เริ่มต้นชีวิตที่ต่างกัน

752 Words
"โถ่เว้ย! " "เป็นห่าอะไรอีกล่ะเนี่ย" นิกที่ถูกบังคับให้มาอยู่เป็นเพื่อนคอยรองรับอารมณ์เกรี้ยวกราดของคนที่กำลังโวยวาย และตะโกนเสียงดัง บ้างก็โยนข้าวของเกลื่อนห้อง ราวกับคนบ้าหลุดออกจากโรงพยาบาล จนอีกคนต้องกุมขมับ "หงุดหงิดเว้ย!" กันต์ตะโกนก้องอย่างคนหัวเสียขั้นสุด ยิ่งนึกถึงตอนที่เห็นสองคนนั่นไปไหนมาไหนด้วยกันเขายิ่งโกรธจนต้องหาที่ระบายแบบนี้ "มึงนี่เนอะ ยิ้มทนอยู่กับคนแบบมึงได้ยังไงวะ" "มึงพูดอะไรไอ้นิก คนแบบกูมันทำไม " คนที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เจ้าอารมณ์ ชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น และจิตใจโลเลอย่างไรเล่า... นิกอยากจะบอกถึงข้อเสียทั้งหมดของผู้เป็นเพื่อน แต่ก็รู้ดีว่าไร้ประโยชน์ คนแบบนี้ต่อให้พูดจนปากฉีกถึงรู้หูก็ไม่สำนึก หากไม่เจอกับความผิดหวังและคิดได้ด้วยตัวเองเท่านั้น "ช่างเหอะๆ กูขี้เกียจพูดแล้ว กูกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะ" "คืนนี้กูจะไปกินเหล้า มึงต้องไปกับกู" "โอเคๆ เดี๋ยวเจอกัน" นิกตอบปัดๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา ถ้าลองไม่ไปดูสิ คนแบบมันจะยอมรามือง่ายๆ เมื่อเพื่อนออกจากห้องไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น มองไปรอบกายก็ล้วนแต่เจอสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำให้นึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมา ยิ่งทำให้อารมณ์เขาเดือดดาลมากขึ้น พาลโกรธไปหมดทุกสิ่งรอบตัว "มึงคิดว่ากูจะเสียดายหรือไง" ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่น พลันเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าของอดีตแฟนสาวโยนลงกับพื้น เพื่อระบายอารมณ์อย่างคนไร้เหตุผล เขาไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเองเลยสักนิด กลับโยนความผิดทุกอย่างไปให้เธอคนนั้น ก่นด่าว่าเธอเสียๆ หายๆ ทั้งที่ตนเองเป็นคนทำเรื่องเหลวแหลกทั้งหมด ทั้งนอกใจเธอ ทำร้ายร่างกายเธอ หนำซ้ำยังยกเธอให้คนอื่น พอเห็นอีกคนดีกับเธอหน่อยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่รู้เป็นบ้าอะไรนักหนา "อยากไปไหนกับใครก็เชิญ ใครสนกัน" ว่าแล้วชายหนุ่มก็คว้าเอาโทรศัพท์มือถือมาพิมพ์ข้อความชวนสาวนัดออกเดทคืนนี้แก้เหงา หวังจะสนุกให้ลืมเรื่องราว เขาคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ ไม่มีวันที่คนแบบกันต์ผู้มั่นใจว่าตัวเองดีเลิศ ถูกเสมอ ผิดเป็นคนอื่นแบบเขาจะมานั่งคิดมากเพราะผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว เลิกก็เลิกไปสิ...เขาหาใหม่ได้อยู่แล้ว ไม่เห็นจะเป็นเรื่องยาก ในเมื่อเธอต้องอยู่กับมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจอยู่แล้ว เขาเองก็จะเริ่มต้นใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากใช้ ดูสิว่าคนแบบเธออีกกี่วันจะซมซานกลับมาหาเขากัน... ตัดภาพมาทีอีกฝ่าย... "ข้อที่หนึ่ง ทำกับข้าวเก่ง" "ข้อที่สอง เอ่อ...ร้องเพลงพอได้นี่นับว่าเป็นข้อดีไหม?" "ได้ระดับไหน" "ร้องเพลงชาติถูกคีย์" "อย่านับเลย เอาอย่างอื่นเถอะ" "งั้นๆ มันก็หมดแล้วน่ะสิ" เสียงพูดคุยกันอย่างจริงจัง ระหว่างชายหนุ่มหญิงสาวอีกคู่ที่ตอนนี้เวลาปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มเเล้ว แต่ทั้งสองก็ยังนั่งพูดคุยกันไม่ยอมหลับยอมนอน เเรกๆ ก็คุยเรื่องสัพเพเหระ หลังๆ ยิ้มเริ่มมีดราม่าและซึมไปเมื่อเห็นแฟนเก่าคนนั้นลงรูปคู่กับสาวอีกคน ที่เเม้จะใส่เเคปชั่นว่าเพื่อนใหม่ แต่เธอก็เดาออกว่านั่นไม่ใช่เพื่อน จะเพราะเขาทำเพื่อประชด หรือทำเพราะความชอบของเขาเอง เธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรต่างคนต่างถือว่าจบ แต่เพราะส่วนลึกในจิตใจยังคงหลงเหลือความผูกพันธ์ เธอจึงยังลืมไม่ได้โดยทันที และเริ่มพูดแต่ข้อเสียของตัวเอง จนโดนไบรท์นั่งจับปรับทัศนคติใหม่ อย่างตอนนี้... "หมดที่ไหน เหลืออีกตั้งเยอะ ข้อดีของตัวเองทำไมจะหาไม่เจอล่ะ" "มันไม่มีไง" "ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ ไบรท์จะไม่ยอมให้ใครมายัดเยียดความคิดที่ทำให้ยิ้มด้อยค่าตัวเองแบบนี้เด็ดขาด" ทำไมเธอถึงพูดไม่ออกนะ...เหมือนมันจุกในอก จนหายใจติดๆ ขัดๆ ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD