เทียนอี้ใช้เวลาพูดคุยพบปะแขกเหรื่อในงานได้ไม่นาน เขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยขอตัวลากับเจ้าของงานอย่างนาวา พร้อมกับลากพิมรักขึ้นรถด้วยท่าทีฉุนเฉียวไม่น้อย ร่างบางที่ถูกฉุดกระชากชักสีหน้าใส่ พอถูกโยนเข้ามาในรถก็พลิกดูข้อมือที่ขึ้นรอยแดง “คุณอารมณ์เสียอะไรคะ ทำไมถึงมาลงกับฉัน” พิมรักต่อว่าทันทีที่ร่างสูงขึ้นมาบนรถแล้วเรียบร้อย “คราวหลังอย่าไปเสวนากับพวกตระกูลจินอีก” “ทำไมจะไม่ได้คะ เขาดูไม่ใช่คนเลวร้ายสักหน่อย” “ไม่กลัวตายเหรอ ไว้ใจคนง่ายจังนะคุณหมอ” น้ำเสียงเชิงตำหนิทำให้พิมรักเริ่มไม่สบอารมณ์ สายตาที่มองมาอย่างคาดโทษเหมือนเธอทำอะไรผิด กระตุ้นต่อมอารมณ์ฉุนเฉียวของคุณหมอเช่นเดียวกัน ทีเขายังสนิทกับเพื่อนรักออกหน้าออกตาเลย.. นี่แค่เจอหน้ากันประปรายไม่ได้สนิทกันสักหน่อย “ฉันยังหลับนอนกับคนที่เจอกันไม่ถึงเดือนเลย คนอื่นฉันก็คงไม่ต้องกังวลอะไรขนาดนั้นหรอกมั้ง” “แปลว่าเธอก็ไม่เชื่อใจฉันเหมือนกันเห