บทที่ 6 แฝดคู่มังกร

1611 Words
ในรถม้าของรุ่ยอ๋องที่มีเด็ก ๆ อยู่สี่คนและมีผู้ใหญ่หนึ่งเดียวคือหลี่เค่อหรือรุ่ยอ๋อง บรรยากาศเงียบงันจนรับรู้ได้ถึงความอึดอัด แต่รุ่ยอ๋องไม่ได้บังคับให้นางพูดหรือเล่าเรื่องทั้งหมด เพียงแต่นั่งเป็นเพื่อนนางมาถึงจวนตระกูลฟู่ที่เป็นเรือนพระราชทานที่ไม่ใช่จวนดั้งเดิมของต้นตระกูล เมื่อรถม้าจอดนิ่งสนิทในขณะที่ทุกคนกำลังลงจากรถม้าคันใหญ่หรูหราสมฐานะของรุ่ยอ๋อง ที่นั่งกินเมืองอยู่สบายไม่ต้องทำงานใดให้เหนื่อยยากลำบากกาย ก็มีรถม้าของจวนตระกูลเหลียงแล่นมาจอดใกล้ ๆ ทำให้ฟู่อินเหยามองอย่างไม่เข้าใจนัก ที่จริงช่วงนี้ในนิยายควรจะเป็นน้องสาวของนางที่เป็นคนตกน้ำ แล้วพระเอกของเรื่องอย่างเหลียงจื่อเพ่ยลงไปช่วย ด้วยความสงสารจึงเอ็นดูนางจนเมื่อนางเติบใหญ่จึงมีใจรักลึกซึ้ง แต่ในวันนี้คนที่เหลียงจื่อเพ่ยลงไปช่วยคือท่านหญิงชิงหนิงที่ถูกองค์หญิงสามซานลู่เล่นเล่ห์ใส่ แล้วเหตุใดเขายังมาอยู่ตรงนี้ไม่ไปดูแลท่านหญิงชิงหนิงอีกเล่า “คุณชายเหลียง ท่านไม่ไปดูแลท่านหญิงรึ” “ข้าให้คนดูแลและส่งนางถึงเรือนแล้ว” ไม่ใช่สิ ควรจะเป็นเขาไปส่งนางถึงเรือนนี่นา เหตุใดกลับตาลปัตรอีกแล้ว ข้าชักจะเหนื่อยกับการเปลี่ยนบทเสียแล้วนะ แต่อย่างไรข้าก็จะเป็นนางร้ายที่ไม่หลงรักพระเอกและก็ไม่ทำร้ายน้องสาวเด็ดขาด “เจ้าสำลักน้ำไปมาก ข้าพาท่านหมอมาด้วย รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” บนร่างของฟู่อินเหยามีเสื้อคลุมปักลายมังกรห่มอยู่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของผู้ใด รุ่ยอ๋องผู้นี้สนิทสนมกับนางแค่ไหนเหตุใดเขาจะไม่รู้ไม่เห็น แต่ทว่าในใจลึก ๆ เขากลับรู้สึกแปลกไปจนอัดอั้นคล้ายไม่ยินยอม ยามได้เห็นสองคนนี้ใกล้ชิดกัน “ไม่รบกวนเจ้าแล้ว เจ้ากลับไปพักเถอะ เดี๋ยวท่านหมอข้าจะให้พาไปส่งเอง” รุ่ยอ๋องมองดวงตาบุรุษหนุ่มน้อยเพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยกำหนัดแล้วก็รีบกีดกันออกไป ด้วยกลัวจะเสื่อมเสียไปถึงเจ้าหนูน้อยของเขา ฟู่อินเหยามองรุ่ยอ๋องที่มีดวงตาคล้ายบิดาหวงลูกสาวก็นึกขัน ยามปกติเขาเอาแต่หาเรื่องเอาเปรียบนาง ยามนี้นึกห่วง นางก็เริ่มอยากล้อเขาเสียแล้ว หากอยู่ด้วยกันลำพัง แต่ตอนนี้ต้องเก็บแววตาล้อเล่นนั้นเอาไว้ก่อน “ข้าอยากแน่ใจว่านางไม่ได้เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะรุ่ยอ๋อง เพราะข้านางจึงโดนองค์หญิงสามเล่นงาน” จริงอยู่เดิมฟู่อินเหยาไม่คิดช่วยองค์หญิงอยู่แล้ว จากการประเมินผิวเผินนางคิดว่าองค์หญิงว่ายน้ำเป็น แต่ก็ไม่รู้ว่านางหลงกลสตรีผู้นั้นได้อย่างไร ช่างเป็นสตรีที่ควรห่างให้ไกลอย่าใกล้เคียงเชียว แต่ที่จริงเพราะเหลียงจื่อเพ่ยขอร้องนางถึงทำ หรือว่าที่จริงนางหลงคำบุรุษอย่างเหลียงจื่อเพ่ยกันแน่ นางก็ไม่มีเรื่องบาดหมางสิ่งใด ไม่รู้เหตุใดนางถึงได้คิดเอาชีวิตตนเอง ทั้งในนิยายก็ไม่ได้เขียนถึงสตรีผู้นี้เอาไว้เรื่องวันนี้คนหนึ่งองค์หญิง คนหนึ่งปนัดดา ล้วนเกี่ยวข้องกับฝ่าบาททั้งสิ้น เห็นทีว่าจะเอาความกันยากแล้วกระมัง “ข้าเต็มใจเป็นสะพานเอง เจ้าไม่ต้องคิดมาก” อินเหยาพยายามยกความผิดให้ตนเอง เพื่อเขาจะได้เลิกติดตามนาง นางคิดว่านางอ่านไม่ผิด เพราะองค์หญิงอยากให้นางจมน้ำซะ เหลียงจื่อเพ่ยจึงจะทิ้งท่านหญิงชิงหนิงเพื่อมาช่วยนาง ถึงเวลานั้นนางก็ไร้มลทินเพราะจมน้ำไปด้วย โดยไม่สนว่าอีกสองคนจะเป็นหรือตายก็ตาม นางอำมหิตนัก! “เหตุใดต้องปกป้องผู้อื่น” เหลียงจื่อเพ่ยเริ่มหงุดหงิด อะไรนางก็รับผิดไปหมด เห็นชัด ๆ ว่าองค์หญิงก่อเรื่อง ทั้งที่พวกนางแค่หยอกล้อเล่นสนุกเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้ใครตกน้ำเสียหน่อย แต่สร้างความบาดหมางให้เขาเห็นว่านางร้ายกาจ แต่เขากลับมาสงสารนางเสียได้ นี่ก็ไม่รู้เพราะเหตุใดเช่นกัน ตั้งแต่กลับมาเมืองหลวงแคว้นหลิน ยามพบหน้านางครั้งแรก หัวใจของเขาก็เต้นตุบตับ “ใครบอก ข้าปกป้องตนเองและน้องสาวของข้าต่างหาก” พูดจบฟู่อินเหยาก็เดินจากไป รวมทั้งรุ่ยอ๋องที่เดินเข้าไปฟังอาการของนางอย่างใกล้ชิด ส่วนเขาได้แต่ยืนอยู่หน้าจวนกับเจ้าเด็กห้าหนาว... และก็สามหาวอีกด้วย! “ข้าอินจื้อน้องเล็กแห่งตระกูลฟู่ขอเตือนท่านสักคำ เลิกเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่ของเราได้แล้ว สตรีตระกูลฟู่ไม่ใช่สิ่งของ ไม่อาจชี้เลือกเพื่อให้ใครเป็นสะใภ้ก็ได้” อินจื้อกอดอกกระดกเท้าเหมือนอันธพาลข่มขู่รีดไถที่มีพุงหมูพลุ้ยเหมือนลูกแตงโมจนน่าดีด แต่ในสายตาของเหลียงจื่อเพ่ยนั้นไม่นับว่าน่าเกรงขามชวนให้เกรงกลัวสักนิด ออกจะตลกเสียด้วยซ้ำ เขาจึงพ่นลมหายใจมาหนึ่งคำ แต่กลับเรียกท่าทางหวาดหวั่นให้เจ้าอันธพาลตัวน้อยได้ เห้อ! “เย้ย...พี่สี่เจ้าบุรุษตระกูลเหลียงจะทำร้ายข้า” อินจื้อรีบหลบหลังพี่ชายฝาแฝด เขาคิดว่าหากพี่ใหญ่อยู่เขาไม่กลัวแน่ แต่ทว่าตอนนี้มีแค่เขากับพี่สี่อยู่จึงผลักไสพี่ชายให้รับหน้าไปก่อน ไม่ว่าจะหมัด ศอก หรือเข่าเขาไม่พร้อมรับทั้งนั้น “โธ่...เจ้าเบื้อก!” อินจ้านก็นึกว่าน้องชายตนเองจะแน่ ที่ไหนได้ก็ตาขาว แค่ศัตรูยังไม่ได้ขยับก็กลัวจนหัวหดไปแล้ว จนอดไม่ได้ที่จะเอามือไปตบกะโหลกสักทีให้หายอวดดี เพียะ! “โอ๊ยพี่สี่ ท่านตบหัวข้าอีกแล้วนะ ถ้าข้าฉีรดที่นอนโทษท่านคนเดียว” อินจื้อลูบหัวปรอย ๆ แต่ทว่าคนที่เขาขวางไว้ก็ยังไม่ยอมไปสักที จนต้องออกปากไล่ “ท่านกลับไปเถิด” “พี่ใหญ่เจ้าแค้นอะไรข้านัก” จื่อเพ่ยถามด้วยความอยากรู้ อินจื้อหรี่ตาลงอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพูดบางอย่างขึ้น “บอกท่านแล้วข้าจะได้อะไร เปลืองน้ำลายเปล่า ๆ” อินจื้อเล่นเล่ห์ใช้กลยุทธ์จับเพื่อปล่อยให้เหยื่อเข้ามาติดกับด้วยความอยากรู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง “ข้าให้ห้าตำลึงเงิน” “ห้าตำลึงทอง” นักปราชญ์ผู้มีปัญญาปราดเปรื่องเริ่มใช้กลยุทธ์การค้ากับคนที่พี่สาวเกลียด “ตกลง...ข้ามีในห่อนี่ หากเจ้าบอกข้าก็รับไป” อินจื้อไม่เชื่อถือศัตรู เพราะไม่มีสัจจะในหมู่โจร พี่ใหญ่ของเขาสอนไว้ดี ดังนั้นย่อมต้องตรวจสอบให้ครบรอบคอบถี่ถ้วนอย่างดี ถึงจะทำการค้ากับคนผู้นั้นได้ “ข้านับก่อน” อินจื้อแบมือให้เขาส่งห่อตำลึงมา หากไม่ส่งมาก่อนเขาก็จะไม่บอกเท่านั้นไม่มีอะไรเกินความสามารถของแฝดคู่มังกรที่ท่านพ่อไปดูดวงตกฟากของพวกเขามาแล้ว “ข้าไม่เคยตุกติก ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น” “ข้าเป็นคนรอบคอบ” อินจื้อไม่ยอมง่าย ทั้งอินจ้านก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาจะช่วยพี่สาวไถเงิน...เอ้ยไม่ใช่ ทวงความยุติธรรมต่างหากทั้งหาเรื่องเอาคืนเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาย่อมต้องเข้มงวดในการต่อรอง ‘ขูดรีด!’ เหลียงจื่อเพ่ยได้แต่คิด ไม่กล้าพูดออกมา เพราะตนเองก็อยากรู้เหตุผลที่ไม่ใช่เหตุผลที่เขารู้อยู่แล้ว คน ๆ หนึ่งจะสามารถเกลียดอีกคนหนึ่งทั้งที่ไม่มีเรื่องบาดหมางกันได้อย่างไร “เอาไป” เขายื่นถุงตำลึงสีดำปักด้วยด้ายสีเหลืองทองเป็นด้ายพิเศษที่นิยมใช้ในราชวงศ์และวังหลังเท่านั้น เพราะท่านพ่อเป็นถึงเสนาบดี คนในวังจึงเข้ามาประจบสอพลอมากส่งของกำนัลมาให้ อินจื้อผู้ละเอียดลออเกี่ยวกับเรื่องเงิน เขานับทุกก้อนพบว่ามีสิบก้อนสีทองจริง ๆ จึงยอมปริปากเรื่องที่บุรุษตระกูลเหลียงไปทำกับพี่สาวเอาไว้ แต่ว่าเล่าไม่หมดหรอกนะ ย่อมเล่าแต่เรื่องดีเข้าตัว “พี่ใหญ่ฝังใจเจ็บท่านตั้งแต่ผลักพี่ใหญ่หัวกระแทกจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด หนำซ้ำยังโดนแม่สามีทำร้าย และท่านแม่ต้องโดนโบยอย่างไม่เป็นธรรม” เรื่องนี้มีคนเล่าให้เขาฟังแล้ว แต่เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน แต่เหตุใดนางยังไม่ละวางโทสะอีกนะ หรือเขาต้องทำอย่างไรกัน “วันก่อน มารดาท่านเอาดวงของท่านพี่ใหญ่และพี่สามของข้าทั้งสองคนเอาไปผูกให้ดวงสมพงษ์ แต่ท่านคงไม่รู้ว่าตระกูลฟู่นั้นรังเกียจคนตระกูลเหลียงท่านเข้าไส้ โดยเฉพาะท่าน” “ข้าน่ารังเกียจยังไง” “พี่ใหญ่บอกว่า หากท่านเข้ามาในชีวิต พี่ใหญ่ต้องตายอย่างอนาถทั้งผิดใจกับพี่สาม เรื่องอื่นข้าไม่รู้แล้ว ไปล่ะ” ยังถามไม่ทันจบเจ้าตัวแสบสองจิ๋วก็วิ่งหายเข้าไปในจวน นั่นทำให้เหลียงจื่อเพ่ยโกรธหน้าดำหน้าแดง เพราะโดนหลอกเข้าแล้วอย่างไร “เจ้าแฝดนรก...กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD