตอนแรกก็ไม่คิดจะมาไงแต่คิดถึงพี่เลยออกมาหา"
"จริงเหรอ?"
"ไม่จริงพอดีหิวข้าวแล้วขี้เกียจทำเลยออกมาหา"
"ให้ตาย เธอเลือกที่จะอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าที่ใช้เวลามากกว่าทำอาหารเพื่อออกมากินข้างนอกแทนน่ะนะ?"
ที่รักเบะปากใส่ผมอย่างไม่พอใจนักก่อนเธอจะสะบัดผมไปมาระหว่างที่เรากำลังเดินไปที่รถ
"รักแค่คิดถึงพี่อ่ะ เออแล้วเมื่อกี้ชวนพ่อพี่แล้วเขาไม่ว่างไป"
"เขาก็มีนัดกับเมียเขาสิ"
"ลืมจ้าลืม คุณแม่พี่รามน่ะทำอาหารอร่อยที่สุด!"
"อร่อยแต่ก็ไม่ค่อยยอมไปกิน"
ที่รักเม้มปากมองผมทันทีที่ผมว่าให้น้องแบบนั้นก่อนเราจะเดินเข้ามาในรถของที่รัก แต่เป็นผมเองที่ต้องขับ ที่รักคาดเบลท์ก่อนหันมามองผม
"รักน่ะชอบอาหารฝีมือแม่พี่แต่รักเกรงใจ แถมแม่พี่ยังรบเร้าขอหลานอีกมันไม่ได้นะคะแม่เพราะลูกชายแม่เขาไม่ยอมขอหนูแต่งงานเลย!"
ผมหัวเราะขำก่อนจะเอื้อมมือไปบีบแก้มที่รักอย่างมันเขี้ยว
"เรียนให้มันจบก่อนเถอะ"
"ทำไม! นะนี่อย่าบอกนะคะว่าจะเซอร์ไพรส์ตอนเรียนจบ!"
"ที่รักเราห่างกันแค่นี้"
"แงงตื่นเต้นจะมีสามีกับเขาแล้ว!"
ที่รักยังคงขยับตัวไปมาอย่างกวนๆจนผมหมดคำจะพูด และจริงๆผมรู้ว่าเธอกวนไปงั้นแหละถ้าผมขอแต่งงานจริงเจ้าตัวต้องปฏิเสธแน่ๆอยู่แล้ว ผมรู้ดีว่าเธอไม่รู้จะตอบแม่ผมยังไงตอนที่แม่ถามถึงเรื่องแต่งงานน่ะ
"สรุปกินไร?"
"อะไรก็ได้"
"ไม่มีในโลกนะ"
ที่รักจิ๊ปากใส่ทันทีที่ผมกวนกลับไปแบบนั้น
"พี่อยากจะกินอะไรก็ไปสิคะรักได้หมดอ่ะวันนี้"
"เดี๋ยวไปจริงเธอก็บ่นอีก"
"อาหารตามสั่งข้างทางก็ได้พี่รักจะได้มีของเลือกเยอะๆ"
ผมหันมองที่รักทันทีซึ่งน้องก็ไม่ได้กวนหรืออะไร เพราะเธอคงจะคิดไม่ออกจริงๆว่าจะกินอะไร
"เดี๋ยวพี่พาไปกินร้านอร่อยๆแถวนี้"
"ก็แค่นั้นอ่ะ"
"เธอกำลังโมโหหิวหรือโมโหพี่?"
"ทั้งสอง"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือนุ่มมากดจูบเบาๆที่หลังมือ และเอามือของที่รักมาวางตรงเป้ากางเกงอย่างเคยชิน ก็จะไม่เคยชินได้ไงเพราะปกติที่รักก็มักเอามือมาลูบมาคลำเล่นประจำอยู่แล้วถึงผมจะไม่ดึงมาวางแต่เดี๋ยวไม่นานก็ต้องโดนอยู่ดี
"หือพี่มีอารมณ์เหรอทำไมเอามือรักไปวางเองล่ะ?"
ที่รักเลิกคิ้วมองผมขณะที่ผมกำลังมองเธออย่างเอือมระอา
"นึกว่าชอบ"
"ทำไมจะไม่ชอบล่ะแต่กางเกงพี่แน่นอ่ะวันนี้รักล้วงไม่ถนัด เนี่ยดูดิแน่นจนเห็นเป็นลำขนาดนี้พี่ทนได้ไงเนี่ย??"
ผมก็บอกแล้วว่าผมพูดน่ะไม่เคยผิดหรอก
"ไม่ได้เลยนะอย่าใส่ซ้ำสองอีกรักไม่ชอบเดี๋ยวมีคนมามองแท่งทองของรัก"
ที่รักเม้มปากและลูบเป้าผมไปมาขณะที่ผมกำลังยิ้มขำ
"กางเกงตัวนี้เธอซื้อให้พี่เองนะเผื่อลืม"
"โอ๊ยก็ซื้อตั้งนานแล้วไหมพ่อพ่ออย่าทำเหมือนตัวเองไม่โตขึ้นสิ พอปลดเลยกางเกงตัวนี้ไปซื้อตัวใหม่เห็นแล้วอึดอัดแทน"
"ครับเอาที่เธอชอบแล้วกัน"
"ไม่ต้องบอกหรอก"
ผมหลุดขำในตอนที่รักกอดอกพองแก้มใส่อย่างไม่พอใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเธอมาวางบนหน้าขาตัวเองอีกครั้ง เพราะมันเคยชินพอรักไม่วางมือที่ขามันก็เหมือนอะไรสักอย่างหายไปเลย