วันนี้ถึงจะเป็นวันหยุดแต่เมฆาก็ออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า เนื่องจากมีทำงานกลุ่มกับเพื่อนที่โรงเรียน แม้เด็กหนุ่มจะยังตั้งรับเรื่องการแต่งงานของพี่สาวไม่ค่อยได้ แต่น้องชายคนนี้ก็ยังมีความรับผิดชอบและตั้งใจทำหน้าที่ของตนในแต่ละวันให้ดี
มินตราเองก็ลุกมาตั้งแต่เช้า ทำความสะอาดบ้าน และเตรียมผ้าที่เพิ่งซักเสร็จเพื่อมาตากแดดที่หน้าบ้าน บรรยากาศกำลังดี แดดสดใสท้องฟ้าโปร่ง หากแต่ในใจยังหนักอึ้งไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ
บ้านหลังปัจจุบันนี้เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น หลังไม่เล็กไม่ใหญ่ ถึงจะไม่กว้างขวางเท่าบ้านหลังเก่าแต่ก็เพียงพอให้เธอและน้องชายใช้ชีวิตอยู่ เดิมทีมีพ่อของเธอด้วยแต่ท่านเสียไปเมื่อเดือนก่อนด้วยโรคเรื้อรัง สองพี่น้องทำใจกันมาสักพักแล้วก่อนคุณณรงค์จะเสีย แต่ก็ไม่วายอดร้องไห้ในวันงานไม่ได้
ส่วนแม่ของมินตรานั้นเสียไปตั้งแต่เธอและน้องยังเล็ก พ่อของเธอเลี้ยงลูกมาด้วยตนเอง เขาเข้มแข็งและใจดี เหมือนนิสัยของเธอนั่นแหละ
มือเรียวตากผ้าไปด้วยในขณะที่สมองก็คิดอะไรไปเรื่อย นึกถึงช่วงมีความสุขและช่วงที่ทุกข์ด้วยเช่นกัน
"มิน..."
หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อเสียงทุ้มหนึ่งเอื้อนเอ่ยเรียกเธอ
"พี่ณัฐ"
ใบหน้าหวานมองจ้องไปยังชายหนุ่มที่ใส่เชิ้ตสีขาวทับในกางเกงสีดำ แขนของเขาพาดด้วยเสื้อสูทราคาแพงสีเบจ ทรงผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำถูกจัดทรงไว้เข้ากับกรอบหน้าหล่อละมุน ยิ่งรอยยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้มินตรา ทำให้เขาช่างดูเหมือนชายในฝันของผู้หญิงหลายคน
อาจจะรวมถึงเธอในอดีตแต่ตอนนี้คงไม่ใช่...
"พี่มาทำไมคะ มินว่าพี่กลับไปเถอะค่ะ"
"เดี๋ยวสิมิน" ณัฐภัครีบคว้ามือหญิงสาวเมื่อเธอทำท่าจะหันกลับเข้าบ้าน ทว่ามินตราก็รีบสะบัดออกทันที
แววตาที่มองมาทำให้เขาเจ็บไม่น้อย แต่จะโทษเธอได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นคนปล่อยมือจากมินตราในตอนที่บ้านของหล่อนมีปัญหา
ช่วงที่คุณณรงค์บิดาของหญิงสาวที่เขาชอบพอเกิดมีปัญหาทางธุรกิจ บริษัทที่ดูแลกำลังใกล้ล้มละลาย แถมเจ้าตัวยังล้มป่วยอีก ในช่วงวิกฤตแบบนั้นคนที่เธอพอจะพึ่งพิงได้ควรเป็นเขา
แต่ณัฐภัคกลับเลือกปล่อยมือมินตราแล้วไปคุยเรื่องหมั้นหมายกับลูกสาวนักธุรกิจบ้านอื่นแทน เขาเลือกทำตามคำพูดของพ่อแม่แทนการทำตามหัวใจตนเอง
ละทิ้งมินตราในวันที่เธอยากลำบากทางจิตใจมากที่สุด
แต่เขากลับยิ่งรู้สึกผิดที่หญิงสาวกลับไม่โทษหรือแสดงท่าทีโกรธเคือง มินตราเข้าใจเหตุและผลดี และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับคนหนุ่มอีก
ทว่าเขายังไม่หยุด แม้จะมีว่าที่คู่หมั้นคู่หมายแล้วแต่ณัฐภัคยังคงชื่นชอบมินตรา ยิ่งเห็นหน้ายิ่งอยากได้มาครอบครอง แม้ในตอนนี้จะยังทำไม่ได้ก็ตาม
"มินอย่าทำเหมือนไม่อยากคุยกับพี่สิ"
"ก็เราไม่มีอะไรต้องคุยกันจริง ๆ นี่คะ" มินตราเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ชีวิตเธอเจออะไรมามากเกินกว่าจะมาถือโทษเขา
เธอเข้าใจเขาดี ในตอนนั้นใครจะอยากให้ลูกชายยื่นมือมาช่วยบ้านของเธอที่กำลังล้มละลาย เธอเข้าใจดีทุกอย่าง โลกความจริงมันก็โหดร้ายเช่นนี้
แต่สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นคือเขาไม่ควรมาวอแวกับเธออีก
"ทำไมล่ะมิน เรายังพูดคุยกันได้ไม่ใช่เหรอ มิตรภาพของเราล่ะ เรารู้จักกันมาตั้งหลายปีแถมตอนนี้มินยังเป็นพนักงานบริษัทพี่อีก"
"พี่ณัฐคะ มินอยากให้เรารักษาระยะห่างระหว่างกัน" มินตราเกรงว่ามันจะดูไม่ดี
"พี่ไม่สนคำคนอื่น"
"แต่มินสนค่ะ" มินตราถอยห่าง เรื่องของเขาและเธอจบลงไปนานแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาไปมากกว่าคนรู้จักหรือผู้บริหารในบริษัทที่เธอกำลังทำ
"พี่ณัฐอย่าทำให้มินลำบากใจเลยนะคะ"
"มิน..."
"และอีกอย่าง...มินกำลังจะแต่งงานค่ะ"
คำพูดนี้ของหญิงสาวทำให้ณัฐภัคถึงกับอึ้งจนเบิกตากว้าง ถ้อยคำมากมายจุกอยู่ในลำคอ นี่ผู้หญิงที่เขาเฝ้ามองมาหลายปีกำลังจะกลายไปเป็นของคนอื่นได้อย่างไร
ถึงเขาจะชิงหนีไปมีว่าที่คู่หมั้นก่อนแล้วก็เถอะ แต่เขายังอยากให้มินตราเก็บตัวเองไว้รอเป็นของเขาอีกเช่นกัน
ไม่คาดคิดว่าจะมีคนฉกชิงเธอไป
"พูดเล่นเหรอมิน"
"มินพูดจริงค่ะ ดังนั้น...พี่ช่วยให้เกียรติมินด้วยนะคะ"
สายตาของมินตราบ่งบอกว่านี่คือเรื่องจริงไม่โกหก ณัฐภัคตอนนี้แทบถอดคราบความสุภาพละมุน แววตาเกรี้ยวกราดและข้องใจเผยขึ้น
"ใคร? มินแต่งกับใคร"
"มินขอไม่ตอบนะคะ" มินตราเกรงว่าจะยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่ หญิงสาวตัดสินใจเดินหันหลังกลับไปและย่างก้าวเข้าไปในบ้านของตน ทิ้งไว้แต่เพียงแววตาไม่พอใจของณัฐภัคที่ยืนเรียกชื่อเธออยู่
สุดท้ายชายหนุ่มก็จนใจยอมเดินจากไปเพราะมีธุระเร่งด่วนที่อื่น แต่เรื่องราวในวันนี้ฝากฝังความขุ่นเคืองใจให้แก่เขาเป็นอย่างมาก
ฉากเบื้องหน้าที่เกิดขึ้นกลับสู่ความสงบ ทิ้งไว้เพียงสายลมที่พัดผ่าน โดยมีสายตาคมกริบเย็นชาเฝ้ามองอยู่เงียบ ๆ ในระยะไกล
"มินตรา..." ควันบุหรี่ถูกพ่นออกมาจากที่นั่งด้านหลังในรถหรูสีดำเงา กระจกรถที่ถูกลดลงเพื่อสูบบุหรี่ทำให้ใบหน้าคมมองไปยังผืนผ้าพลิ้วที่ถูกตากไว้ได้ชัดเจน
ว่าที่ภรรยาของเขาช่างเสน่ห์แรงเสียจริง ไม่รู้ว่าไปอ่อยกันท่าไหนถึงขนาดทำให้คนที่มีคู่หมั้นตามมาหาถึงบ้าน
ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็วางแผนหาเรื่องแต่งกับเขาอีกทาง
ร้ายไม่เบา...
"ให้ผมขับเข้าไปที่หน้าบ้านคุณมินตราเลยไหมครับ"
"ไม่ต้อง" ดรัณภพตอบมือขวาคนสนิทอย่างอัธด้วยเสียงราบเรียบ โยนบุหรี่ทิ้งอย่างไม่ใส่ใจนัก
เขาแค่อยากมาดูหน้าว่าที่เมีย แต่ไม่คิดว่าจะมาเห็นฉากสนุก ๆ
"กลับได้"
"ครับ"
มือขวาเข้าใจในสิ่งที่เจ้านายบอกก่อนที่ไม่นานรถหรูจะเคลื่อนกลับออกไปโดยไม่มีใครรู้