"ฮึก~ ฮือ~ๆ ๆ ๆ "
เสียงสะอื้นจากหญิงสาวที่พอกลับมาถึงคอนโดของชายหนุ่มคนเดิม เนื่องจากเขาไม่ยอมให้เธอไปไหน จนกว่าจะครบตามระยะเวลาที่คุยกัน
ตั้งแต่กลับจากมหาลัยเธอก็เอาแต่นั่งกอดเข่าร้องไห้โฮ คนเราแม้ปากจะบอกว่าอยากเริ่มใหม่ อยากเข้มเเข็งขึ้นแค่ไหน แต่ใครจะรู้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เลิกกันด้วยดียังพอไหว แต่นี่ดูสารพัดเรื่องเลวๆ ที่แฟนเธอคนนั้นทำสิ
"อะ"
"ฮึก~อะไร เอากระจกมาให้ทำไม?"
"ก็จะให้ดูหน้าตัวเองเวลาร้องไห้ไง นึกว่าคนปวดเล็บขบ น้ำมูกอีก เฮ้อ~"
"T_T" ยิ้มนิ่งไปชั่วขณะ เธอกำลังช็อคกับคำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะหลุดออกจากปากเขาคนนี้ ที่สำคัญเขาว่างนักหรือไงถึงมานั่งเฝ้าเธอร้องไห้อยู่อย่างนี้
"ฮือๆ ๆ ๆ "
เอาเป็นว่าเธอร้องหนักกว่าเดิมอีก! ร้องไปส่องกระจกไป พลางมองหน้าตาตัวเองว่าเป็นอย่างที่เขาว่าจริงหรือไม่ โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าการกระทำของเธอ กำลังทำให้คนที่ด้านชาที่สุดในเมื่อก่อน ตอนนี้แอบลอบยิ้มจางๆ
" หันหน้ามาหน่อย เดี๋ยวเราเช็ดน้ำมูกให้ มันจะเข้าปาก เค็มนะบอกไว้ก่อน "
"......."
"ฮึก! ไม่ต้อง นายไม่ขยะแขยงหรือไง อึก~ ฟืด" เธอสะอึกสะอื้นไปพลาง สูดน้ำมูกไปพลาง เป็นภาพที่ดูสลดหดหู่สิ้นดี
"ไม่เป็นไร มันก็ไม่ต่างจากการเช็ดขี้ตาแมวมากนักหรอก"
"หา!"
ช็อคครั้งแล้วครั้งเล่า...ได้เกิดขึ้นกับเธอวันนี้แล้วจริงๆ เธอไม่เคยคิดว่าคนแบบเขาจะเอาเวลามานั่งพูดจากวนประสาทเธอ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเขาเหมือนจะพูดจาดีเอาใจเป็นอย่างมาก น้ำเสียงก่อนหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่พอข้ามวันเท่านั้นแหละ
"หยอกเล่น แค่ไม่อยากให้ร้องไห้เพราะผู้ชายคนนั้นอีก"
"ไม่ดีใจเหรอที่เลิกกับมันได้ มีความสุขจริงๆ เหรอ ที่ต้องอยู่แบบนั้น"
"คือ...ฮึก~"
คล้ายกับคำพูดของเขาสะกิดโดนบาดแผลในจิตใจ จนเธออยากร้องไห้อีกรอบ แต่ประโยคถัดมาของเขาเหมือนทำให้เธอคิดบางอย่างได้
"ทำไมต้องรักมันขนาดนั้น ร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะแค่ผู้ชายเลวๆ แค่คนเดียวเนี่ยนะ?"
"พ่อกับแม่เธอเลี้ยงเธอมาเคยตบเธอหัวคะมำไหม เคยทำให้เธอนอนร้องไห้หนึ่งเดือนร้องไปแล้วยี่สิบวันแบบมันหรือไง"
ทำไมเขาถึงเข้าใจพูดได้ขนาดนี้กันนะ...แถมพูดไม่ผิดสักคำ ถึงพ่อแม่เธอจะไม่มีแล้วแต่ตลอดระยะเวลาที่ท่านเลี้ยงดูเธอมาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอเลยสักครั้ง แต่เขาคนนั้นเล่า...เขาเป็นใครถึงกล้ามาทำร้ายเธอ ทั้งร่างกายและจิตใจจนบอบช้ำได้ขนาดนี้ เขาพูดไม่ผิด...ไม่ผิดเลยสักนิด เธออยากขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่ทำให้เธอคิดได้
".........." ยิ้มส่ายหน้าเป็นนาฬิกาแกว่ง พลางยกมือปาดคราบน้ำตาที่หลงเหลือบนแก้มขาว
"เธอมีค่ามากกว่านั้นยิ้ม อย่าลดตัวไปอยู่กับคนต่ำๆ แบบนั้น ใช้ชีวิตให้มีความสุขสิ ให้มันอิจฉาที่เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นโดยไม่มีมัน"
พ่อหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งข้างกาย เอ่ยร่ายยาว แถมพูดชัดถ้อยชัดคำ บางทีชัดกว่าเธอที่เป็นลูกไทยแท้เลยด้วยซ้ำ คำพูดที่เต็มไปด้วยข้อคิดไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากเขาคนนี้
เขาดูไม่เหมือนกับตอนที่เธอเจอเลย แม้หน้าตาเขาจะออกแนวแบด ๆ เหี้ยมๆ หน่อย รวมถึงบุคลิกภายนอกอาจจะดูน่าหวาดผวาก็จริง แต่เวลาเขาอยู่กับเธอ พอเขาพูดคุยเท่านั้น มันกลับตรงกันข้าม เธอคงต้องมองเขาในมุมใหม่แล้วสินะ...
"ขอบคุณนะ"
"หืม" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหันไปสบตากับเจ้าของเสียงหวานที่นั่งอยู่ข้างกาย เมื่อได้ยินเธอนั้นเอ่ยขอบคุณเขา
"นายพูดได้ดีมากจริงๆ ทำให้เราคิดตาม มันก็จริงทุกอย่าง ทำไมเราต้องร้องไห้ให้คนที่ไม่เคยรักเราเลยสักนิด "
"เราอยากเจอความสุขแบบจริงๆ แล้วแหละ"
"ที่ผ่านมาเราเหนื่อยมามากพอแล้ว เหนื่อยกับทุกอย่าง เหนื่อยที่จะต้องพยายามรักใครสักคน เหนื่อยที่จะต้องเป็นแฟนที่ดี ฮึก~ ให้ทุกอย่าง แต่ไม่เคยได้รับคืนเลยสักครั้ง มันน่าน้อยใจนะว่าไหม"
"แน่ะ พอแล้ว ถ้าพูดถึงมันเเล้วเจ็บ พูดแล้วจะร้องไห้ก็อย่าเอ่ยถึง"
เมื่อเห็นว่าสาวเจ้าที่นั่งข้างๆ เริ่มซึมลงอีกระรอกหนึ่ง ไบรท์จึงรีบเอ่ยดักไว้ก่อน เขาไม่อยากเห็นเธอร้องไห้อีกแล้ว ยิ่งสาเหตุมาจากไอ้หน้าปลาไหลนั้นเขายิ่งไม่ชอบใจ มันก็แค่คนห่วยๆ ขั้นสุด มีสิทธิ์อะไรมาทำให้เธอเสียใจและเจ็บปวดขนาดนี้กัน
"อยากลองเป็นผู้รับบ้างไหมล่า?"
"ห๊ะ?"
"หมายถึงความสุขไง เรามีให้เธอได้นะ"
"นายหมายถึงอะไร"
"ตอบก่อนสิ พร้อมจะเปลี่ยนตัวเองไหม เปลี่ยนให้เป็นคนที่เข้มแข็ง ไม่ยอมให้ใครรังแก และสนุกกับชีวิตมากกว่านี้"
"พร้อม"
เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงตอบเขาไปง่ายๆ แบบนั้น แต่เพราะเวลาที่เธอได้สบตากับดวงตาคมคู่นั้น กลับทำให้เธอรู้สึกคล้ายเชื่อมั่นเขาคนนี้อย่างบอกไม่ถูก เหมือนเขาพูดอะไรแนะนำอะไรมันดูน่าเชื่อถือ และทำให้เธอคล้อยตามได้อย่างน่าประหลาด
"ดีมาก งั้นเธอลองทำตามที่เราบอกนะ ลองดู เราไม่เอาเปรียบเธอเเน่นอน"
"ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวเราเตรียมชุดให้"
"ไปไหนเหรอ?"
"ผับ"
"ห๊ะ! ไม่เคยไป"
"ก็กำลังจะพาไปไง เปิดหูเปิดตา"
"จะดีเหรอ" เธอก้มหน้าต่ำสลับกับมองเขา คล้ายกับกำลังตัดสินใจ เเละเหมือนว่าเขานั้นจะรู้ทัน จึงรีบเอ่ยขึ้นทันที
"ดีแน่นอน ไปผับเราก็ได้ พอดีจะเข้าไปดูงานด้วย"
"ไบรท์เป็นเจ้าของเลยเหรอ? เก่งจัง"
"อื้อ หุ้นกับเพื่อนอีกสองคนน่ะ ที่บ้านทำธุระกิจด้วยเลยพอทำได้"
เขาเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้เธอ ใบหน้าหล่อบวกกับรอยยิ้มนั่นแล้ว เล่นเอาคนมองถึงกับเหม่อลอย ว่าก็ว่าเถอะ...เขาเกิดมาหล่อขนาดนี้ได้ยังไงนะ ถ้าตัดเรื่องเจาะและรอยสักทั้งหมดไปได้ เขาคือผู้ชายอบอุ่นละมุนตั้งแต่เเรกเจอเลยแหละ ผิวบริเวณใบหน้าที่หลงเหลือจากรอยสักมากมายยังเปล่งออร่าได้มากขนาดนี้ เธอเป็นผู้หญิงยังอิจฉาเลย
"หน้าเรามีอะไรติดงั้นเหรอ?"
เสียงของชายหนุ่มเรียกให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนที่จะเอ่ยอึกอัก อย่างคนมีพิรุธ
"อะ เอ่อ...เปล่าๆ แค่อิจฉา ผิวนายดีมากเลย เป็นลูกครึ่งอะไรหรอ"
"อ๋อ เเด๊ดเป็นอเมริกันน่ะ แม่เป็นคนไทย"
"มิน่าละ เพอร์เฟคเชียว" เธอเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ชายหนุ่ม ใช่เเล้ว...เขาเพอร์เฟค ดูดีมากจริงๆ จนแทบจะไม่มีที่ติ ส่วนสูงเอย หุ่นเอย หน้าตา ทุกอย่างดีไปหมด
"อยากได้เป็นยีนเด่นให้ลูกบอกได้นะ"
"ห๊ะ! อะไรนะ"
เธอหูฝาดหรือเปล่า! เขาบอกว่าอยากได้ อะไรเด่นๆ ให้ลูกอย่างนั้นเหรอ การที่จะเป็นแบบนั้นได้คือเธอกับเขาต้องสะบะละหึ่ม บึ้มๆ ปั่มปั้มกันจนเธอท้อง เหรอ? เขาคิดอะไรกับเธออยู่กันแน่
"หน้ายิ้มเวลาตกใจ ยังดูดีกว่าตอนร้องไห้ให้ไอ้เห็บหมานั่นอีก ไปอาบน้ำเถอะ"
ไบรท์รีบเปลี่ยนเรื่องทันที ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและไม่ลืมที่จะหิ้วคนตัวเล็กที่เอาแต่ทำตาโต หน้าเหวอไม่หายสักที
"เดี๋ยวก่อน ขอถามอีกอย่างได้ไหม"
"อะไรครับ?"
เมื่อหายตะลึงค้างเป็นที่เรียบร้อย เธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป
"นายพูดเยอะแบบนี้ เฉพาะเวลาอยู่ในพื้นที่ของตัวเองเท่านั้นเหรอ?"
"เปล่า แค่กับเธอ"
แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้เธอใช้สมองที่มีประมวลผลตามอย่างเชื่องช้า เขาหล่อนะ...แต่เขา
แปลก