"โถ่เว้ย! "
"เป็นห่าอะไรอีกล่ะเนี่ย"
นิกที่ถูกบังคับให้มาอยู่เป็นเพื่อนคอยรองรับอารมณ์เกรี้ยวกราดของคนที่กำลังโวยวาย และตะโกนเสียงดัง บ้างก็โยนข้าวของเกลื่อนห้อง ราวกับคนบ้าหลุดออกจากโรงพยาบาล จนอีกคนต้องกุมขมับ
"หงุดหงิดเว้ย!"
กันต์ตะโกนก้องอย่างคนหัวเสียขั้นสุด ยิ่งนึกถึงตอนที่เห็นสองคนนั่นไปไหนมาไหนด้วยกันเขายิ่งโกรธจนต้องหาที่ระบายแบบนี้
"มึงนี่เนอะ ยิ้มทนอยู่กับคนแบบมึงได้ยังไงวะ"
"มึงพูดอะไรไอ้นิก คนแบบกูมันทำไม "
คนที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เจ้าอารมณ์ ชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น และจิตใจโลเลอย่างไรเล่า... นิกอยากจะบอกถึงข้อเสียทั้งหมดของผู้เป็นเพื่อน แต่ก็รู้ดีว่าไร้ประโยชน์ คนแบบนี้ต่อให้พูดจนปากฉีกถึงรู้หูก็ไม่สำนึก หากไม่เจอกับความผิดหวังและคิดได้ด้วยตัวเองเท่านั้น
"ช่างเหอะๆ กูขี้เกียจพูดแล้ว กูกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะ"
"คืนนี้กูจะไปกินเหล้า มึงต้องไปกับกู"
"โอเคๆ เดี๋ยวเจอกัน" นิกตอบปัดๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา ถ้าลองไม่ไปดูสิ คนแบบมันจะยอมรามือง่ายๆ
เมื่อเพื่อนออกจากห้องไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น มองไปรอบกายก็ล้วนแต่เจอสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำให้นึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมา ยิ่งทำให้อารมณ์เขาเดือดดาลมากขึ้น พาลโกรธไปหมดทุกสิ่งรอบตัว
"มึงคิดว่ากูจะเสียดายหรือไง"
ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่น พลันเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าของอดีตแฟนสาวโยนลงกับพื้น เพื่อระบายอารมณ์อย่างคนไร้เหตุผล
เขาไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเองเลยสักนิด กลับโยนความผิดทุกอย่างไปให้เธอคนนั้น ก่นด่าว่าเธอเสียๆ หายๆ ทั้งที่ตนเองเป็นคนทำเรื่องเหลวแหลกทั้งหมด ทั้งนอกใจเธอ ทำร้ายร่างกายเธอ หนำซ้ำยังยกเธอให้คนอื่น พอเห็นอีกคนดีกับเธอหน่อยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่รู้เป็นบ้าอะไรนักหนา
"อยากไปไหนกับใครก็เชิญ ใครสนกัน"
ว่าแล้วชายหนุ่มก็คว้าเอาโทรศัพท์มือถือมาพิมพ์ข้อความชวนสาวนัดออกเดทคืนนี้แก้เหงา หวังจะสนุกให้ลืมเรื่องราว เขาคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ
ไม่มีวันที่คนแบบกันต์ผู้มั่นใจว่าตัวเองดีเลิศ ถูกเสมอ ผิดเป็นคนอื่นแบบเขาจะมานั่งคิดมากเพราะผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว
เลิกก็เลิกไปสิ...เขาหาใหม่ได้อยู่แล้ว ไม่เห็นจะเป็นเรื่องยาก ในเมื่อเธอต้องอยู่กับมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจอยู่แล้ว
เขาเองก็จะเริ่มต้นใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากใช้ ดูสิว่าคนแบบเธออีกกี่วันจะซมซานกลับมาหาเขากัน...
ตัดภาพมาทีอีกฝ่าย...
"ข้อที่หนึ่ง ทำกับข้าวเก่ง"
"ข้อที่สอง เอ่อ...ร้องเพลงพอได้นี่นับว่าเป็นข้อดีไหม?"
"ได้ระดับไหน"
"ร้องเพลงชาติถูกคีย์"
"อย่านับเลย เอาอย่างอื่นเถอะ"
"งั้นๆ มันก็หมดแล้วน่ะสิ"
เสียงพูดคุยกันอย่างจริงจัง ระหว่างชายหนุ่มหญิงสาวอีกคู่ที่ตอนนี้เวลาปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มเเล้ว แต่ทั้งสองก็ยังนั่งพูดคุยกันไม่ยอมหลับยอมนอน
เเรกๆ ก็คุยเรื่องสัพเพเหระ หลังๆ ยิ้มเริ่มมีดราม่าและซึมไปเมื่อเห็นแฟนเก่าคนนั้นลงรูปคู่กับสาวอีกคน ที่เเม้จะใส่เเคปชั่นว่าเพื่อนใหม่ แต่เธอก็เดาออกว่านั่นไม่ใช่เพื่อน
จะเพราะเขาทำเพื่อประชด หรือทำเพราะความชอบของเขาเอง เธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรต่างคนต่างถือว่าจบ แต่เพราะส่วนลึกในจิตใจยังคงหลงเหลือความผูกพันธ์ เธอจึงยังลืมไม่ได้โดยทันที
และเริ่มพูดแต่ข้อเสียของตัวเอง จนโดนไบรท์นั่งจับปรับทัศนคติใหม่ อย่างตอนนี้...
"หมดที่ไหน เหลืออีกตั้งเยอะ ข้อดีของตัวเองทำไมจะหาไม่เจอล่ะ"
"มันไม่มีไง"
"ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ ไบรท์จะไม่ยอมให้ใครมายัดเยียดความคิดที่ทำให้ยิ้มด้อยค่าตัวเองแบบนี้เด็ดขาด"
ทำไมเธอถึงพูดไม่ออกนะ...เหมือนมันจุกในอก จนหายใจติดๆ ขัดๆ ...