มีอารมณ์

1707 Words
รมตีนั่งตัวเกร็งอยู่บนโซฟา เธอหันหลังให้พ่อเลี้ยงแสนระหว่างที่เขากำลังแต่งตัว หญิงสาวไม่คุ้นชินกับการอยู่กับผู้ชายสองต่อสองเช่นนี้ โดยเฉพาะผู้ชายแปลกหน้าป่าเถื่อนที่เพิ่งเจอกันวันแรก "คุณ....แต่งตัวเสร็จหรือยัง?" เธอถามเสียงเบา เขาจึงหันมามองร่างเล็กกะทัดรัดที่นั่งหันหลังอยู่ราวกับรูปปั้น "ถามทำไม?" "ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" "ก็คุยมาสิ" "เอ่อ...ฉันจะขอกลับลงไปนอนที่ห้องพักของฉันน่ะ" รมตีรู้ดีว่าตนจะอึดอัดมากจนนอนไม่หลับหากจะต้องนอนอยู่ในห้องนอนของพ่อเลี้ยงแสน ทว่าชายหนุ่มยังไม่ได้ตอบอะไร เขาแต่งตัวเสร็จแล้วจึงเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างกายรมตี เธอหันมามองใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ขณะที่สายตาแหลมคมก็จ้องมองใบหน้างดงามไม่วางตา แสนสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายหอมละมุนของคนตรงหน้า ชายหนุ่มไม่เคยคิดเลยว่าตนจะรู้สึกเสน่หาผู้หญิงคนไหนอย่างง่ายดายเช่นนี้ และตอนนี้ก็ยังรับรู้ได้ถึงความเป็นชายในร่างกายนั้นกำลังผิดปกติอีกด้วย หรือความจริงแล้วอาจเป็นเพราะว่ารมตีสวยมากเกินไปจนยากจะละสายตา หรือที่รู้สึกเช่นนี้เพียงเพราะว่าแสนห่างหายการมีเซ็กซ์มานานเกือบสองปี เขาคิดฟุ้งซ่านจนตอนนี้ลืมเรื่องที่ว่าหญิงสาวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของบิดาไปชั่วขณะ "นี่คุณ...ได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า ให้ฉันกลับลงไปนอนข้างล่างเถอะนะ" เธอเอ่ยขออีกครั้ง และยังนึกไปถึงผู้หญิงในรูปภาพนั้น หากหล่อนเป็นคนรักของพ่อเลี้ยงแสนจริง หล่อนคงไม่ชอบที่มีผู้หญิงคนอื่นมานอนในห้องกับคนรักของตนเอง "ไม่" ทว่าชายหนุ่มกลับตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดคำเดียว "นี่คุณ! ทำไมล่ะ?" เสียงเล็กโวยวาย "เพราะเธอต้องให้คำตอบฉันก่อนว่าใครที่ขายที่ดินให้กับเธอ" "นี่คุณมั่นใจขนาดนั้นเหรอว่าคนที่ขายที่ดินให้ฉันเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคุณพ่อคุณ" "ฉันไม่ได้มั่นใจหรอก แต่ฉันพยายามที่จะหาเบาะแสให้ได้มากที่สุด อาจจะเกี่ยวหรือว่าไม่เกี่ยวก็ได้ แต่ฉันจะไม่ยอมทิ้งหลักฐานอันน้อยนิดเป็นแน่" แสนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และยังจ้องมองรมตีด้วยแววตาที่มุ่งมั่น "แต่ที่แน่ๆ มันไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะฉันเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้เมื่อวาน ใครบางคนให้ฉันมาเป็นของขวัญวันเรียนจบ" "แล้วใครบางคนที่ว่าคือใครกันล่ะ บอกฉันได้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร?" "เอ่อ...ฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกคุณหรอก" "หึ! ของที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้คงจะเป็นพ่อแม่หรือญาติพี่น้องใช่หรือเปล่า ฉันว่าเธอตั้งใจปิดบังฉันเพราะรู้ว่ามันมีอะไรมากกว่านี้ เธอรู้ใช่หรือเปล่าว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อฉัน?" พ่อเลี้ยงแสนคาดหวังคำตอบจากรมตีเป็นอย่างมาก ทว่าหญิงสาวกลับเอาแต่จ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาตัดพ้อ เพราะถึงอย่างไรตนก็จะไม่มีวันยอมบอกอะไรจนกว่าจะได้คุยกับบิดา "ฉันขอคุยกับคนในครอบครัวของฉันก่อนไม่ได้เหรอ?" "โทรคุยน่ะเหรอ?" "ใช่" แสนครุ่นคิดในใจ แล้วจึงพยักหน้าเล็กน้อยแม้จะไม่เห็นด้วย "ก็ได้ แต่ต้องคุยต่อหน้าฉัน และห้ามบอกว่าเธอถูกจับไว้ที่บ้านของฉัน" เขาเกรงว่ารมตีจะวางแผนหนี "มากเกินไปหรือเปล่าคุณ" "แล้วก็ต้องใช้โทรศัพท์ของฉันโทรด้วย จำเบอร์โทรได้หรือเปล่า?" "นี่คุณ แล้วความเป็นส่วนตัวของฉันอยู่ที่ไหนไม่ทราบ?" "เธอไม่มี" เขาตอบหน้าตาเฉย และยังหมายความตามที่พูดจริงๆ "ฉันจะใช้โทรศัพท์ของฉัน แล้วฉันก็จะคุยกับคนในครอบครัวของฉันเป็นการส่วนตัวโดยที่ไม่มีคุณยืนฟังนั่งฟังหรือว่าแอบฟัง" "เรื่องมากนักก็ไม่ต้องโทร!" พ่อเลี้ยงแสนพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด จากนั้นเขาจึงลุกเดินไปยังเตียงนอน รมตีไม่คิดว่าชายหนุ่มจะโกรธง่ายเช่นนี้ ร่างเล็กลุกขึ้นและเดินตามชายหนุ่มไป "ก็ได้ ใช้โทรศัพท์คุณก็ได้ เอามาสิ" เธอแบมือขอโทรศัพท์ ทว่าพ่อเลี้ยงแสนกับรั้งข้อมือเล็กเข้าหาลำตัวจนร่างบอบบางเสียหลักล้มลงบนเตียง "อ๊าย! คนบ้า ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย?" รมตีโวยวาย ขณะที่ชายหนุ่มยังคงกุมข้อมือเล็กของเธอไว้เช่นนั้น "อย่าคิดที่จะหาเรื่องโกหกคนอย่างฉัน" แสนกัดฟันพูดราวกับกำลังข่มอารมณ์ความโกรธอยู่ รมตีไม่รู้ว่าควรจะหาคำพูดไหนมาคุยกับคนไร้เหตุผลเช่นนี้ "ก็ได้ ฉันไม่โทรหาใครก็ได้ แล้วคุณก็ไม่ต้องมาถามฉันเรื่องที่ดินกับฉันอีกก็แล้วกัน" รมตีเองก็ยังไม่อยากคุยเรื่องนี้มากนัก เธอพูดเท่านั้นแล้วจึงสะบัดหน้าหนีชายหนุ่ม "เธอนี่มันดื้อเกินกว่าที่ฉันคิดอีกนะ จะปากแข็งไปถึงไหนกัน?" "คุณนั่นแหละที่ไร้เหตุผล ถ้าอยากจะจับฉันขังไว้ในบ้านของคุณก็เชิญตามสบายเลยนะ จากนี้ไปฉันจะไม่พูดเรื่องที่ดินกับคุณอีก" รมตีเหนื่อยหน่ายที่จะต่อรอง และหากต้องทำงานเป็นสาวใช้ในบ้านหลังนี้สักพักก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรมากนัก เธอจะถือเป็นประสบการณ์ใหม่หลังจากที่เรียนจบมา และจะถือว่างานนี้เป็นงานแรกในชีวิตอีกด้วย "ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ รมตี" "ไม่ต้องทำ พรุ่งนี้ฉันจะเริ่มงานแล้ว แต่คุณจะต้องจ่ายเงินเดือนให้ฉันด้วย อีกอย่างถ้าคุณไม่อยากให้คนเขานินทาว่าเอาสาวใช้ขึ้นมานอนในห้องเจ้านาย งั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ ง่วงจะแย่อยู่แล้ว" พูดแล้วรมตีจึงทิ้งตัวนอนลงบนฟูกนุ่มของพ่อเลี้ยงแสน แม้ในใจจะรู้สึกหวาดกลัวว่าชายหนุ่มจะปลุกปล้ำตน แต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือเพื่อให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้กลัวใคร "เธอจะยังนอนตอนนี้ไม่ได้ เธอต้องลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อน" แสนบอก แล้วเขายังขยับกายกำยำขึ้นมาคร่อมร่างเล็กไว้ ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน รมตีนอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับและยังไม่กล้าเถียงแม้แต่คำเดียว เธอได้แต่กล่าวโทษตัวเองใจในใจที่คิดผิดกล้าท้าทายคนป่าเถื่อนเช่นพ่อเลี้ยงแสน "อ้อ...แล้วคืนนี้ฉันจะทำให้เธอยอมพูดความจริงออกมาให้ได้เลย คอยดูเถอะ" เขาเพียงแค่ขู่ และยังแกล้งทำสีหน้าเป็นผู้ชายหื่นกระหาย รมตีแทบอยากจะหายตัวไปเสียให้ได้ในวินาทีนี้ "ฉัน เอ่อ...ฉันจะลุกไปอาบน้ำ คุณ...คุณถอยออกมาได้แล้ว" เธอพูดเสียงตะกุกตะกัก หายใจยังแทบไม่ทั่วท้อง "แต่ถ้าหลังจากที่ฉันกับเธอทำทุกอย่างแล้ว..." แสนพูดพลันหลุบเปลือกตาต่ำลงมองหน้าอกของรมตีที่เกือบจะแนบชิดกับแผงอกกำยำของเขา เป็นการสื่อความหมายในสิ่งที่กำลังพูดถึง "พ่อเลี้ยงแสน ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ!" รมตีเบือนหน้าหนีเป็นการหลบสายตาร้อนแรงของชายหนุ่ม "ไม่ถอย ถ้าเธอก็ยังไม่ยอมพูดความจริง เธอรู้ใช่หรือเปล่าว่าฉันจะสืบเองจนกว่าจะรู้ว่าใครคือคนที่ซื้อที่ดินผืนนี้ให้กับเธอ?" แสนโน้มลงมากระซิบถามใกล้ใบหูเล็ก รมตีขนลุกไปทั้งตัว ใบหน้าสวยรับรู้ได้ถึงความร้อนผะผ่าวราวกับเปลวเพลิงกำลังแผดเผา "นี่คุณ คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าตัวเองอาจจะกำลังตามคนร้ายผิดตัว..." "เดี๋ยวก็ได้รู้" รมตีเลือกที่จะไม่โต้เถียงจนทำให้พ่อเลี้ยงแสนโกรธมากกว่านี้ เพราะความจริงเธอก็เห็นใจเรื่องที่บิดาของเขาถูกฆาตกรรม แต่การที่ชายหนุ่มตามสืบเช่นนี้มันไม่ยุติธรรมกับคนที่ไม่มีส่วนรู้เห็นเลย "ถึงเวลาฉันจะพูดความจริงกับคุณเองนั่นแหละ ตอนนี้ทำตัวให้ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือยังไง?" แสนขมวดคิ้วยุ่ง แต่คำพูดของหญิงสาวก็ทำให้เขายอมขยับกายออก ร่างกำยำทิ้งตัวนอนลงบนเตียงฝั่งของตนเช่นเดิม รมตีจึงรีบลุกขึ้นและก้าวขาลงจากเตียงนอน หญิงสาวจ้องมองใบหน้าคมคายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูและเสื้อผ้าตัวใหญ่ของพ่อเลี้ยงแสน จากนั้นร่างเล็กจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนอนหนุนท่อนแขนจ้องมองเพดาน พลันคิดหาสาเหตุความร้อนรุ่มในร่างกายที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในตอนนี้ "บ้าชะมัด!" พ่อเลี้ยงแสนสบถเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัว เขาหันมองไปยังประตูห้องน้ำ หัวสมองจินตนาการไปไกลแสนไกล จากนั้นร่างกำยำจึงลุกขึ้นนั่ง และพยายามข่มอารมณ์ความโหยหาอันบ้าคลั่งนี้ "บ้าจริง! ทำไมถึงได้รู้สึกอะไรแบบนี้วะ?" "หรือเพราะไม่ได้นานเฉยๆ" เขาพึมพำ พยายามตัดขาดความคิดฟุ้งซ่านนี้ออกไปจากสมองแต่กลับทำไม่ได้ พ่อเลี้ยงแสนชะเง้อมองไปยังประตูห้องน้ำด้วยอารมณ์ที่แปรปรวนและสับสน เขาไม่รู้ว่าเมื่อรมตีเดินออกมาจะควบคุมอารมณ์โหยหาบ้าคลั่งนี้อย่างไร หรือว่าควรจะปล่อยให้หญิงสาวกลับไปนอนที่ห้องเดิมของเธอ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD