กรี๊ด....ตู้ม!!!
อะ...อ่าว... “-__-” สามคนทำสีหน้ายิ้มไม่ออกกับภาพที่เห็น ทั้งมองไปมาแลกสายตาให้กัน
เสียงกรีดร้องบวกกับเสียงคล้ายบางสิ่งร่วงน้ำสร้างความตระหนกให้กับผู้ร่วมงาน โดยมีสี่พี่น้องตระกูลฟู่ยืนมองสตรีทั้งสองตกน้ำ และไม่นานในงานก็มีเสียงโวยวายของสตรีสูงวัยและวัยสาวสองคน หากอินเหยาเดาไม่ผิดคงเป็นท่านย่ากับพระสนมมารดาองค์หญิงสามเป็นแน่
ระทึกเป็นบ้า!
เหลียงจื่อเพ่ยที่เดินตามพวกตระกูลฟู่มาอยู่แล้ว เห็นสองสตรีอยู่ ๆ ก็แตกตื่นตกน้ำ เขาจึงรีบลงไปช่วย แต่ทว่าเขาเลือกช่วยได้คนเดียวดังนั้น อีกคนเขาจึงขอร้องให้อินเหยาที่น่าจะว่ายน้ำเป็นลงไปช่วยเหลือ
“เจ้าช่วยองค์หญิงสามเร็วเข้า”
อินเหยาที่ยืนมองพระเอกขี่ม้าขาวช่วยนางเอกคนใหม่ที่นางเพิ่งมอบบทบาทให้ก็นึกเซ็ง ที่จริงไม่ควรมีใครร่วงน้ำสักคน แต่องค์หญิงสามกลับไร้สติตกใจพากันลงไปเอง จึงเดือดร้อนนางจนได้
นางจึงจำใจกระโดดน้ำลงไป เพราะตอนนี้ท่านหญิงชิงหนิงได้รับการช่วยเหลือจากเหลียงจื่อเพ่ย ชายหนุ่มที่ไม่เคยสัมผัสต้องสตรี ยามได้สัมผัสครั้งแรกมักเผลอใจมีรักลึกซึ้งโดยไว นางคิดว่าแผนของนางย่อมสำเร็จ ส่วนน้องสาวของนางนั่งอยู่บนฝั่งรอดจากบุพเพนี้แล้วแน่ ๆ
แต่เมื่อนางลงไปจับร่างขององค์หญิงสามซานลู่ องค์หญิงกลับไม่ยอมให้นางช่วยแต่จับนางกดน้ำ
ใช่ ไม่ผิดองค์หญิงสามร้ายกาจมาก ตัวเองจะตายอยู่แล้วยังจับนางกดน้ำ ทำให้นางสำลักน้ำจนหน้าดำหน้าแดง
แค่ก แค่ก แค่ก !!
อินเหยาบัดนี้ จากที่เป็นคนวางแผนกลั่นแกล้งสู่ผู้ประสบภัยโดยสมบูรณ์
“พี่สี่...นั่นพี่ใหญ่โดนองค์หญิงเอาคืนแล้ว...” อินจื้อ ที่มองดูพี่ใหญ่ช่วยองค์หญิงเห็นได้ชัดว่าองค์หญิงจับพี่ใหญ่กดน้ำ แกล้งทำเป็นจมน้ำ
เหลียงจื่อเพ่ยได้ยินทั้งหันไปเห็นกับตาเช่นเดียวกัน แต่เขากำลังช่วยชิงหนิงอยู่ไม่อาจจะไปช่วยอินเหยาได้ จึงต้องพาชิงหนิงขึ้นไปบนฝั่งก่อน
หลี่เค่อที่ได้ยินเสียงวุ่นวายในงานกำลังจะเดินไปดู แต่ทว่าพวกเด็ก ๆ ก็เกิดเรื่องเขาจึงเข้ามาที่ศาลากลางทะเลสาบ เมื่อเห็นเจ้าหนูน้อยโดนดีเข้าแล้วจึงลงไปช่วยด้วยตนเอง
ตู้ม!!
เสียงน้ำแตกกระจายเมื่อรุ่ยอ๋องถึงกับกระโดดน้ำลงไปช่วยเจ้าหนูน้อยอินเหยา โดยที่องค์หญิงสามไม่รู้ว่าเขาลงมาแล้ว ตั้งหน้าตั้งตากดอินเหยาให้จมน้ำอย่างน่าสงสาร
“หยุดนะซานลู่!” เสียงรุ่ยอ๋องตะแบงใส่หลานสาวตัวเองที่เอาแต่ใจ ทั้งทำให้คนจมน้ำ
เขาดึงร่างของอินเหยาที่สภาพไม่รู้สำลักน้ำไปเท่าไหร่ตอนนี้ไม่ได้สติแล้ว
“นางอยากทำข้าตกน้ำทำไม” ซานลู่เป็นองค์หญิงเอาแต่ใจเห็นว่าเสด็จแม่ของตัวเองได้รับการโปรดปรานเข้าหน่อยจึงทำอวดเบ่ง และคาดว่ามีใจให้บุรุษตระกูลเหลียงเช่นกันจึงได้ทำเรื่องเช่นนี้
ซานลู่เมื่อเอาแต่ใจไม่ได้ จึงว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งแล้วก็ปีนขึ้นไปบนศาลากลางทะเลสาบ ส่วนรุ่ยอ๋องนั้นอุ้มเจ้าหนูน้อยอินเหยาขึ้นมาจากนั้นวางนางลงกับพื้น แล้วเจ้าหนูน้อยทั้งสามเข้ามาเรียก
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ พี่ใหญ่” หลิงหยวนตบแก้มพี่ใหญ่จากนั้นก็ไม่เห็นพี่ใหญ่ขยับเขยื้อน จึงให้อินจ้านกดหน้าอกตามที่พี่ใหญ่เคยสอนเอาไว้
“อาจ้าน...เจ้ากดนับให้ถึงสามสิบครั้ง” หลิงหยวนไม่เคยเห็นพี่ใหญ่เป็นเช่นนี้ นางร้อนใจนักปกติพี่ใหญ่ของนางเก่งกาจทุกเรื่อง แต่ตอนนี้แน่นิ่งไปก็อดตกใจไม่ได้
หนึ่ง สอง สาม...
เมื่ออินจ้านนับถึงสามสิบแล้ว ก็เป็นหน้าที่หลิงหยวนเป่าปากให้พี่ใหญ่
ท่ามกลางความโกลาหลเหล่าคุณหนูต่างมามุงดูเหล่าพี่น้องตระกูลฟู่ทำท่าแปลก ๆ ทั้งเป่าปากทั้งกดหน้าอก คล้ายจะยื้อชีวิตของคุณหนูใหญ่ตระกูลฟู่ แต่ทว่าในรอบแรกก็ไม่เห็นว่านางจะขยับเขยื้อน จนคนเหล่านั้นเริ่มพูดว่าคุณหนูใหญ่ฟู่อาจจะตายแล้วก็ได้ จึงทำให้ซานลู่เริ่มตระหนกเล็กน้อย
“นี่พวกเจ้าทำอย่างนี้พี่ใหญ่เจ้าจะฟื้นรึ” รุ่ยอ๋องอยากให้หมอหลวงมาดูอาการมากกว่า เพราะว่านางแน่นิ่งจนน่าใจหาย
“ไม่...พี่ใหญ่ข้าสอนเอาไว้” หลิงหยวนยังดื้อแล้วให้อินจื้อกดหน้าอกพี่ใหญ่อีกครั้ง จากนั้นนางก็เป่าปาก คราวนี้พี่ใหญ่นางเริ่มตอบสนอง
แค่ก แค่ก แค่ก!!!
อินเหยาสำลักน้ำที่เข้าไปในปอดออกมา แล้วก็ลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ดวงตาแดงก่ำ โดยอีกฟากมีเหลียงจื่อเพ่ยที่ดูแลท่านหญิงชิงหนิงอยู่ใกล้ ๆ
“อาเหยาเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่” รุ่ยอ๋องที่เป็นห่วงนางมาก เห็นนางหน้าซีดจึงถามขึ้น
อินเหยาโบกไม้โบกมือ จากนั้นก็ขอตัวกลับ
“รุ่ยอ๋องเห็นทีว่าข้าต้องกลับก่อน”
“ก่อเรื่องแล้วจะหนีกลับรึ” องค์หญิงสามพูดขึ้น แต่ทว่ากลับได้รับรอยยิ้มมุมปากตอบกลับทำให้นางไม่พอใจ
“นั่นเจ้ายิ้มสิ่งใด” ซานลู่ไม่ชอบใจเลยสักนิด ที่นางทำท่าหยิงยโสอวดดีเช่นนี้
“ไม่ใช่ว่าท่านเองหรอกรึ ที่เป็นคนผลักท่านหญิง
ชิงหนิงแล้วแสร้งกระโดดน้ำลงไป เดิมข้าก็ไม่คิดจะเปิดโปง แต่ว่าท่านจับข้ากดน้ำ เรื่องนี้ไม่พูดเห็นจะไม่ได้”
เหล่าคุณหนูที่มามุงดูได้ยินเข้าก็นินทาองค์หญิงสามต่าง ๆ นานาทั้งรุ่ยอ๋องยังมองหลานสาวตัวเองด้วยโทสะพร้อมกับกลิ่นอายคล้ายอยากสังหารคน
“เจ้า!”
ชิงหนิงได้ยินดังนั้นจึงมองสหายแปลกไป องค์หญิงสามเป็นสหายที่ดีเสมอมา จนนางเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังบ่อยครั้ง แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้ถึงกับปองร้ายนางในงานที่คนเยอะเช่นนี้
เดิมนางแค่ตกใจไม่คาดคิดว่าจะตกไปในทะเลสาบแต่ไม่รู้ท่าไหนความชุลมุนทำให้นางตกลงไป เพราะว่ายน้ำไม่เป็นจึงร้องเรียกให้คนช่วย จากที่เห็นอินเหยายืนมองนางเมินเฉย ที่แท้ก็เห็นธาตุแท้ขององค์หญิงสามนั่นเอง
“ทีนี้รู้หรือยังล่ะ คุณชายเหลียงจื่อเพ่ยจะเลือกช่วยผู้ใด ระหว่างท่านที่เป็นองค์หญิงสาม กับท่านหญิงชิงหนิง ข้าไม่ต้องบอกแล้วกระมังว่าผู้ใดจะได้หัวใจของคุณชายเหลียงไปครอง” วาจาไม่รักษาน้ำใจนี้มอบให้องค์หญิงสามผู้เดียว
อินเหยารู้อยู่แล้วว่าคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นน่าจะมีแค่ท่านหญิงชิงหนิง แต่เพราะเขาร้องขอ นางจึงเอาตัวเข้าไปช่วย แต่ด้วยโทสะขององค์หญิงสามที่บุรุษในดวงใจไม่ช่วยนางจึงทำให้อินเหยาโดนกดน้ำ
“พี่ใหญ่กลับกันเถอะ ผู้สูงศักดิ์มากเล่ห์ ต่อไปเราอยู่ให้ห่างคนพวกนี้จะดีกว่า” อินจื้อผู้รักพี่ใหญ่ยิ่งชีพไม่อยากจะรู้จักหรือเสวนาด้วยกับคนเหล่านี้นัก
อินเหยาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงได้โปรดสนมเสียนเฟยผู้เป็นมารดาขององค์หญิงสามนัก ก็เพราะมากเล่ห์นี่เอง เล่นละครเก่งมากจนนางเกือบเชื่อเสียแล้ว และบุตรสาวก็คงเชื้อไม่ทิ้งกัน
“ข้าจะไปส่งนางเอง” เหลียงจื่อเพ่ยเป็นผู้ทำให้นางต้องเกือบตายเขาจึงสำนึกผิด อยากไถ่โทษ
“ดูแลคนรักของท่านเถอะ ข้าไม่เป็นไร” อินเหยาไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขา เดิมทีก็อยากให้เขารังเกียจตระกูลฟู่ของนางที่กลั่นแกล้งคนรักของเขา แต่เรื่องราวกลับตาลปัตรไปเสียได้
“มะ...”
เขาเหมือนจะพูดแต่นางชิงสารภาพก่อน
“เดิมข้าอยากมาหยอกเย้าคนรักของท่านเล่นจึงให้น้องชายจับหนอนมา แต่ไม่นึกว่าเรื่องราวจะบานปลาย ขออภัยท่านและท่านหญิงชิงหนิง แต่ข้าขอเตือนท่านสักคำ สหายที่เอาความเป็นความตายของท่านมาล้อเล่น สมควรแล้วหรือที่ท่านจะสมาคม” พูดจบอินเหยาก็ทิ้งระเบิดให้สองนางเอกนางร้าย ส่วนตัวเองยิ้มอ่อนได้หน้าไปเต็ม ๆ
‘ข้าคือนางร้ายออริจินอล เผื่อพวกท่านไม่รู้’
ก่อนนางจะกระโดดลงทะเลสาบ ได้ยินเสียงในงานดังโหวกเหวก คาดการณ์ว่าเป็นพระสนมเสียนเฟยกับท่านย่าของนาง ที่ผ่านมาห้าปีแล้วก็ยังไม่ญาติดีกัน จึงให้น้องชายไปดูสักหน่อย
“อินจื้อเจ้าไปสืบสิว่าในงานมีเรื่องอะไร ใช่ที่เราวางแผนไว้หรือไม่” การเอาคืนย่าตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ นางถือว่าสมควร
ส่วนนางและน้องชายน้องสาวไปรอที่รถม้า เพราะตัวเปียกเช่นนี้ไม่กล้าเข้าไปในงานให้อับอาย
อินจื้อผู้หน้าซื่อตาใสเดินเข้าไปเลียบ ๆ เคียง ๆ พบว่ามีคนใส่หนอนเข้าไปในอาหารหวังกลั่นแกล้งพระสนมเสียนเฟย ตอนนี้ตระกูลเหลียงกำลังหาตัวคนทำ ส่วนท่านย่าของเขานั้นตอนนี้เป็นลมไปแล้ว โดยมีท่านแม่กับท่านพ่อดูอยู่ห่าง ๆ แต่ไม่ได้เข้าไปใกล้เขาจึงเดินแอ่นอกจนพุงนำไปด้านหน้าเพื่อไปบอกข่าวแก่ท่านพ่อและท่านแม่
“ท่านแม่พี่ใหญ่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยตัวเปียกรอที่รถม้า พวกท่านจะกลับเลยหรือไม่”
“เจ้าว่าอะไรนะอาจื้อ” ไป๋เฟิ่นโยว่เป็นห่วงลูกสาวจึงเดินมาเพื่อจะกลับบ้านทันที หากสามีอยากอยู่ดูแลท่านแม่เขานางก็จะไม่ขัด
แต่ทว่าเมื่อกำลังจะออกจากงานคนของรุ่ยอ๋องเดินมาแจ้งข่าวเสียก่อน
“รุ่ยอ๋องแจ้งว่าจะไปส่งคุณหนูใหญ่ฟู่ด้วยตนเอง ท่านแม่ทัพอย่ากังวลไปขอรับ”
“เช่นนั้นหรอกรึ” ฟู่ลีหยวนเดิมก็อยากกลับ แต่เมื่อเรื่องเป็นอย่างนี้แล้วเขาจะอยู่สักหน่อย
“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าจะกลับพร้อมพี่ใหญ่ลาท่านก่อนขอรับ” อาจื้อไม่อยากถูกสอบสวนรีบใช้สองเท้าป้อม ๆ สับฉับ ๆ ไปอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้ทันพี่ใหญ่ที่ออกไปรอด้านนอก โดยทุกคนไม่รู้ว่าบุรุษที่สั่งห้ามไม่ให้ไปส่งก็ติดตามไปด้วย