ตอนที่ 4 : สัมผัสแรก

1355 Words
พิธีการในงานดำเนินไปอย่างราบรื่น แขกที่มาร่วมงานหลายคนล้วนอวยพรให้บ่าวสาวครองรักกันหวานชื่น ซึ่งดรัณภพทำเพียงกล่าวขอบคุณและยิ้มเฉยเท่านั้น เขารักษาภาพพจน์ของตนได้ดีอย่างหมดจด ทว่าคนทั่วไปคงไม่สังเกตเห็นบางอย่าง แต่มินตรารับรู้ได้ถึงความแข็งกร้าวเฉยชาที่แฝงอยู่ในแววตาคู่นั้น ทุกวินาทีที่ดำเนินไปทำให้เธอหายใจแทบไม่ทั่วท้อง ยิ่งช่วงเวลาที่บางจังหวะเขาสบตากับเธอ หญิงสาวก็แทบอยากหายตัวไปจากตรงนี้ เธอเดาความคิดของผู้ชายคนนี้ไม่ออกเลย... และแล้ว...ช่วงเวลาก็ดำเนินมาจนถึงจุดสุดท้าย นั่นคือการเข้าหอของบ่าวสาว เรือนหอของพวกเขาก็คือเพนต์เฮาส์สุดหรูกลางกรุง ซึ่งเจ้าของก็คือสามีของเธออย่างดรัณภพ เมื่อส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอตามธรรมเนียมเสร็จแล้ว คนที่เกี่ยวข้องก็กลับออกไป เหลือไว้เพียงช่วงเวลาที่หอมหวานในค่ำคืนนี้ หอมหวานหรือ? ทว่ามินตราคิดว่าคงไม่ใช่สำหรับเธอ... เจ้าสาวป้ายแดงนั่งอยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้หอมเย้ายวนรัญจวนใจ ชุดแต่งงานสำหรับพิธีช่วงค่ำของเธอรัดรึงแนบไปกับรูปร่างอรชร ใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางสวยงามชวนมองยิ่งกว่าวันไหน ๆ ขนาดช่างภาพและแขกผู้ชายในงานยังจ้องเจ้าสาวตาไม่กะพริบ ทว่าเธอไม่คิดว่าตนเองน่ามองสำหรับใครบางคน... ซึ่งคงเป็นเขา...ดรัณภพ สามีของเธอคงกำลังมองเธอด้วยความสมเพชบางอย่างเสียมากกว่า ที่เขาแสดงออกมาวันนี้เธอรู้ดีว่ามันก็แค่ฉากหน้า สายตาที่เขามองมาแฝงความดำมืดที่เธอเข้าไม่ถึง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยินยอมทำหน้าที่ของเธอตั้งแต่วันที่ตัดสินใจ หน้าที่ของภรรยาคนหนึ่ง... "คะ...คุณภพ" เสียงหวานเรียกคนข้างกายที่นั่งอยู่ เขาไม่ได้หันมามองเธอสักนิดทั้ง ๆ ที่หูก็ได้ยินชัดเจน ทำเพียงลุกขึ้นยืนและเดินออกไปที่หน้ากระจก ดึงโบว์ไทในชุดทักซิโด้สำหรับพิธีช่วงค่ำออก ค่อย ๆ แกะคราบเจ้าบ่าวของวันนี้ออกจนเหลือเพียงเชิ้ตด้านในสีขาวและกางเกงสีดำเท่านั้น เมื่อปลดกระดุมด้านบนสามเม็ดให้คลายออก แขนเสื้อถูกพับขึ้นให้ลุคที่ผ่อนคลายลง เขาก็เดินไปหยิบซองบุหรี่บนโต๊ะก่อนเดินผ่านเธอไปยังระเบียงอย่างไม่แยแส ทิ้งให้มินตรานั่งทำหน้าไม่ถูกในช่วงเวลานี้ หญิงสาวเองก็ไม่กล้าที่จะเรียกเขาอีก เขาอาจจะเหนื่อยและอยากอยู่เงียบ ๆ ร่างบางจึงตัดสินใจลุกไปปลดเครื่องประดับต่าง ๆ ออกจากเรือนกาย เหลือเพียงชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่ห่อหุ้มร่าง เธอไม่กล้าจะไปอาบน้ำหรือเปลี่ยนชุด เพราะไม่รู้จะว่าเขาจะเอาอย่างไรต่อ หน้าที่ในคืนนี้ของเธอยังไม่จบ... ระหว่างที่เหม่อคิดไปเรื่อยก็ต้องตกใจเมื่อเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความเยือกเย็น "รอฉันเหรอ" "คุณภพ" มินตราหันมาก็พบว่าเป็นชายหนุ่ม เขาเข้ามาและยืนกอดอกมองเธอที่ประตูกระจกริมระเบียงตอนไหนก็ไม่ทราบ "อะ...เอ่อ...คือมิน..." เป็นครั้งแรกที่เธอพูดตะกุกตะกักกับคนอื่นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเวลาสบตากับดรัณภพ เขาช่างดูเหนือกว่าเธอในทุก ๆ อย่าง เขาเหมือนพญาเหยี่ยวที่กำลังมองดูเหยื่อที่ไม่มีทางหนี เธอมักประหม่าและรู้สึกหายใจลำบากนัก "หึ" เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้นอยู่ในลำคอของดรัณภพ สายตาคมกริบไล่พินิจมองเธอตั้งแต่ปอยผม ดวงตาหวาน ริมฝีปากอิ่มแวววาว มองไปทั่วจนถึงปลายเท้าบอบบางของเธอ มินตราหลบสายตาที่ยากคาดเดาของเขา เอามือเรียวกุมกันไว้สลับลูบไล้แขนแก้อาการประหม่า ทว่าชายหนุ่มก็เดินเข้ามาหาเธอช้า ๆ ทุกย่างก้าวที่กำลังใกล้เข้ามา คล้ายกับการคืบคลานของปีศาจร้าย "แสดงพอหรือยัง" "คะ?" แววตาสีนิลมองเข้ามาในตาเธอ เหมือนกำลังล่วงล้ำความนึกคิดของเจ้าสาวทีละน้อย ในขณะที่ร่างกำยำสูงแกร่งกว่าเธอก็ขยับมาใกล้อีก "คะ...คุณภพ..." เท้าเรียวก้าวถอยอัตโนมัติ ลมหายใจติดขัดเมื่อเขากำลังไล่ต้อนเธออย่างใจเย็น เขาไม่รีบร้อนแต่แปลกที่เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกกองไฟเผาไหม้ทั้งกาย มินตราถอยจนหลังบางแนบชิดชนกับผนังห้อง แววตาหวานเมื่อกี้คลอเคล้าความกลัวบางอย่าง เหมือนหนูที่จนตรอกไร้ทางไป "เสแสร้งเก่งดีนะ" แขนแกร่งยกขึ้นกักขังเธอไว้ แววตาเย็นชาระคนเหยียดหยันส่งไปหาคนตัวเล็ก หน้าซื่อ ๆ แบบนี้ไม่คิดว่าจะสามารถตะเกียกตะกายหาทางขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ร้ายแค่ไหน "มะ...มินไม่เข้าใจที่คุณพูด" เธอไม่เคยเสแสร้ง และสิ่งที่เธอกำลังทำเธอก็จะทำด้วยความเต็มใจ "งั้นเหรอ" เขาแค่นหัวเราะก่อนจะเลื่อนมืออีกข้างเชยคางมนของมินตราขึ้นมา จ้องมองเข้าไปด้วยความกระด้างดุดันไร้ความอ่อนโยน "แล้วเธอไปตกลงอะไรกับพ่อฉันล่ะ..." "..." "ไหนจะเรื่อง...ที่ยุ่งกับคนมีคู่หมั้นแล้ว" เขากล่าวออกมาหน้าตาย รอยยิ้มมุมปากโค้งขึ้นเมื่อเห็นแววตาของเธอสั่นระริก "เธอคงช่ำชองเรื่องพวกนี้อยู่แล้วอย่าทำเป็นใสซื่อนักสิ มันน่าขำ" "มินไม่..." "ชู่ววว..." เขายกนิ้วชี้แตะริมฝีปากอุ่นของเธอ "อยู่กันสองคนไม่จำเป็นต้องแสดงมินตรา" เขาไม่คิดว่าผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นกระต่ายน้อยน่าสงสาร หากแต่เป็นนางงูพิษต่างหาก แต่จะด้วยอะไรเขาก็ไม่อยากสน พรึ่บ! "ว๊าย!" มินตราเผลอหวีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ ร่างของเธอก็ลอยหวือขึ้นไปทั้งตัว ดรัณภพช้อนตัวเธออุ้มในท่าเจ้าสาวด้วยแขนแกร่ง สำหรับเขาน้ำหนักของเธอเบาหวิวแทบไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ เขาเดินอุ้มเธอมาที่เตียงก่อนจะเหวี่ยงร่างอรชรในชุดสีขาวน่าย่ำยีลงไป ฟุ่บ! "อ๊ะ...คะคุณภพ" "ทำไม? ก็ต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ" เขาขึ้นมาคร่อมเธอไว้ มือหนาสองข้างตรึงข้อมือแสนบอบบางของมินตราไว้ข้างกาย สายตาทั้งคู่จ้องประสานกัน เจ้าของใบหน้าคมโน้มลงมา สูดกลิ่นหอมเย้ายวนที่หอมเสียยิ่งกว่ากลีบดอกไม้บนเตียงหลายเท่า นวลเนื้อของสตรีคนนี้แสนดึงดูดจนร่างกายร้อนผ่าว ถ้าไม่ติดว่าเธอมันนางมารร้าย เขาคงเผลอใจไปแล้ว "คุณภพ..." มินตราหายใจหนักหน่วงจนอกสวยกระเพื่อมตามแรง ยิ่งปลายจมูกของเขาใกล้เข้ามาที่ซอกคอหัวใจของเธอก็แทบจะหลุดออกมา "กลัว?" เสียงกระซิบถามเธอ "มิน...มินแค่ยังไม่ได้ตั้งตัวค่ะ" เธอเตรียมพร้อมทำหน้าที่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขากำลังทำให้เธอตกใจ ยิ่งสายตาของเขาที่มองเธอเมื่อกี้ บ่งบอกว่าเขามีอคติต่อเธอมากแค่ไหน "หึ!" เขาแค่นหัวเราะ ชายหนุ่มกดใบหน้าลงไปที่ซอกคอของเธอก่อนจะขบเม้มผิวบางอย่างแรง รสร้อนจากริมฝีปากเขาแนบนาบจนสติของเธอแทบเตลิด มันเป็นสัมผัสแรกจากบุรุษเพศที่แนบชิดร่างกายเธอขนาดนี้ "อ๊ะ!" เพียงแค่เป็นรอยแดงช้ำเท่านั้นดรัณภพก็ผละตัวออกมา เขายืนมองเธอด้วยปลายสายตาแสนดูถูกก่อนกระตุกยิ้มมุมปาก "มินตรา... กับคนอื่นเธอจะเป็นอะไรก็ช่าง" "..." "แต่สำหรับฉันเธอมันก็แค่สิ่งของแลกเปลี่ยน" เขาเดินออกไปที่หน้าประตูก่อนจะทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ "ทนให้ไหวแล้วกัน ตำแหน่งเมียของฉันน่ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD