ตอนที่ 6
ข้อตกลงของอัครเรช
“ต้องไม่มีงานแต่งงานของแป้งเกิดขึ้นเด็ดขาด”
“วะ..ว่าไงนะ”
โอภาสเอ่ยขึ้นแทบจะทันที มันอะไรกันเนี่ย ตั้งแต่ไอ้หนุ่มหน้าหล่อคมคนนี้เดินเข้ามาในบ้าน ทุกคนก็ดูกุลีกุจอ และมองเหมือนเขาเป็นหัวหลักหัวตอ และยังต้องมาฟังประโยคบ้าบอที่เขาไม่อยากจะได้ยินเสียด้วย
“นี่คือข้อเสนอของข้อตกลงของผมนะครับ” อัครเรชเอ่ยต่อเสียงราบเรียบ ไม่ใส่ใจคำอุทานของโอภาสแม้แต่น้อย
“วิโรทัยหากจะฟื้นได้ ต้องใช้เงินราวเกือบห้าร้อยล้านบาท ถึงจะไม่ถูกดึงสินทรัพย์ขายทอดตลาดและฟ้องล้มละลาย ทรัพย์สินรวมทั้งหมดที่มีตอนนี้ไม่น่าเกินหกสิบล้านบาท แค่จ่ายดอกเบี้ยก็ไม่น่าจะพอแล้วนะครับ”
คำบอกของเขาที่เหมือนสืบข้อมูลมาอย่างดีนั้น ทำให้ทุกคนในห้องอาหารนั่งนิ่ง เพราะที่ปีศาจน้ำแข็งสืบมานั้นเป็นจริงทุกอย่าง
โดยที่ โอภาสเองก็เพิ่งจะทราบเหมือนกัน
“เฮียเจียงแน่ใจเหรอครับ ว่าถ้าให้ลูกสาวแต่งงานกับศรีพิพัฒน์แล้ว ฝ่ายนั้นจะยอมทุ่มเงินขนาดนี้เพื่อมาอุดธุรกิจที่ไม่รู้ว่าจะไปรอดหรือเปล่า”
อัครเรชเอ่ยต่อ นั่นทำให้ศรัญญารู้สึกหน้าชา มองสบตาบิดาที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนโดนจี้ใจดำอย่างแรง ..เขาพูดถูก หากทางศรีพิพัฒน์ทราบก็คงไม่ยอมช่วยขนาดนี้แน่นอน
“อีกอย่าง” เขาเอ่ยต่อ “คุณโอมเองเพิ่งจะเรียนจบมาไม่มีทักษะในการบริหารเลยแน่ใจได้ยังไงว่าจะไม่พาวิโรทัยจมลงไปยิ่งกว่าเดิม” คำบอกของเขาทำให้ โอภาส กัดฟันนิ่งทั้งที่คนพูดก็อายุไม่ต่างกันมาก
แต่ทำไมดูทรงพลัง และน่าเกรงขามยิ่ง
“นี่คือข้อเสนอของผมนะครับ”
อัครเรชขยับโต๊ะลุกขึ้น หรี่ตามองคนข้างกายเล็กน้อย
“ผมอิ่มแล้วครับ ต้องขอตัวก่อน”
ปากหยักได้รูปเอ่ยต่อ เหมือนในห้องนี้จะมีเพียงเขาที่พูดอยู่คนเดียว “ผมมีเวลาให้แค่ถึงพรุ่งนี้นะครับ ถ้าตกลงก็ติดต่อไป หลังจากนี้ผมจะไม่รับพิจารณา”
ปีศาจน้ำแข็งเอ่ยเสียงราบเรียบก่อนจะเดินออกนอกห้อง
“อ้อ”
เขาชะงักเล็กน้อยก่อนพ้นประตูห้อง หันหลังกลับมาสบตาคนบนโต๊ะก่อนจะเอ่ยว่า
“วันนี้อาหารอร่อยมากครับ ขอบคุณมาก”
นี่มันปีศาจชัดๆ
.
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” โอภาสเอ่ยเบาๆ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างของอัครเรช พ้นประตูไป
วันนี้เขารู้สึกสับสน สูญเสียความมั่นใจ
และเหมือนกำลังจะเสียร่างงามที่เขาหมายมั่นไว้ในใจมาแสนนาน เมื่อเห็นสีหน้าของจีรวัตร บิดาของหญิงสาวที่เขาหมายปอง เพราะหากเรื่องเป็นเช่นดังที่ อัครเรชบอก ไม่มีทางที่ครอบครัวเขาจะเห็นด้วยแน่นอน
เขาเองมีอำนาจในศรีพิพัฒน์เพียงน้อยนิด
แค่คิด โอภาส ก็รู้สึกต่ำต้อยในใจ ยิ่งเห็นท่าทางที่น่าเกรงขามและเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจของอีกฝ่ายแล้ว ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่เด็กประถมเท่านั้น
“ผมขอโทษคุณโอมด้วยนะครับ”
จีรวัตรกล่าวอย่างกระอักกระอ่วนใจ แต่โอภาสไม่สนใจในคำนั้น เขาลุกและเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ด้วยไม่อยากจะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป
ศรีกัลยา มองตามหลังร่างนั้นไปด้วยความรู้สึกสับสน
ทุกคนต่างมีคำตอบในตัวเอง และรู้ว่าต้องเลือกทางไหน จึงจะเหมาะสมและนำพาธุรกิจของครอบครัวไปรอดได้
คงจะต้องทำตามข้อเสนอของ อัครเรชเท่านั้น
.
.
ข้อตกลงสัญญาเทคโอเวอร์ถูกเซ็นในเช้าวันรุ่งขึ้น และคนของสิริวัฒนาก็เอาเอกสารสัญญามาให้ที่ออฟฟิศของวิโรทัย โดยแจ้งว่าตอนนี้ อัครเรช บินไปเยอรมันตั้งแต่คืนนั้น และให้ดำเนินต่อได้เลย
ศรัญญาอ่านเอกสารหนาปึกเพียงผ่านๆ ก่อนที่จะจรดปากกาเซ็นสัญญาในเอกสาร อย่างน้อยเธอก็สบายใจ ที่ตอนนี้ไม่ต้องพะวงกับพันธะสัญญาเรื่องการแต่งงานอีกต่อไป
แม้คำพูดกึ่งดูถูกของเขาในห้องอาหารวันนั้น ที่เหมือนพ่อของเธอจะเอาลูกสาว เร่แต่งงานเพื่อหาเงินมาอุดหนี้ก็ตาม
เขาพูดก็ถูก ตอนนี้ครอบครัวเธอเหมือนไม่มีศักดิ์ศรี
มีแค่เปลือกจอมปลอม ไว้หลอกคนในสังคมว่าเป็นผู้ดีจากชาติตระกูลเก่าแก่ แต่หนี้สินรุงรังจนแทบจะเอาตัวไม่รอด และป่านนี้คนของศรีพิพัฒน์ก็คงจะขยาดไปพอสมควร
เมื่อเดินออกมาด้านหน้า ศรัญญา ก็พบว่าคนของศรีพิพัฒน์มาปรับเปลี่ยนโลโก้ด้านหน้า และแจ้งว่าห้องฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องทำงานของ อัครเรช ที่อาจจะเข้ามาตรวจงานเดือนละครั้ง และคนจัดห้องและปรับปรุงสำนักงานใหม่
เข้าเดือนละครั้ง ต้องปรับโฉมขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
.
.
“คุณแป้งคะ คุณโอมมาขอพบค่ะ”
เลขาหน้าห้องเอ่ยขึ้นในวันต่อมา ขณะที่ศรัญญากำลังนั่งใส่ใจกับเอกสารรายงานจากฝ่ายขาย
คุณโอมงั้นเหรอ ...
“ให้เข้ามาได้เลย ขอบใจนะจิณ”
ศรัญญา บอกเลขาคนสนิท เลื่อนแฟ้มงานไปด้านข้าง เมื่อร่างสูงเพรียวหน้าตี๋ของ โอภาส เดินเข้ามาในห้อง ดวงตาเขามีแววอ้อนล้าและอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อบิดาของเธอได้เข้าไปขอโทษคุณหญิงด้วยตัวเอง เมื่อสองวันก่อน และทางศรีพิพัฒน์เองก็เหมือนจะเห็นด้วยกับการยกเลิกงานหมั้นในครั้งนี้
“แป้งครับ”
โอภาส ย่อกายลงนั่งบนเก้าอี้ถอนหายใจเล็กน้อย เมื่อมองหน้าสวยของศรัญญา หลายวันที่ผ่านมาเขาสับสนเลยไม่กล้าจะติดต่อเธอมา แต่ก็ทนเก็บกดความรู้สึกตัวเองไม่ได้
เขาอยากมาเจอหน้าเธอ อยากพบอยากคุย
“พี่โอมค่ะ แป้งขอโทษแทนครอบครัวด้วยนะคะ หวังว่าพี่โอมจะเข้าใจ” ศรัญญาลุกจากเก้าอี้ทำงาน มานั่งตรงโซฟารับรองแขกตรงข้ามกับเขา มองตาละห้อยนั้นอย่างเห็นใจ
จริงๆ เขาเป็นรุ่นพี่ที่ดีคนหนึ่ง
“พี่เข้าใจครับ”
โอภาสถอนหายใจ หยิบถ้วยชาที่แม่บ้านนำมาวางให้บนโต๊ะขึ้นมาจิบ มองหน้าสวยที่แต่งเติมอย่างปราณีตนิ่งอย่างหลงไหล
“พี่เองก็พยายามจะอธิบายให้ที่บ้านเข้าใจ ถ้าอย่างไงงานของเราเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนดก็ได้ ให้แป้งเคลียร์ตัวเองและทำวิโรทัยให้ดีขึ้นก่อน”
โอภาสเอ่ยเบาๆ แม้จะดูเห็นแก่ตัวที่จะปล่อยให้เธอสู้อยู่คนเดียวในการดึงธุรกิจขึ้นมาก็ตาม เพราะเขาคงทำได้แค่นี้
“พี่โอมคะ แป้งว่าอย่ามาเสียเวลากับแป้งเลยค่ะ”
ศรัญญาเอ่ยเสียงราบเรียบ สบตาคนตรงหน้านิ่ง เธอรู้ดีว่าตลอดที่ผ่านมา รุ่นพี่คนนี้มีความปรารถนาดีต่อเธอมาตลอด แต่ไม่ว่าอย่างไรความรู้สึกที่อยากจะแต่งงานกับเขาก็ไม่เคยมีแม้แต่น้อย
“แป้ง อย่าพูดแบบนั้น อย่าเพิ่งผลักใสพี่”
โอภาสขยับกาย เข้ามาใกล้ดึงมือนุ่มนิ่มมาจับ มองหน้าสวยตรงหน้าด้วยสายตาละห้อย ก่อนจะเอ่ยว่า
“พี่รักแป้งนะครับ”
***************************