บทสนทนาที่เกือบจะนำพาเราสองคนไปถึงจุดแตกหัก ถูกยุติลงด้วยการที่พี่ชาร์ไม่ติดใจถามอะไรต่อ เพราะสุดท้ายเราสองคนก็ลงเอยด้วยการที่ผมปีนขึ้นมานั่งบนตักเขา ใช้ฝ่ามือประคองใบหน้าขาวลูบไล้บนรอยช้ำอย่างเบามือ นานหลายนาทีกว่าที่พี่ชาร์จะยอมเป็นฝ่ายนั่งฟังผมบ้าง ว่าเรื่องของพี่ซินมันไม่มีอะไรมากกว่านั้นแน่นอน แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่มันจะเชื่อจริงหรือเปล่า เพราะสุดท้ายก็แล้วแต่เขานั่นแหละที่จะพิจารณา “ผมไม่ชอบเวลาเราทะเลาะกัน” ผมบอกเสียงค่อย มือก็ลูบไล้ไปมาบนแผงอก “กูก็ไม่ชอบเหมือนกัน คิดว่ากูอยากหาเรื่องมาทะเลาะกับมึงหรือไง” “งั้นเราอย่าทะเลาะกันเพราะคนอื่นเลยนะ” “เออ กูรอของกูมาตั้งหลายปี เรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาทำให้มึงยิ้มได้ในวันที่ทะเลาะกับกู ใช่มั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นขณะที่ใช้หลังมือเกลี่ยไรแก้มผม ดวงตาคู่คมวาวโรจน์สบมาคล้ายว่ากำลังสะกดให้ผมฟังเขาบ้าง ผมพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม “อื้อ” พี่ชาร์เล