ความหวังของแป้ง

1309 Words
ตอนที่ 5 ความหวังของแป้ง ความหวังจากปีศาจน้ำแข็ง คงจะไม่มีโอกาสแล้ว เมื่อเวลาผ่านมาจะสิ้นสุดสองวันตามที่เขาบอก ศรัญญาเข้าใจ คนอย่างอัครเรช ผู้เจอะเจอสารพัดคนรอบข้างที่ล้วนจ้องจะตักตวงผลประโยชน์จากเขาที่บริหารจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวหลังจากประมุขสูงสุดของสิริวัฒนาจากไปอย่างกระทันหัน เขาคงต้องคิดและพิจารณาทุกอย่างให้รอบคอบ และหากอันใดที่ไม่สร้างผลประโยชน์ให้เขาแล้ว ก็คงจะยากที่เขาจะรับข้อเสนอของศรัญญาง่ายๆ “เชิญครับ คุณโอม คุณหญิงแก้วสบายดีนะครับ” จีรวัตร บิดาของเธอเอ่ยต้อนรับอย่างกุลีกุจอ ขยับเก้าอี้ให้ทายาทของศรีพิพัฒน์นั่ง มารดาของเธอโบกมือให้สาวใช้นำอาหารออกมาเสริฟ โดยวันนี้มารดาและพี่สาวของเธอเข้าควบคุมการทำอาหารมือเย็นเพื่อต้อนรับ ว่าที่ลูกเขย เองอย่างขะมักเขม้น “ช่วงนี้คุณหญิงค่อนข้างยุ่งงานของมูลนิธิครับ ผมเลยมาคนเดียว อยากจะทานมื้อเย็นกับน้องแป้ง” โอภาสตอบอย่างสุภาพ หันมามองร่างบางของศรัญญาที่กำลังเลื่อนเก้าอี้และนั่งลงข้างๆ ด้วยรอยยิ้มละไม ทำให้บิดาและมารดาของเธออมยิ้มและสบตากันอยู่ห่างๆ ศรัญญายิ้มรับเล็กน้อยอย่างเสียไม่ได้ มองกริยาที่พ่อกับแม่และพี่สาวเธอชวนโอภาสคุย อย่างเป็นกันเอง แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกว่าบรรยากาศบนโต๊ะค่อนข้างจะเป็นทางการอยู่ดี ครอบครัวมารดาของศรัญญามีเชื้อสายตระกูลเก่าแก่ที่ค่อนข้างจะรักษาหน้าตาและกริยามารยาท และบางครั้งก็สร้างความอึดอัดให้เธอพอสมควร “ผมอยากจะมาคุยเรื่องการหมั้นหมายไว้คร่าวๆก่อนครับ อยากถามความพร้อมของน้องแป้งก่อน และถ้าได้ข้อสรุปชัดเจนอย่างไร คุณหญิงแม่จะเข้ามาคุยอย่างเป็นทางการอีกที” คำบอกของโอภาส ทำให้มือที่กำลังจับช้อนของศรัญญาชะงัก จำต้องเงยหน้ามองด้านข้างเขาอย่างกระอักกระอ่วน “ช่วงนี้แป้งยังไม่พร้อม..” “ได้เลยครับคุณโอม ผมเองก็อยากให้ยายแป้งเป็นฝั่งเป็นฝาเร็วที่สุด จะได้สบายใจสักที” บิดาเธอรีบเอ่ยตัดบท ศรัญญาหน้าเสียเล็กน้อย ไม่ต่างจากพี่สาวของเธอ “งั้นผมให้ที่บ้านจะหาฤกษ์หมั้นไว้ก่อนดีมั้ยครับ แล้วพรุ่งนี้ตอนเย็นผมจะมารับแป้งไปดูแหวนไว้ก่อน” โอภาสเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “พะ..พี่โอมคะ” ศรัญญาต้องการจะทัดทาน แต่เหมือนสายตาของพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจะถลึงตาห้ามปรามไว้ หญิงสาวจึงทำได้เพียงเหลือบมองพี่สาวที่มองมาด้วยความสับสนไม่แพ้กัน ทำไมพี่โอม ไม่ชอบพี่ปลานะ ...ศรัญญาคิดในใจ บรรยากาศบนโต๊ะโดยรวมเป็นไปอย่างชื่นมื่น ทั้งความสดชื่นของเจ้าของบ้านทั้งสอง และความอบอุ่นใส่ใจของโอภาสที่หันมาสบตาและดูแลศรัญญาประดุจเธอเป็นเจ้าหญิง จริงๆแล้วเขาก็สุภาพและดูอบอุ่นดีนะ แต่ทำไมศรัญญาถึงไม่รู้สึกร้อนรุ่มและวาบหวาม หรือตอนอยู่กับอีกคน ที่แม้เพียงมองสบตาของเขา ขนกายในตัวก็ขนลุกชูชันทั้งร่าง คนผู้นั้นคงมีเวทย์มนต์อะไรสักอย่าง ที่ร่ายใส่เธอแน่นอน . สักพักคนรับใช้ในบ้านมากระซิบบอกบิดาของเธอที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ และทำให้ใบหน้าของจีรวัตร ตึงเครียดขึ้นเล็กน้อยด้วยความฉงน “คุณเรช มางั้นรึ” จีรวัตร วางช้อนลงมองหน้าภรรยาและ โอภาส ว่าที่ลูกเขยที่นั่งตรงหน้าอย่างสับสน ด้วยไม่คิดว่าคนอย่าง อัครเรซ ทายาทสิริวัฒนาเศรษฐีอันดับต้นๆของประเทศจะมาในเวลานี้ “มีอะไรเหรอครับ” โอภาสเอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าของบ้าน แม้คำพูดของอีกฝ่ายจะชัดเจนอยู่แล้ว แต่หน้าตี๋ก็ยังฉงนอยู่ดี ไม่มีใครไม่รู้จัก อัครเรช ชายหนุ่มเจ้าของสิริวัฒนาผู้ที่รับช่วงต่อจากบิดาด้วยอายุเพียงยี่สิบห้าปีเศษ แต่จบปริญาเอกห้าใบจากหลายแขนงวิชา และยังบริหารจัดการเด็ดขาดจนได้สัญญาสัมปทานปิโตรเลียมและเครือข่ายสื่อสารหลายสัญญา “ไม่แน่ใจว่าจะมาคุยเรื่องอะไร คุณโอมทานไปก่อนได้เลยครับ ขอโทษทีที่ผมเสียมารยาท” จีรวัตร เอ่ยอย่างลำบากใจ เตรียมขยับเก้าอี้ลุกเพื่อไปรับรองเจ้าของสิริวัฒนาอีกห้อง แต่ไม่ทันที่จะลุกขึ้น ร่างสูงโปร่งลูกครึ่งก็เดินเข้ามา “คะ..คุณเรช” ศรัญญาอุทาน เมื่อสบตาคู่สีมรกตเข้มจากใบหน้าหล่อเหลาคมคายของ อัครเรช ที่ปรี่เข้ามาในบ้านเธออย่างถือวิสาละ ทุกคนในโต๊ะอาหารลุกขึ้นแทบจะพร้อมกัน “สวัสดีครับ เฮียเจียง” อัครเรชเอ่ยทักทาย ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะหรี่ตามองร่างบางในชุดสีชมพูอ่อนที่นั่งเคียงข้างกับหนุ่มหน้าตี๋ทายาทของศรีพิพัฒน์ด้วยแววตาลุ่มลึก ยากจะคาดเดา “อะ...เอ่อ คุณเรช ขออภัยด้วยครับ พวกเราไม่ได้เตรียมอะไรล่วงหน้าเลยไม่ทราบว่าจะมา” จีรวัตรบอกตะกุกตะกัก เป็นครั้งแรกที่ศรัญญาเห็นบิดาตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก “ไม่เป็นไรครับ กำลังทานมื้อเย็นใช่มั้ยผมขอทานด้วย” ร่างสูงโปร่งขยับเก้าอี้และนั่งลงข้างศรัญญา อย่างถือวิสาละ ทุกคนได้แต่มองหน้ากัน ก่อนที่มารดาของเธอจะโบกมือให้เด็กรับใช้นำชุดจานช้อมส้อมมาวางให้แขกตรงหน้า ศรัญญานั่งอย่างอึดอัด ระหว่างชายทั้งสอง ฝั่งซ้ายคือโอภาส ศรีพิพัฒน์ ฝั่งขวาคือ อัครเรช สิริวัฒนา วันนี้เกิดอาเภทอะไรกัน ....หญิงสาว คิดในใจ “ผมมาที่นี่ตามสัญญาครับ” ปากหยักได้รูปเอ่ยขึ้น เมื่อชุดรับประทานอาหารอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาบรรจงหยิบอย่างเบามือและตักอาหารบนโต๊ะอย่างละเมียดละไมเหมือนถูกอบรมมาอย่างดี การปรากฏตัวของขาบนโต๊ะอาหารที่บ้านวิโรทัยครั้งนี้ ทำให้ทุกคนบนโต๊ะนิ่งเหมือนไม่กล้าจะกล่าวอะไรออกไป แม้แต่โอภาสเองก็เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ “คะ ..คุณเรชคะ” ศรัญญาเริ่มตะกุกตะกัก มองหน้าคมคายที่ยังใส่ใจกับอาหารตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย ต่างจากทุกคนบนโต๊ะที่เลิ่กลักและมองหน้ากันโดยไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา แต่ทุกคนก็ต่างจับจ้องหน้าหล่อเหลาตรงหน้า ว่าการมาบ้านวิโรทัยในครั้งนี้ มีจุดประสงค์ใดกัน “เกี่ยวกับเรื่องข้อเสนอ การเทคโอเวอร์ของวิโรทัย” อัครเรชเอ่ยเสียงราบเรียบ หยิบผ้าขาวมาซับปากเล็กน้อย เหลือบมองหน้าสวยที่นั่งข้างๆและจีรวัตรเจ้าของบ้าน ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “ผมตกลงในข้อเสนอนั้นครับ” คำบอกของเขานั้น ไม่เพียงแต่ศรัญญาเท่านั้นที่ลิงโลด แต่ทำให้ทุกคนบนโต๊ะชะงักและตาวาวเช่นกัน โดยเฉพาะจีรวัตร บิดาของเธอ “จะ ...จริงเหรอครับคุณเรช” จีรวัตรเอ่ยเสียงสั่น การรับข้อเสนอนี้ถือว่าวิโรทัยจะผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน “ครับ ผมจะระดมทุนเพิ่มใส่ในวิโรทัยจนจะหายติดลบ” อัครเรชพยักหน้า ขยับต้นขาเบียดชิดกับร่างนุ่มนิ่มข้างๆจนศรัญญารู้สึกร้อนผ่าว เหมือนโดนก้อนไฟขนาดใหญ่ขนาบไว้ใกล้ตัว “แต่มีข้อแม้” ชายหนุ่มลูกครึ่ง ถอนหายใจเล็กน้อย วางช้อนส้อมในมือลง และเอ่ยต่อว่า “ต้องให้แป้งเป็นคนบริหารจัดการถือหุ้นเกินหกสิบเปอร์เซ็นต์ และ...” เขาหยุดพูดเล็กน้อย “ต้องไม่มีงานแต่งงานของแป้งเกิดขึ้นเด็ดขาด”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD