"มันแน่นอนอยู่แล้ว ฮ่ะ ฮ่า"
เจ้าของชื่อเอ่ยพลางหัวเราะร่า มุมปากสองข้างยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ ตอนเด็กเขาน่ารักจะตาย มิน่าล่ะ แม่ถึงตั้งชื่อให้เขาแบบนี้ เขาก็เพิ่งรู้ความหมายวันนี้แหละ
"คนไข้ป่วยเป็นโรคหลงตัวเองด้วยหรือเปล่าคะ?"
เธอจงใจพูดจาก่อกวนชายหนุ่ม ก็เขาน่าหมั่นไส้นี่นา...
"อ๋อ ลืมตอบคุณหมอเลยครับ "
"ตอบอะไรคะ?"
"น้ำหนัก ส่วนสูง"
"อ๋อ คุณหมอลืมไปเลยค่ะ"
"ผมไม่ลืมนะครับ ผมยินดีนำเสนอโดยเฉพาะ"
เธออยากจะขำให้เหงือกแห้งจริงๆ ท่าทียืดตัวขึ้น แสดงชัดเจนถึงความจริงจังและตั้งใจของเขานั้น เขาลืมไปแล้วหรือว่าก่อนหน้านี้ยังร้องโอดโอยราวกับคนจะตายแหล่ไม่ตายแหล่อยู่เลย
"น้ำหนัก 60+ สูง 11 นิ้วครับ"
"......."
เดี๋ยวนะ! คนบ้าอะไรจะสูงแค่ 11 นิ้ว แต่เอ๊ะ! ไม่น่าใช่แล้ว!
"คุณหมอจะไปไหนครับ"
ไบร์ทร้องถามคนตัวเล็กที่จู่ๆ เธอก็ลุกพรวดพราดทำท่าจะเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จา หรือว่าเธอไม่พอใจที่เขาเล่นพูดจาทะลึ่งตึงนังกับเธองั้นเหรอ? ฉิ_หายไหมล่ะ ไอ้ไบร์ทเอ้ย!
"ไปหาไม้บรรทัดมาวัดค่ะ กลัวคนไข้จะพูดเกินจริง"
เธอไม่ใช่ไม่พอใจ แต่ยังเล่นตามน้ำกับเขาอีกต่างหาก เเสดงว่าเขาพูดต่อได้สินะ...
" ผมไม่โกหกหมอหรอกครับ"
"งั้นก็ให้หมอดูสิคะ"
คิดว่าเธอจะสะทกสะท้านหรือไง? เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว อีกอย่างเขาคงไม่กล้าถอดกางเกงโชว์คนที่เพิ่งรู้จักกันได้สองเดือนหรอกมั้ง?
แต่ว่า!
"เห้ย! ทำอะไร!?"
ทว่า! ไม่เป็นอย่างที่คิด อีกคนกลับบ้าจี้ จะถอดกางเกงโชว์เธอจริงๆ โอ้ย! อิยิ้มอยากกัดลิ้นตัวเองตาย
"จะให้คุณหมอดูไงครับ ว่าไม่ได้พูดเกินจริง"
ยิ่งเห็นเธอทำหน้าเหวอ เขานั้นยิ่งได้ใจอยากแกล้งเธอมากขึ้นกว่าเดิม จึงจัดการถอดกางเกงโชว์สาวซะเลย เป็นไงล่ะ… วิธีที่จะทำให้ติดตราตรึงใจของสาวไปนานๆ ของเขา เขาคิดว่ามันจะดีแน่นอน
"นายจะบ้าหรือไง คิดว่าเราจะไม่กล้าดูเหรอ"
ยิ้มก็ใจสู้ไม่ถอย ตอนแรกก็ตกใจนิดหน่อย แต่คิดไปคิดมา ก็แค่ผู้ชายถอดกางเกง ใช่ว่าเธอจะไม่เคยเห็น เอาสิ ไม่อายก็ถอดเลยพ่อฝรั่งวิปริต
"เอาจริงละนะ"
"หนึ่ง"
"สอง"
มีการนับด้วยนะ...หึๆ เธออยากจะขำฟันโยกจริง ๆ ทำไมเขาไม่ทำตัวนิ่งขรึมและโหดร้ายเหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอกกันนะ อย่างน้อยก็เกรงใจรอยสักหน่อยเถอะพ่อคุณ
ติ้ง ต๊อง ๆ ๆ แต่เเล้ว...ยังไม่ทันที่ไบร์ทจะได้ถอดกางเกงตัวนั้นเลยด้วยซ้ำ ก็ดันมีมารผจญมาขัดเขาเข้าจนได้ ใครมันถึงได้กล้าขนาดนี้นะ! เขาอยากจะตัดมือมันทิ้งซะจริง
"ว้า~ มีคนมา อดดูเลย เดี๋ยวยิ้มไปเปิดประตูนะ"
"........" ใบหน้าหล่อบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด
ยิ้มเห็นเเล้วก็อดขำในใจไม่ได้ แค่ไม่ได้แสดงอนาจารให้คนอื่นดู เสียใจขนาดนั้นเลยหรือไง?
แกร๊ก
"ไอ้เหี้_ อุ๊บ!!"
หนุ่มหล่อที่ยืนรอหน้าประตู เกือบหลุดคำหยาบต่อหน้าสาวสวยที่อยู่ตรงหน้า ดีที่ไหวตัวทัน
"อะ เอ่อ..."
ยิ้มไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อ เมื่อเผชิญหน้ากับหนุ่มหล่อถึงสี่คน!ใช่เเล้ว สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอคือผู้ชายโคตรของโคตรคำว่าหน้าตาดี คนที่เอามือปิดปากอยู่นั้น เขาสวมชุดนักศึกษา ผิวขาว ออกแนวตี๋ๆ
ส่วนสองคนที่อยู่ด้านหลัง ไม่ต้องเดาให้ยากก็รู้ว่าต้องเป็นฝาแฝดแน่นอน หน้าถอดแบบคนแรกมาอย่างกับพิมพ์เดียวกัน สองคนนั้นสวมชุดนักเรียน ม.ปลาย คนหนึ่งส่งยิ้มให้เธอดูร่าเริงสดใส ต่างจากอีกคนที่ทำหน้านิ่ง เธอนึกว่าจับคนที่อยู่ในห้องกับเธอมาวางซะอีก
ส่วนอีกคน ก็เรียกได้ว่าหล่อสาวกรี๊ดสลบ แต่ดูน่ากลัวแปลกๆ น่ากลัวกว่าไบร์ทที่ทั้งสักทั้งเจาะอีกเอาจริงๆ
"พะ พวกเรามาเยี่ยมไบร์ทน่ะ " คนที่ดูเป็นมิตรที่สุด นั่นก็คือหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนหน้าสุด เอ่ยบอกพลางส่งยิ้มให้เธอ
"อ๋อ ไบร์ทอยู่ข้างใน เข้ามาได้เลย"
ยิ้มพยักหน้าพลันเบี่ยงตัวหลบให้หนุ่มๆ สี่คนนั้นได้เข้ามาในห้อง เมื่อทุกคนเข้ามาจนครบเธอจึงปิดประตู
"มาทำไม?" น้ำเสียงเเข็งกระด้าง หลุดออกจากปากของชายหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟากว้าง
"มาเยี่ยมมึงไงครับ ได้ข่าวว่าโดนตื้บ?" เป็นโซลที่เอ่ยถามพลางล้อเลียน
"อือ"
"แล้วไงต่อ?"
"เจ็บ"
ไบร์ทตอบเพียงคำเดียวสั้นๆ สั้นขนาดนี้ไม่ต้องตอบเลยก็ได้มั้งเธอว่า ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาไม่แหกป้องร้องจะแก้ผ้าโชว์เหมือนตอนอยู่กับเธอกันนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
"บ้านพ่อมึงโดนกระทืบเเล้วสบายตัวหรือไง"
น้ำเสียงที่ฟังดูหาเรื่องที่สุด เจ้าของประโยคนี้คือผู้ชายที่ดูดุดันไม่เกรงใจใคร ไม่เกรงใจใครจริงๆ เพราะมาถึงเขาก็นั่งบนโซฟาเเล้ววางเท้าบนโต๊ะ พร้อมกับกระดกเครื่องดื่มสีเหลืองอ๋อยที่เจ้าตัวพกมาเอง ทั้งยังตาแดงก่ำจนน่ากลัว
เขาเป็นพิษสุนัขบ้าหรือโรคพิษสุราเรื้อรังหรือเปล่านะ?
"เฮ้ย พูดดีๆ "
เป็นโซลที่เอ่ยเตือนเพื่อน เพราะตอนนี้ไม่ใช่มีแค่กลุ่มเขาเท่านั้น จะมาใช้กริยาและวาจาอันไร้ซึ่งการศึกษาต่อหน้าสาวเพื่อนแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!
"พี่ไบรท์ พี่คนนี้ใช่แฟนพี่หรือเปล่าครับ?"
หนุ่มน้อยหน้าหล่อ คนที่ยิ้มเก่งที่สุดเอ่ยถามไบรท์ที่เอาแต่ทำหน้าเย็นชาไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ เเละดูหนุ่มน้อยคนนี้จะสนใจเธอเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่เปิดประตูมาน้องคนนี้ก็เอาแต่มองเธอเเล้วยิ้มกรุ่มกริ่มทุกครั้ง
"........." ไบรท์ไม่ตอบ เพราะเขาเองก็คงไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดีละมั้ง แม้ตอนที่อยู่มหาลัยจะป่าวประกาศไปทั่วว่าเป็นแฟนกัน แต่ก็เพียงแค่อยากให้ไอ้หน้าตัวเมียนั่นมันเลิกยุ่งกับเธอเท่านั้น
"เป็นเด็กเป็นเล็ก อย่ายุ่งเรื่องผู้ใหญ่ไอ้ซัน" โซลเอ็ดผู้เป็นน้องพอเป็นพิธี
เด็กหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าซัน พ่อพระอาทิตย์น้อย จะอบอุ่นเหมือนรอยยิ้มตอนนี้ไหมนะ? นี่ขนาดอายุเท่านี้ยังเล่นหูเล่นตาเก่งเชียว
"ก็ผมอยากรู้นี่นา พี่เขาน่ารักมากเลย ยิ้มเก่งด้วย พี่ชื่ออะไรเหรอครับ?" ว่าเเล้วพ่อหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของยิ้มก็เดินมาถามไถ่อย่างจริงจัง พร้อมกับแนะนำตัวเอง
"ผมชื่อซันนะ"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องซัน พี่ชื่อยิ้มนะ"
"ว้าว ~ ชื่อพี่น่ารักมากเลยครับ^^" หนุ่มน้อยผู้มีนามว่าซันยิ้มให้เธอจนตาเป็นสระอิ ถ้าให้ยิ้มเดา หนุ่มคนนี้ต้องมีเชื่อสายจีนแน่นอน
"จุ้น"
เจ้าของเสียงนี้ หากหลับตาฟังนี่คือเดาไม่ออกเลยว่าเป็นอีกคนพูด เพราะนอกจากหน้าตาเเล้วสองพี่น้องนี้แม้แต่เสียงยังคล้ายกัน ติดตรงที่คนที่สองพูดเสียงแข็งกระด้างเเละติดจะจริงจัง ไม่มีลูกเล่นแพรวพราวเหมือนแฝดอีกคน และข้อแตกต่างบนร่างกายที่หากไม่สังเกตุจริงๆ ก็จะไม่เห็น นั่นคือแฝดหน้านิ่งคนนี้ มีไฝเสนห์ขนาดเล็กบริเวณใต้ตาข้างซ้ายนั่นเอง
"ปล่อยนะไอ้โซ่! ลากกูทำไมเนี่ย เดี่ยวกูจะฟ้องมี๊ว่ามึงทำเสื้อกูยับนะเว้ย"
ซันตะโกนโหวกเหวกเมื่อโดนแฝดผู้พี่ที่เกิดก่อนเขาสองนาทีลากคอออกห่างจากยิ้มไป หนุ่มน้อยนามว่าโซ่คนนี้นิสัยเหมือนคนๆ หนึ่งมาก มากจนนึกว่าพวกเขาเป็นพี่น้องแท้ๆ ซะอีก ก็จะใครกันเล่า... ถ้าไม่ใช่ไบรท์ที่นั่งทำหน้าเหมือนคนอึไม่ออกอยู่นี่ไง
"ไม่ต้องตกใจนะ ไอ้สองตัวนี่น้องเราเอง พวกมันชอบทะเลาะกันแบบนี้ทุกวันแหละ"
"ไม่เป็นไรๆ น้องน่ารักดีออก " เธอว่าพลางส่งยิ้มให้หนุ่มตี๋อีกคน
"มึงก็ไม่คิดจะแนะนำพวกกูให้เมียมึงรู้จักหน่อยเหรอวะไอ้ไบรท์ เผื่อเป็นเหี้ยไรตายจะได้ติดต่อพวกกูมาช่วยเผา"
คนที่พูดจาเจ็บแสบ และดูน่ากลัวสุดๆ เอ่ยอย่างไม่รู้ร้อน พลางกระดกเครื่องดื่มในมือไม่ขาด
"จู๋!"
ไบรท์อยากด่าเพื่อนใจจะขาด! แต่ติดตรงที่เขาไม่กล้าด่าต่อหน้ายิ้มตากหากเล่า! เพื่อนเขาหยาบคายพอแล้ว เขากลัวเธอรับไม่ได้