เมื่อคืนดรัณภพออกไปจากห้องแล้วไม่ได้กลับเข้ามาอีก มินตรารอเขาอยู่อีกหลายชั่วโมงจึงสรุปได้ว่าเขาคงไม่อยากยุ่งกับเธอ หญิงสาวจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าสู่นิทราไปในที่สุด
คืนแรกในการเข้าหอก็โดนผู้เป็นสามีทิ้งให้นอนคนเดียวเสียแล้ว...
ทว่าเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่พยายามทำความเข้าใจในมุมของเขาเท่านั้น เขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่เธอก็ควรทำหน้าที่ให้ดีตามที่ได้ตั้งใจไว้
เช้ามามินตราก็ตื่นตั้งแต่เช้า อาบน้ำเสร็จก็ลุกขึ้นมาทำอาหารในห้องครัว ผมสลวยถูกรวบไว้ ใบหน้าในวันนี้ไร้เครื่องสำอางแต่ความสวยธรรมชาติยังชัดเจน
เมื่อมินตราเข้าครัว พบว่าวัตถุดิบในตู้เย็นมีไม่มากเหมือนกับว่าเจ้าของบ้านไม่ได้รับประทานอาหารที่บ้านเป็นหลัก แต่หญิงสาวก็หยิบสิ่งเท่าที่มีมาทำอาหาร
เมื่อเมนูประมาณสองอย่างเสร็จเรียบร้อย กลิ่นหอมก็โชยออกไป เสียงฝีเท้าย่างกรายเข้ามาตามกลิ่นของอาหารเช้า
"คุณตื่นแล้วเหรอคะ" มินตราสบตาเข้ากับดรัณภพด้วยความตกใจ แต่เมื่อได้สติก็รีบทักทายเขาทันที
ดรัณภพใส่เสื้อเชิ้ตราคาแพงสีขาวที่ยังติดกระดุมด้านบนไม่เรียบร้อย แขนเสื้อพับขึ้นเห็นแขนแกร่งช่วงล่างที่ใส่นาฬิกาเรือนหรู กางเกงสีดำสนิทคาดด้วยเข็มขัดหัวสีเงิน อีกทั้งทรงผมที่เซตเสยบ่งบอกว่าเขากำลังจะไปทำงาน
"เธอกำลังทำอะไร" แววตาสีนิลเย็นชามองสำรวจการกระทำของหญิงสาว คิ้วเรียวของเขาขมวดเข้าหากัน
มินตราอึกอักก่อนจะเอ่ยตอบคนตรงหน้า
"มินทำอาหารเช้าไว้ให้คุณภพค่ะ"
"อาหารเช้า?"
"ค่ะ"
ไม่นานเสียงหัวเราะลึกก็ดังอยู่ในลำคอของเขา ดรัณภพเดินเข้ามาช้า ๆ สายตาเย็นชาจ้องอยู่ที่ใบหน้ามินตราจนเธอต้องหลบตาเขา
เมื่อร่างแกร่งประชิดใกล้เธอจนใบหน้าของหญิงสาวอยู่ใกล้แผงอก มือหนาก็ช้อนปลายคางคนตัวเล็กขึ้นมา สายตาเป็นประกายแต่แฝงความกดดันสบประสานกับคนสูงกว่า
"คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร" เสียงทุ้มเยือกเย็นเอ่ยออกไป ทำเอามินตรากลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง
"คือ...มินแค่อยากให้คุณได้ทานข้าวเช้าก่อนไปทำงานค่ะ"
"หึ! เธอนี่มันน่ารำคาญเหมือนกันนะ"
"..."
"เธอจะทำอาหารอีกสักร้อยวันฉันก็ไม่กิน" ดรัณภพเหยียดยิ้มแต่สายตากลับเย็นชา
"อ๊ะ"
เขาตวัดมือที่จับปลายคางของภรรยาสาวออกไป ก่อนจะเดินไปหยิบจานที่ใส่เมนูอาหารมื้อเช้านี้ ร่างแกร่งเหลือบมองสิ่งของอุ่น ๆ ในจาน มันสวยงามน่ากินก็จริงแต่พอคิดว่าเธอเป็นคนทำเขาก็กินไม่ลง
ฟึ่บ!
มินตราเบิกตากว้างเมื่อสิ่งที่อยู่ในมือเขาถูกโยนลงไปในถังขยะ เขาทิ้งมันลงไปแบบไม่แยแส ไม่สนใจเลยว่าคนทำจะรู้สึกอย่างไร
แต่มินตราก็ได้แต่เงียบและเงยหน้าสบตาเขา
"ฉันบอกแล้ว...ว่าทนให้ไหวแล้วกัน" ดรัณภพพูดโดยที่ก้าวขาเดินผ่านเธอไป แต่ก่อนจะละสายตาออกมาจากใบหน้าเธอ เขาก็เหลือบมองต้นคอขาวเนียนของมินตรา
รอยแดงที่ฝากฝังไว้เมื่อคืนยังชัดเจน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่จิตใจของเขากลับรู้สึกพึงพอใจไม่น้อย
ดรัณภพก้าวเดินต่อไปแต่เสียงของมินตรากลับดังตามแผ่นหลังเขามา
"คุณภพคะ"
"..." เขาไม่ได้หันไปมองเธอแต่ก็ชะลอฝีเท้าและหยุดยืน
"มินเองก็ต้องไปทำงาน ถ้าหากมินกลับเย็นต้องขอโทษล่วงหน้านะคะ บางวันมีโอทีเร่งด่วน" เธอกลัวว่าจะกลับมาทำมื้อเย็นให้เขาไม่ทัน เลยอยากแจ้งเขาไว้สักหน่อย
หากแต่คนฟังกลับเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ไม่ใช่เรื่องของฉัน"
"..."
"แล้วถ้าอยากจะไปทำงานก็ไปเองแล้วกัน ฉันคงไม่ไปส่งเธอหรอกมินตรา" เมื่อพูดเสร็จเขาก็เดินไปหยิบเสื้อสูทที่พาดไว้บนโซฟา คว้ากุญแจรถและเดินออกจากห้องไปทันที
@บริษัทของณัฐภัค
ร่างบางก้าวเข้ามาในบริษัทอย่างเช่นทุกวัน ผมสลวยถูกมัดรวบปล่อยปลายเป็นหางม้า ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวสวมด้านล่างด้วยกระโปรงสีดำระดับเข่า ไหล่ข้างหนึ่งสะพายกระเป๋า
มินตรามาทำงานดั่งเช่นทุกวัน ซึ่งบริษัทปัจจุบันที่เธอทำงานมีณัฐภัคเป็นหนึ่งในผู้บริหาร เธอเป็นแค่พนักงานทั่วไปไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่อะไร ส่วนบริษัทที่เคยเป็นของพ่อเธอนั้น...ตอนนี้มันอยู่ในการดูแลของใครบางคนที่ไม่ใช่เธอ
ร่างบางก้าวเข้าลิฟต์เหมือนทุก ๆ ครั้ง แต่วันนี้สายตาหลายคู่จับจ้องเธออย่างผิดปกติ มินตราสัมผัสความรู้สึกแปลก ๆ นี้ได้ตั้งแต่ก้าวเข้ามา
"นี่คนนี้ไงเธอที่เป็นเจ้าสาวคุณภพ"
"ใช่ ฉันเห็นรูปที่เขาลงกันแล้ว คิดว่าเจ้าสาวจะเป็นใครที่ไหนซะอีก แต่ดันเป็นแค่พนักงานระดับล่างในบริษัทเราเนี่ยนะ"
"ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนถึงได้แต่งกับคุณภพ"
"อย่าเรียกว่าแต่งเลย เรียกว่าจับคนรวยดีกว่า"
เสียงซุบซิบดังขึ้นตลอดการเดินทางขึ้นมายังชั้นสิบสอง ชั้นที่เป็นแผนกของเธอ แม้จะรู้สึกแย่แค่ไหน มินตราก็ได้แต่เก็บความรู้สึกต่าง ๆ ไว้ในใจ
ข่าวการแต่งงานของดรัณภพกับเธอนั้นดังไปถึงหูทุกคนทุกระดับ แม้กระทั่งพนักงานและผู้บริหารของบริษัทนี้ที่เธอทำอยู่
แน่นอนว่ามันไปถึงหูของณัฐภัคเช่นกัน...
มินตราเดินเข้ามาถึงหน้าแผนกแต่ก่อนจะได้ก้าวเข้าไปกลับพบเข้ากับชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
"พี่ณัฐ...เอ่อ...คุณณัฐ" เธอรีบเปลี่ยนสรรพนามเรียกเมื่อนึกถึงความเหมาะสม สีหน้าของเธอในตอนนี้แย่กว่าเก่าเมื่อเจอเขา สายตาพนักงานบางคนก็แอบชำเลืองมองอย่างสอดรู้สอดเห็น
"มิน" เขารีบเดินเข้ามา "นี่มินแต่งงานแล้วจริง ๆ เหรอ"
"ค่ะ"
"..."
เขาแทบไม่อยากเชื่อ แต่พอเห็นข่าวที่ลงนั้นเขาก็ต้องยอมรับ ทว่าที่น่าตกใจกว่านั้นคือผู้ชายที่เธอแต่งด้วยเป็นถึงผู้ที่กำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองประธานของ AnanSR Group ผู้ซึ่งเป็นทายาทคนสำคัญของอนันต์สุทธิรัตน์
"มินไปรู้จักเขาได้ยังไง... คุณดรัณภพน่ะ"
"คุณณัฐคะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว มินขอไม่ตอบนะคะ" มินตราเริ่มทนไม่ไหว
เขาเองก็มีคู่หมั้นแล้วแถมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ การที่เขามาเฝ้าถามเรื่องส่วนตัวของเธออยู่แถวแผนกในเวลางานแบบนี้ยิ่งทำให้เธอหนักใจยิ่งขึ้น
"แต่พี่..."
"คุณณัฐคะ มินต้องไปทำงานนะคะ" มินตรารีบตัดบทก่อนจะเดินหลีกเขาไปอีกทางแต่ณัฐภัคก็เอ่ยทิ้งท้ายไว้
"มิน... พี่ไม่ยอมจบแน่"