ตอนที่ 11

2970 Words
  ณ คฤหาสน์สุดหรูของมาเฟียอันดับ 1  ผมคิดไม่ตกจริงๆ ว่าทำไมถึงไม่มีข้อมูลอะไรเลยที่จะดูเหมือนว่ายายแก่นั่นจะไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการนักเลงหรือมาเฟียอย่างที่ผมกำลังดำรงตำแหน่งอยู่ตอนนี้ กลับมีเพียงข้อมูลตามทะเบียนราษฎร์เท่านั้นมันยิ่งน่าแปลกไปใหญ่ ที่คนแก่ธรรมดาคนหนึ่งจะมีฝีมือด้านการต่อสู้ที่ร้ายกาจขนาดนั้น สำหรับผมแล้วเพียงแค่มือเปล่าข้างเดียวก็สามารถฆ่าคนได้แต่สำหรับยายแก่นั่นอาจจะแค่กระดิกนิ้วคนก็อาจตายได้ ผมยิ่งคิดยิ่งปวดหัวไม่รู้จะไปหาเบาะแสข้อมูลว่าแท้ที่จริงแล้วอีแก่คนนั้นมันเป็นใครกันแน่ หลังจากที่ผมดูเอกสารข้อมูลที่ลูกน้องคนสนิทหามาได้เมื่ออาทิตย์ก่อนนี่ก็ปาไปเกือบอาทิตย์กว่าจะได้ข้อมูลมา  “มันน่าโมโหนัก ขนาดฉันใช้เส้นสายเพื่อสืบหาข้อมูลอีแก่ที่กล้าลองดีกับฉันแทบจะสืบหาจาก DNA แต่กลับไม่พบข้อมูลอะไรเลย เบื่อโว้ย!”  ผมหัวร้อนอยู่คนเดียวภายในห้องทำงานด้วยความไม่เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเรื่องอีแก่นั้นท้ายที่สุดก็หาคำตอบไม่ได้ จู่ๆ ผมก็คิดอะไรได้ขึ้นมาอย่างหนึ่ง  “ถ้าฉันหาข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐไม่ได้ มันก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะหาข้อมูลจากคนในครอบครัวมันไม่ได้นี่หว่า..”   จังหวะเดียวกันนั้นก็มีความคิดอีกด้านหนึ่งผุดขึ้นมากระทันหัน  “เดี๋ยว! แต่มึงอย่าลืมนะขนาดแค่อีแก่คนเดียว มันยังเล่นงานมึงซะเละขนาดนี้ มึงไม่คิดหรอว่าคนในครอบครัวของมันจะไม่ร้ายกว่ามันอีกหลายเท่า!”  ผมสะดุ้งเล็กน้อยกับความคิดที่โผล่ขึ้นมา มันก็เป็นไปได้ ถ้าเกิดเราไม่ระรานคนในครอบครัวของมันแล้วเกิดทุกคนในครอบครัวของมันหันกลับมาเล่นงานเรา เจ้าพ่อมาเฟียก็เจ้าพ่อมาเฟียเถอะ งานนี้ถึงขั้นตายได้เลยทีเดียว  “แต่ฉันไม่กลัวหรอกนะ พวกมันจะเก่งแค่ไหนเชียวถ้าเจอลูกปืนไปก็จอดทุกราย.. หึๆ”  “แต่มึงก็อย่าลืมอีกอย่างนะไอ้แม็ก ลูกปืนที่ว่าไวมันยังหลบหลีกได้เร็วกว่า แล้วมึงคิดหรอว่าคนในครอบครัวของมัน ที่ยังหนุ่ม ยังเด็กกว่า จะเอาชนะลูกปืนของมึงไม่ได้..”  ตอนนี้ความคิดของผมทั้ง 2 ด้านมันตีกันไปมั่วหมดจนผมไม่รู้จะฟังด้านไหนดีหรือไม่ฟังทั้งหมดเลยดี งานช้างแล้วทีนี้แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะล้มมันให้ได้ ผมจะไม่ยอมให้มันแก่ตายหรอกมันต้องตายและมากราบตีนร้องขอชีวิตจากผม (ฮ่าๆๆ…) ผมหัวเราะด้วยความสะใจแต่ก็ทำได้เพียงแค่ในใจ เรื่องจริงแล้วมันไม่ง่ายขนาดนั้นเลย คิดไปคิดมาอาการปวดหัวก็กลับมาอีกครั้งก่อนที่ผมจะตัดสินใจลุกขึ้นจากโซฟาตัวละแสนกว่าบาทเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เปิดไวน์ขวดที่เก่าแก่ที่มีมูลค่าแพงที่สุดเทใส่แก้วช้าๆ แล้วค่อยๆ ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มในสไตล์ผู้ดีเพื่อให้ลิ้นได้สัมผัสถึงรสชาติความละมุนและรสชาติของไวน์เก่าแก่ เพียงไม่นานอาการปวดหัวก็เริ่มดีขึ้นอย่างน่าใจหายโดยที่ผมไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดเลย    3 เดือนผ่านไป ณ สตูดิโอถ่ายแบบชื่อดังใจกลางกรุง  ผมนั่งเลื่อนโทรศัพท์มือถือไปมาเพื่อดูตารางงานของเสือในอีก 1 อาทิตย์ข้างหน้าอย่างตั้งหน้าตั้งตา เป็นเพราะผมเองที่อยากให้เขากลับมาทำงานที่เขารักอีกครั้งหลังจากที่หยุดงานไปเกือบ 3 อาทิตย์ในการดูแลผม   วันนี้เป็นวันครบรอบเวลา 4 เดือนที่เราตกลงเป็นแฟนกัน โดยผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเซอร์ไพรส์เขายังไงดีเนื่องจาก 3 เดือนแรก เสือจะเป็นฝ่ายเซอร์ไพรส์ผมตลอด แล้วผมก็อดที่จะมีน้ำตาไม่ได้ทุกครั้งที่เขาเซอร์ไพรส์ มันเป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนแม้แต่คุณแม็ก คนที่ผมเคยฝากชีวิตไว้กับเขาเพียงเพื่อให้เขารักและดูแลผมตลอดไป ทุกอย่างกลับตรงกันข้ามจึงเป็นเหตุผลทำให้ผมได้มาอยู่กับเสือจนถึงทุกวันนี้  ผมเข้าใจในงานของเสือ ที่วันๆ ต้องเปลือยกายให้ตากล้องลั่นชัตเตอร์บันทึกภาพเรือนกายของเขาเพื่อนำไปจำหน่ายเอาใจกลุ่ม l***q และกลุ่มที่รักงานศิลปะของร่างกายมนุษย์ บางครั้งเสือต้องถ่ายกับนายแบบคนอื่นด้วย แบบเนื้อแนบเนื้อ เซ็กซี่ หรือจนกระทั่งการร่วมเพศ ในส่วนการถ่ายแบบเซตสุดท้ายของการร่วมเพศนั้น เสือจะไม่ได้ร่วมเพศจริงๆ ใช้เพียงมุมกล้องเท่านั้น โดยเป็นเงื่อนไขข้อเดียวของเขาตั้งแต่มาอยู่ในอาชีพนี้ แต่ด้วยท่วงท่าลีลาในการโพสต์รวมถึงแอคติ้งจึงทำให้กลุ่มลูกค้าฟินได้แบบไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมากมาย จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะมีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบัน  “เหลืออีกไม่กี่ภาพก็เสร็จแล้วนะ หิวอะไรไหมเดี๋ยวเสือให้ทางทีมงานดูแลให้”  ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงในระหว่างที่กำลังดูตารางงานใกล้เสร็จแล้วเช่นกัน  “ไม่อ่ะ เรารอได้ นี่ก็เคลียร์ตารางงานใกล้เสร็จละ”  ระหว่างที่ผมกำลังบอกในสิ่งที่เขาถาม สายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับเจ้าเสือน้อย ที่กำลังดูคึกคักภายใต้กางเกงในลายตาข่ายสีขาวบาง ภาพที่ผมเห็นตรงหน้ามันส่งผลให้ผมกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่จนรู้สึกคอแห้งผาก  “มองอะไรเนี่ย!..”  ผมตกใจในน้ำเสียงของเขาราวกับว่า เสียงนั้นได้ช่วยชีวิตผมให้กลับมามีสติอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้ ใครมันจะไปทนได้ล่ะครับ มีแฟนทั้งหล่อ ทั้งหุ่นดี อาวุธคู่กายก็… ไม่พูดดีกว่า มันสุดๆ จริงๆ นะครับ ถึงใครจะว่าผมหื่นก็ว่าไปเถอะแต่ถ้าคุณได้มาอยู่ตรงนี้คุณจะรู้ว่า โอ้มายก๊อด!!…   “เปล่านี่ คือเรากำลังจะเก็บของพอดีเลย ถ่ายใกล้เสร็จแล้วใช่ไหมล่ะ จะกลับบ้านก่อนหรือว่า…”  ผมรีบตัดบทก่อนจะทำทีเก็บของใส่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างตัว แล้วไม่ลืมจะถามถึงที่หมายหลังจากที่เขาถ่ายงานเสร็จที่จะไปต่อ แต่ผมก็แอบทำสายตาอ้อนวอนเป็นนัยๆ ว่ากลับบ้านก่อนก็ดีนะ..   “กลับบ้านก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเสือไปถ่ายงานต่อก่อนนะใกล้จะเสร็จแล้ว”  แล้วในที่สุดความปรารถนาของผมก็เป็นจริง ที่เสือใหญ่จะพาเสือน้อยกลับไปที่บ้านให้ปีโป้น้อยของผมได้ตกเป็นเหยื่ออีกครั้ง สิ่งนี้อาจจะเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์วันครบรอบการคบกันของเราสองคนก็ได้    ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้  ป่านนี้เรื่องราวที่วุ่นวายคงจะสงบลงแล้วหรือเปล่าผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกคนคงจะตั้งหน้าตั้งตารอผมกลับไป ก็อย่างว่าล่ะครับเมื่อผมตัดสินใจที่จะกลายเป็นบุคคลสูญหาย ถึงจะกลับไปหรือไม่กลับไปก็ไม่มีผลอะไรกับคนไข้ตัวน้อยของผมแต่อย่างใด ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไงบ้าง ยังถูกทำร้ายเหมือนเดิมหรือเปล่า จะมีหมอที่ใจดีอีกทั้งเข้าใจเขาทุกเรื่องอย่างผมคอยดูแลอยู่ไหม ทุกวันที่ผันผ่านผมเฝ้าภาวนาให้เขาปลอดภัย มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข เมื่อคนต้นเหตุที่ทำให้เขาเดือดร้อนมาอยู่ที่นี้แล้วเขาคงจะปลอดภัยและสุขสบายดี  ผมนั่งเล่นอยู่จุดเดิมเช่นทุกวันแต่มันกลับไม่ทำให้ผมรู้สึกเบื่อเลย ผมยังคงกวาดสายตาไปโดยรอบ มองธรรมชาติอันแสนกว้างไกลไม่มีขอบเขต ลมพัดเฉื่อยต้องผิวกายเป็นระยะ มันรู้สึกสบายใจอย่างไรบอกไม่ถูก ขณะที่มือข้างถนัดของผมได้หยิบเอาก้อนหินก้อนเล็กๆ ขึ้นมาถือเล่น สัมผัสผิวเรียบของมันไปมาทั่วก้อนก่อนจะป่าไปด้านหน้าจนสุดแรงเกิดอยู่อย่างนั้นก้อนแล้วก้อนเล่า มันก็ทำให้ผมรู้สึกเพลินดีเหมือนกัน จะว่าไปการที่ผมมาอยู่ที่นี่มันก็ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ซึ่งเรื่องแรกที่ผมได้เรียนรู้คือ ชีวิตคนเราไม่ว่าจะรวยหรือจน สุดท้ายก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอเพียงมีอาหารให้กินพออิ่ม มีอากาศให้หายใจเพียงพอ มีที่ให้นอน เท่านี้จริงๆ ครับชีวิตของเรา   ผ่านมาก็หลายเดือนแล้วผมเองก็อดคิดถึงบ้านไม่ได้เหมือนกัน พ่อ แม่ ย่า รวมถึงเจ้าเสือ ทุกคนจะเป็นยังไงบ้างผมก็ไม่รู้เหมือนกัน พอคิดจะกลับไปก็อดเป็นห่วงคนไข้ตัวน้อยของผมอีก กลัวเขาจะถูกคนใจร้ายเข้าใจผิดแล้วใช้ความรุนแรงกับเขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าผมคิดผิดหรือคิดถูกที่เป็นห่วงคนอื่นมากกว่าคนในครอบครัวของตัวเองแบบนี้ บางครั้งผมก็รู้สึกโทษตัวเองที่เห็นแก่ตัวโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนที่รอผมอยู่ที่บ้าน ว่าเขาเหล่านั้นจะคิดหรือรู้สึกยังไง…  “ขอเวลาให้ผมอีกสักพักนะทุกคน เดี๋ยวผมจะกลับไปหาทุกคนเมื่อถึงเวลาที่สมควร”  ผมค่อยๆ เงยหน้ามองขึ้นฟ้าปล่อยอารมณ์คิดถึงบ้านให้ล่องลอยไปถึงพวกเขาก่อนจะพูดถึงทุกคนฝากผ่านสายลมไป    ณ คอนโดสุดหรูใจกลางกรุง  ผมพยายามอดกลั้นความรู้สึกกระหายหลังจากที่เห็นเจ้าเสือน้อยตั้งแต่ตอนที่ถ่ายแบบกระทั่งวินาทีนี้ ทันทีที่ผมกับเสือเดินผ่านประตูคอนโดเข้ามา ผมรีบหันไปปิดประตูล็อคกลอนอย่างรวดเร็วก่อนจะหันมาดึงชายที่อยู่ตรงหน้าเข้ามากอด บดเบียดริมฝีปากของตนทาบทับริมฝีปากหนาของเสืออย่างหื่นกระหาย หากเป็นไปได้ผมแทบอยากจะกลืนกินเขาลงไปทั้งตัวซะเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ ในจังหวะเดียวกันที่เสือเองก็รีบเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นจนเหลือเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวสีฟ้าลายสก๊อต ในขณะที่ผมเองก็ไม่น้อยหน้าเขาเช่นกันที่เสื้อผ้าเคยปกคลุมร่างกายทุกส่วนสงวน บัดนี้มันได้หลุดลุ่ยลงไปกองกับพื้นหน้าห้องรับแขกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ อารมณ์ของผมกับเสือตอนนี้เหมือนกับดวงไฟที่ลุกโชนสว่างไสวร้อนระอุไปทั่วห้องรับแขก ผมไม่รอช้ารีบใช้วงแขนทั้งสองข้างกอดคอดึงเขาลงมาให้ร่างกายกำยำมาทาบทับบนร่างเปลือยเปล่าของผมแทบจะทนไม่ไหว ทันทีที่ร่างของเสือมากอดก่ายผมมันยิ่งสร้างความซาบซ่านให้แก่ร่างกายของผมเป็นทวีคูณ ก่อนที่ขาเรียวเล็กได้รูปของผมจะถูกมือแกร่งของผู้ชายตรงหน้าจับยกขึ้นแล้วดึงมือทั้งสองข้างของผมมารั้งขาที่ถูกยกนั้นค้างไว้ เพียงเสี้ยววินาทีจุดสยิวท่ามกลางบั้นท้ายกลมกลึงสีชมพูระเรื่อ ก็ถูกเสือใหญ่ใช้ปลายลิ้นสัมผัสดูดดุนจนผมดิ้นพล่านแทบจะตกโซฟา ยังดีที่ถูกสองมือใหญ่ทั้งสองข้างของเขาประคองเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นผมคงต้องเจ็บหลังแน่ๆ เพราะด้วยความเสียวซ่านที่เขาปรนเปรอให้ อยากบอกว่าผมรู้สึกดีและมีความสุขมากเมื่อถูกเขากระทำเช่นนั้นอยู่สักพักหนึ่ง ในระหว่างนั้นด้วยความเสียวซ่านเกินจะบรรยายได้ผมจึงใช้มือทั้งสองข้างจิกผมเขาไว้แน่นพร้อมทั้งดึงเข้ามาหาจุดสวรรค์นั้นมากขึ้น ปลายลิ้นของเขามันแทบจะมุดเข้ามาในจุดกระสันนั้นอยู่มะรอมมะร่อ   แล้วสิ่งที่ผมรอคอยก็มาถึง เมื่อเสือใหญ่ลุกขึ้นนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของผมที่ยังมีมือของผมจับรั้งไว้ไม่ปล่อย ผมดีใจที่เสือคอยดูแลเอาใจใส่ผมอย่างดีทุกระเบียบนิ้วแม้กระทั่งเรื่องบนเตียงก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร เขายิ้มให้ผมพร้อมทั้งก้มลงมาจูบปากผมอยู่ชั่วครู่ ในขณะที่เสือน้อยกำลังพยายามมุดเข้ามาภายในรูสวรรค์ของผมแทบจะทั้งหมด ผมหายใจเฮือกใหญ่ทันทีที่เจ้าเสือน้อยเข้าไปด้านในจนสุด แต่แล้วผมกลับรู้สึกเจ็บด้านในขึ้นมาดื้อๆ มันเจ็บมาก มันไม่ใช่อาการจุกอย่างที่เคยเป็น มันไม่ใช่อาการแสบอย่างที่เคยลิ้มรส..  “โอ๊ย!! หยุดก่อนได้ไหมเสือ.. เราเจ็บ!”  มันเกินที่ผมจะอดทนไหว จึงตัดสินใจส่งเสียงร้องออกมาพร้อมทั้งบอกเหตุผลคนตรงหน้า เสือเองเมื่อได้ยินผมขอร้องแบบนั้นจึงหยุดปฏิบัติการพร้อมกับค่อยๆ ดึงเจ้าเสือน้อยออกมาจากรูสวรรค์ของผมอย่างเบาแรงที่สุด  หลังจากที่เสือน้อยออกมาพ้นรูสวรรค์แล้ว ผมยังคงเจ็บด้านในไม่หายทั้งยังมีอาการเจ็บปวดรุนแรงขึ้นตามมา กระทั่งผมขอร้องไห้เสือพาผมไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเพราะผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ…    ณ โรงพยาบาลที่ใกล้คอนโดมากที่สุด  “ยังไงผมฝากดูแลแฟนของผมด้วยนะครับ อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะครับคุณหมอ”  “หมอจะพยายามสุดความสามารถค่ะ ญาติคนไข้รอด้านนอกก่อนนะคะ”  ผมเดินถอยหลังออกห่างจากประตูห้องฉุกเฉินขณะที่เจ้าหน้าที่เข็นเตียงผู้ป่วยพ้นประตูเข้าไปก่อนที่ประตูห้องฉุกเฉินจะถูกปิด  มันเกิดอะไรขึ้นกับปีโป้กันแน่นะ ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน หรือว่าไส้ติ่งจะแตก หรือว่าเราทำรุนแรงเกินไปจนอวัยวะภายในของเขาอักเสบ หรือว่าอาหารเป็นพิษ ผมคิดไปทั่วเพื่อจะสันนิษฐานถึงความเป็นไปได้ว่าปีโป้เขาเป็นอะไรกันแน่   ด้วยความที่ผมเป็นกังวลเรื่องของปีโป้มากจึงตัดสินใจโทรบอกที่บ้าน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนทุกคนรู้หมดแล้ว ไม่มีใครกีดกันในความรักของเรานอกเสียจากแม่ของผมที่กำลังพยายามทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ใช้เวลาเพียงไม่นานทุกคนก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแต่ขาดคนสำคัญของผมอีกคนนึงนั่นก็คือพี่สิงห์ ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนเป็นยังไงบ้าง  “ปีโป้เป็นยังไงบ้างลูก ออกมาจากห้องฉุกเฉินหรือยัง มันเกิดอะไรขึ้นทำไมต้องเข้าห้องฉุกเฉินแบบนี้ล่ะลูก..”  วันนี้แม่ผมมาแปลก ทันทีที่มาถึงหน้าห้องฉุกเฉินก็รีบเดินตรงมาหาผมพร้อมทั้งยิงคำถามกับผมมากมายราวกับว่าไม่เคยรู้สึกไม่ดีที่ลูกชายตัวเองมีแฟนเป็นผู้ชายเลยสักนิด  “แม่ก็ใจเย็นๆ หน่อยสิ ถามคำถามลูกเยอะแบบนั้นลูกก็ตกใจพอดี”  “ก็พ่อไม่ใช่แม่นี่นา มันก็เป็นเรื่องธรรมดาไหมที่แม่จะเป็นห่วงคนรักของลูก.. ไม่รู้ว่าเป็นอะไร หรือพ่อเองไม่ห่วง..”  ผมเห็นว่าสถานการณ์เริ่มชุลมุนวุ่นวายจึงขอเป็นกลางเพื่อสงบศึกเล็กๆ ภายในครอบครัว  “ก็ใจเย็นทั้งพ่อทั้งแม่เลยครับ ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว คือหมอยังไม่ออกมาเลย เสือเองก็ไม่รู้ว่าปีโป้เขาเป็นอะไร คงต้องรอหมอออกมาก่อนครับ”  “เสือก็น่าจะพูดแบบนี้ตั้งแต่แรก พ่อแม่หลานจะได้ไม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง คราวนี้เข้าใจกันแล้วใช่ไหมพ่อโชค แม่พิมพ์ รอหมอออกมาบอกอาการ.. ตามนี้นะ!”  คำพูดประกาศิตจากย่าใช้ได้ผลทุกครั้งที่ท่านทั้งสองมีปากเสียงกันเรื่องเล็กน้อย  เราทุกคนเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินตามคำที่ย่าบอก อย่างคนอดเป็นห่วงไม่ได้  แกร๊ก!!  ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกพร้อมกับผู้ชายชุดกราวเดินตรงมาทางพวกผม  “คุณเป็นญาติของคนไข้ใช่ไหมครับ”  “ใช่ครับผมเป็นแฟนเขา แฟนของผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ..”  ผมรีบลุกขึ้นทันทีที่ฟังคำถามจบพร้อมกับส่งคำถามต่อถึงคนที่อยู่ด้านใน  “ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก คือหมอจะไม่พูดอะไรมากนะครับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณได้ลูกชายครับ เวลาครรภ์ตอนนี้ 2 เดือนครึ่งครับ ยังไงก็ขอให้คุณช่วยดูแลแฟนของคุณให้ดีที่สุดนะครับ ไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะครับ!”  “ท้อง!!”  ผมร้องเสียงหลง ในขณะที่ทุกคนต่างตกใจไม่ต่างกันพร้อมหันหน้ามองกันโดยอัตโนมัติ  ผมสับสนไปหมด ยืนนิ่งหน้าชาอยู่ตรงนั้น แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง ปีโป้ท้อง!! หรือนี่จะเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์วันครบรอบการคบกันเป็นเดือนที่ 4 ของเราสองคนกันนะ…   
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD