ณ บ้านเรือนไทยสไตล์โมเดิร์น
แทบจะทันทีที่รถยนต์ของเสือจอดบริเวณหน้าบ้านของเขาซึ่งเป็นครั้งแรกด้วยที่ผมได้มาที่บ้านเรือนไทย ที่เขามักจะพูดถึงอยู่บ่อยๆ มันสวยงามมากจริงๆ ครับ สมกับที่เขาบอกว่าบ้านเรือนไทยสไตล์โมเดิร์นจริงๆ มันมีความผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างตัวบ้านที่มีกลิ่นอายความเป็นบ้านสมัยก่อนหรือพูดง่ายๆ ก็คือเหมือนบ้านในละครจักรๆ วงศ์ๆ ของเหล่าขุนนางพระราชสำนักอย่างใดอย่างนั้น แต่กลับถูกแทรกด้วยความสมัยใหม่ แล้วที่บอกว่าสมัยใหม่นี้ก็เกือบจะล้ำยุคเลยด้วยซ้ำ กลับไม่น่าเชื่อเลยว่าความเป็นไทยและความสมัยใหม่จะสามารถผสมผสานได้อย่างลงตัวแบบนี้ ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับบ้านที่อยู่ตรงหน้าทำเหมือนว่าผมกำลังตกอยู่ในภวังค์อยู่ไหนตอนนั้นโดยที่ผมไม่ได้ยินเสียงแม่ของเสือเรียกเพื่อให้ลงจากรถยนต์เลย
“… ปีโป้ลูกถึงแล้วจ้า..”
น่าจะเป็นครั้งที่ 3 เห็นจะได้ที่ท่านเรียกผมจนสติผมกลับคืน ก่อนจะยิ้มอย่างรู้สึกผิดให้ท่านแล้วรีบลุกเตรียมจะเขยิบตัวมาทางฝั่งบ้านของเสือเพื่อลงจากรถยนต์อย่างที่เคยทำด้วยความกระฉับกระเฉง..
“ค่อยๆ ลุกสิลูก อย่าขยับแรงแบบนั้นมันอันตรายต่อลูกในท้องนะรู้ไหม!”
ไม่ทันทีผมจะหย่อนก้นลงนั่งหลังจากยกก้นเคลื่อนมาทางที่ประรถยนต์เปิดอยู่ ก็ถูกว่าที่แม่ย่าดุเสียงเข้ม
“ขอโทษครับคุณแม่ผมลืมตัวไปครับ..”
“ทำไมต้องไปดุลูกแบบนั้นล่ะแม่พิมพ์ ดูหน้าลูกสิตกใจหมดแล้ว”
ในระหว่างที่เสือกำลังยื่นมือมาจับมือผมเพื่อคอยประคองตัวผมให้ก้าวลงจากรถยนต์อย่างนุ่มนวลที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนถึงลูกในท้องของผม
“ก็หนูเป็นห่วงลูกนี่คะแม่ หลานคนแรกของบ้านเลยนะคะ”
“เอาเถอะจ้ะ ยังไงเสือก็พาปีโก้ไปนั่งพักที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่พิมพ์ไปช่วยแม่ทำอาหารให้ว่าที่ลูกสะใภ้ของลูกกับแม่ที่ครัวดีกว่า”
รู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้ที่คุณย่าเรียกผมว่าลูกสะใภ้ของคุณแม่ มันฟังดูแปลกๆ พลอยให้รู้สึกขนลุกชอบกล แต่ถ้าฟังด้วยหัวใจมันเป็นคำเรียกที่ทำให้ผมรู้สึกใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก
“ได้จ้าแม่ ยังไงเสือก็ต้องดูแลปีโป้ดีๆ นะลูก เวลาจะเดินจะเหินยังไงต้องคอยดูแลประคองตลอดนะอย่าให้ไปคนเดียวเดี๋ยวเผื่อล้มหรือเป็นอะไรขึ้นมา.. เข้าใจไหมลูก!”
“เข้าใจครับแม่ แม่ไปช่วยย่าทำอาหารเถอะครับเดี๋ยวทางนี้ผมดูแลเองครับ”
พอสิ้นเสียงการตอบรับจากเสือทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน ในขณะที่ผมนั่งพักอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกับเสือด้วยความรู้สึกดีใจ ที่ทุกอย่างในชีวิตของผมมันเริ่มดีขึ้น สิ่งที่ผมรอคอยมานานก็ได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นก็คือลูกน้อย กว่า 4 ปีหลังจากที่ผมผ่านการปลูกถ่ายมดลูกที่ต่างประเทศ ผมก็เฝ้าคอยมาโดยตลอดซึ่งตอนนั้นคุณแม็กเองก็เฝ้ารอและมีความหวังไม่ต่างจากผม แม้เวลาจะล่วงเลยไปสักกี่ปีผมก็ไม่อาจมีลูกให้คุณแม็กได้ ในที่สุดเขาก็ท้อแล้วทำตัวเหลวไหลหลังจากที่เราสองคนไม่อาจจะมีลูกด้วยกันได้ตามที่เขาต้องการ
หนึ่งวันก่อนที่โรงพยาบาลใกล้คอนโดของนายแบบสุดเซอร์
“พ่อ แม่ ย่า มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหมครับที่คุณหมอบอกว่าปีโป้ท้อง!”
ความรู้สึกตอนนั้นของผมไม่รู้จะอารมณ์ไหนเลย มันสับสนวุ่นวายไปหมด แต่ลึกๆ แล้วก็รู้สึกดีใจมากแต่มันก็กลับมีเรื่องไม่เข้าใจ ว่าปีโป้จะตั้งท้องได้ยังไงก็ในเมื่อเขาก็เป็นผู้ชายเหมือนผม แล้วอีกอย่างผมก็มีอะไรกับเขาทางด้านหลังแล้วมันจะไปท้องได้ยังไง หรือว่าเขาเป็นผู้หญิงมาก่อนที่จะเป็นทอมเพระรูปร่างของเขาเองก็ดูเหมือนผู้หญิงมาก มันไม่น่าเป็นไปได้เลยที่ผู้ชายกับผู้ชายด้วยมีอะไรกันแล้วจะท้องได้แบบนี้ สรุปมันเกิดขึ้นได้ยังไงกันแน่
“มันเป็นเรื่องจริงลูก หลานกำลังจะมีลูกย่าเองก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ย่าก็เชื่อว่าทุกคนก็ดีใจที่เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นในครอบครัวของเรา..”
ผมได้ฟังแบบนั้นถึงกับน้ำตาไหล ทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นแล้วก้มกราบแทบเท้าพ่อแม่ย่าด้วยความรู้สึกตื้นตันใจและรู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน โดยที่ท่านทั้ง 3 คนก็ก้มลงมาลูบหลังผมอย่างอ่อนโยนเปี่ยมไปด้วยความเข้าใจ
“แล้วเสือจะร้องไห้ทำไมล่ะลูก”
“คือ.. ผมรู้สึกผิดที่ทำแฟนท้องก่อนที่ตัวเองจะพร้อมที่จะมีลูกจริงๆ ครับพ่อ”
ผมสารภาพความรู้สึกนั้นทั้งน้ำตาขณะที่ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่เปียกแก้ม
“เสือไม่ได้ทำอะไรผิดนะลูก มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วที่คนรักกันจะมีความสัมพันธ์กัน ในกรณีของลูกมันไม่มีอะไรน่าห่วงเลยเพราะว่าเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่ถึงยังไงตอนนี้ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับชีวิตของลูก 2 คนแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีใครผิดทั้งนั้นและไม่ต้องคิดโทษตัวเอง ทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะพร้อมหรือไม่พร้อมไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องนั้นแล้วนะลูกเพราะถึงยังไงเสือก็ยังมีพ่อมีแม่แล้วก็ย่าอีกคนนึงเลยนะ หลังจากนี้ก็ต้องคอยดูแลกันและกันให้ดีก็พอลูก”
ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นฟังสิ่งที่พ่อพูดก่อนจะหันไปมองทางแม่และย่า ท่านทั้งสองคนกลับส่งรอยยิ้มแห่งความเห็นใจมาให้พร้อมกับพยักหน้าน้อยๆ อย่างเข้าใจ ส่งผลให้ผมรู้สึกดีขึ้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วสวมกอดท่านทีละคน ระหว่างนั้นประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกมาอีกครั้งพร้อมกับมีเตียงรถเข็นที่มีเพื่อนรักอย่างปีโป้ เอ๊ะ.. ไม่ใช่เพื่อนรักแล้วสิ มีลูกด้วยกันแบบนี้ก็ต้องเป็นเมียผมสินะที่นอนอยู่บนนั้นเคลื่อนออกมาโดยเจ้าหน้าที่พยาบาลช่วยกัน
“ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ คนไข้ได้รับการฉีดยาบำรุงทำให้รู้สึกผ่อนคลายจึงหลับไปเท่านั้นค่ะ”
ทันทีที่ผมได้พบหน้าปีโป้อีกครั้ง เหมือนกับเจ้าหน้าที่พยาบาลจะรู้ว่าผมต้องถามถึงอาการของเขาแน่ๆ พี่พยาบาลเลยอธิบายอาการคร่าวๆ ให้ผมรับรู้
“แล้วต้องแอดมิดไหมครับคุณพยาบาล”
“เห็นคุณหมอบอกว่าอยากให้นอนดูอาการสักคืนนึงก่อนค่ะ หากไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อนพรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆ ก็น่าจะกลับบ้านได้ค่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะญาติคนไข้”
หลังจากที่ผมสนทนากับพี่พยาบาลสาวสวยจบลง เขากับบุรุษพยาบาลอีกคนหนึ่งก็ช่วยกันเข็นเตียงรถเข็นขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพิเศษ
เวลาผ่านไปเกือบ 20 นาที คนหลับก็ยังไม่ตื่น ผมเลื่อนเก้าอี้มานั่งกุมมือเขาอยู่ข้างเตียงตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่พยาบาลเข็นเข้ามาแล้วเปลี่ยนมานอนบนเตียงคนไข้ โดยหวังว่าให้เขาตื่นขึ้นมารับรู้ของขวัญพิเศษที่เขามอบให้ผมเป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันครบรอบการคบกันที่ผ่านมาผมจะเป็นฝ่ายเซอร์ไพรส์เขาตลอด แต่วันนี้เป็นวันครบรอบ 4 เดือนที่เราตัดสินใจคบกันในฐานะคนรักเขากลับมีของขวัญชิ้นพิเศษให้ผมเกินที่ผมอดที่จะตื้นตันใจและมีความสุขกับของขวัญชิ้นนี้ไม่ได้ ไม่นานสิ่งที่ผมหวังก็เกิดขึ้นเมื่อคนหลับกำลังพยายามลืมตาขึ้นด้วยท่าทางสะลึมสะลือเหมือนไม่อยากตื่นจากฤทธิ์ยาบำรุงที่คุณหมอฉีดให้
“ขอน้ำกินหน่อย.. เสือเราขอน้ำกินหน่อย..”
ผมแทบจะกระโดดลุกขึ้นไปหยิบเหยือกน้ำเทใส่แก้วให้จะทันที แต่ความต้องการของใครคนหนึ่งกลับเร็วกว่า เมื่อย่าเป็นคนยื่นแก้วที่มีน้ำส่งมาให้ผมในจังหวะที่ผมกำลังจะหันไปหยิบเหยือกน้ำเทใส่แก้วตามที่คิดไว้
“เอาน้ำให้ปีโป้ดื่มก่อนสิลูก”
“ขอบคุณครับย่า”
ผมรับแก้วน้ำจากท่านแล้วลุกขึ้นยืนเดินไปด้านข้างเตียงก่อนจะใช้มืออีกข้างประคองเขาลุกขึ้นดื่มน้ำ
“ขอบใจมากนะเสือ.. เราเป็นอะไรไปอ่ะ หนักขนาดนั้นเลยหรอทุกคนเลยต้องมาที่นี่กันหมด..”
“ปีโป้ไม่ได้เป็นอะไรเลย หนูแข็งแรงดีลูกที่สำคัญ..”
แม่ของผมพูดปลอบโยนปีโป้ก่อนจะบอกอะไรบางสิ่งที่สำคัญให้ปีโป้ฟัง
“แม่!..”
แม่มีสีหน้าเข้าใจหลังจากที่พ่อของผมเรียกท่าน
“ปีโป้.. สิ่งที่นายจะได้ยินต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้นายใจเย็นๆ นะ”
ปีโป้มีสีหน้าสงสัยกับสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่ก่อนจะย้อนถามด้วยความไม่เข้าใจ
“เสือกำลังจะบอกอะไรไม่ดีให้เราฟังหรือเปล่า.. ไม่ต้องคิดมากนะเราเองก็เจอเรื่องร้ายๆ มาเยอะแล้ว ถ้าจะเจออีกสักเรื่องมันก็คงไม่เป็นอะไรมากหรอก.. เราเข้าใจ”
น้ำใสๆ เอ่อดวงตาคู่สวยของคนที่ผมรัก ผมเลยหันกลับไปหยิบกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตาให้ แล้วตั้งใจบอกสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตเราสองคนให้เขาได้ฟังช้าๆ ชัดๆ
“เรากำลังมีลูกด้วยกันนะปีโป้”
“มีลูก!!.. อย่าบอกนะว่าอาการที่เราเป็นนั่นมัน…”
“มันเป็นอาการข้างเคียงที่คนท้องมีเพศสัมพันธ์ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ อาการที่ปีโป้เจ็บท้องตอนที่เรามีอะไรกันมันเป็นเพราะเป็นปฏิกิริยาเพื่อให้เด็กไม่ได้รับอันตรายเท่านั้นเอง”
หลังจากที่ผมพูดจบปีโป้ก็สวมกอดผมทั้งน้ำตาพรั่งพรู ผมรับรู้ได้ถึงความดีใจที่เขากำลังแสดงออก ซึ่งตัวผมเองก็รู้สึกดีใจไม่แพ้เขา
“เราสองคนกำลังจะมีลูกจริงๆ ใช่ไหม..”
“จริงสิ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เพศนะว่าลูกของเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
ยิ่งผมพูดคนที่กำลังกอดผมอยู่ก็ยิ่งร้องไห้มากขึ้น มันเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มใจส่งผลให้พ่อแม่และย่าของผมเดินเข้ามาสวมกอดพวกเราสองคนด้วยแล้วก็พากันดีใจจนน้ำตาไหลกันทุกคน
กลับมาที่บ้านเรือนไทยสไตล์โมเดิร์น
“เสือ หลานไปประคองหลานสะใภ้ย่ามากินข้าวป่ะรู้ป่ะ ตอนนี้กับข้าวพร้อมแล้ว”
“ครับอย่า อ้าวแล้วพ่อกับแม่ล่ะครับ”
“น่าจะกำลังเข้ามาแหละ เห็นแม่ของหลานเดินตามไปช่วยพ่อรดน้ำต้นไม้หลังบ้าน”
“เดี๋ยวผมไปเรียกคุณพ่อกับคุณแม่ให้ก็ได้ครับคุณย่า”
ไม่ทันที่ผมจะก้าวขาไปที่ประตูหลังบ้านคนตัวเล็กก็เดินตรงมาที่ห้องครัวพร้อมบอกกับย่าผมแบบนั้น
“อ้าวปีโป้ค่อยๆ เดินนะลูก หนูไม่ต้องไปหรอกให้เสือไปเรียกแล้ว มานี่ๆ เดี๋ยวย่าพาไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวนะลูก”
เป็นจังหวะที่ผมหันมาได้เห็นภาพที่ย่าของผมเดินเข้าไปประคองคนรักของผมมานั่งเก้าอี้ที่โต๊ะทานข้าวด้านข้างเก้าอี้ของผม มันเป็นภาพที่น่ารักมากๆ เลยครับ ขณะเดียวกันเองทางปีโป้ก็ปฏิเสธเป็นพัลวันเช่นกันเพราะเขาไม่อยากให้ย่าลำบากแต่ก็ไม่สามารถจะขัดใจย่าของผมได้ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามด้วยความระมัดระวังตามที่ท่านต้องการ หลังจากนั้นผมจึงเดินออกไปหลังบ้านเพื่อเรียกพ่อกับแม่มาทานข้าวเย็นพร้อมกัน
แล้วทุกคนก็พร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะอาหารเย็นมื้อพิเศษ ซึ่งเวลานี้คนที่ดูจะไม่พอใจที่ผมมีคนรักเป็นผู้ชายมากที่สุด กำลังกุลีกุจอปรนนิบัติพัดวีคนรักของผมแทบจะทุกวินาที แม้นหากเป็นไปได้ท่านคงอยากจะป้อนข้าวให้ปีโป้กินเลยด้วยซ้ำ ดูจากการกระทำของแม่แล้ว เป็นเพราะรักล่ะครับ ทุกคนดูออก จากที่ไม่ชอบ ไม่พอใจ ตอนนี้เหมือนจะรักแฟนของผมมากกว่าผมอีกยิ่งมารู้ว่ากำลังจะมีเจ้าตัวเล็กซึ่งเป็นหลานคนแรกของบ้านด้วยก็ยิ่งทำให้แม่คอยดูแลปีโป้แฟนของผมไม่ห่าง ภาพตรงหน้าทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มเกิดความสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง แล้วคนที่ผมอยากให้อยู่ตรงนี้ด้วยนั้นก็คือพี่ชายของผม ถ้าเขารู้ว่าผมกำลังจะมีลูก ผมเชื่อว่าพี่สิงห์ต้องดีใจมาก มากพอๆ กับผม เรื่องทุกอย่างก็ดูสงบลงแล้วทำไมพี่สิงห์ยังไม่กลับมาอีก ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนเป็นยังไงบ้างไม่มีใครจะรู้ได้
ณ คฤหาสน์สุดหรูของเจ้าพ่อมาเฟียระดับ 1 ของประเทศ
ผมเดินมาหยุดนั่งด้านหน้าห้องครัว ซึ่งเป็นที่ประจำของผมกับป้านวล แม่บ้านใหญ่ประจำบ้านนายใหญ่ ตอนนี้แกคงกำลังตรวจความเรียบร้อยจากการทำงานของแม่บ้านคนใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานวันนี้ 3 คน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้วก็ตาม
เมื่อช่วงเย็นผมได้รับข่าวเรื่องหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับนายใหญ่ แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีจึงทำได้เพียงมานั่งคิดเพื่อรอที่จะปรึกษาป้านวลเรื่องนี้ ไม่นานผมก็เห็นป้านวลเดินฉับๆ อย่างคล่องแคล่ว ดูไม่เหมือนคนอายุ 50 ปลายๅ เลย แกเดินตรงมาทางผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะเอ่ยทักทายผมเช่นทุกวัน
“กินข้าวมาหรือยังล่ะ ไปกินพร้อมป้าไหมวันนี้นายท่านไม่กินข้าวเย็นอีกแล้วป้าเลยทำอาหารไว้รอเก้อ”
“หรอครับ ผมต้องขอโทษป้าด้วยนะครับผมเองก็ลืมบอกป้าไปว่าเย็นนี้นายใหญ่จะกลับดึกน่ะครับ”
ผมรีบยกมือขอโทษก่อนจะเดินตามแกเข้าไปในห้องครัว
“ไม่เป็นไรจ้าป้าเข้าใจ เดี๋ยวนะ!.. วันนี้มีอะไรจะบอกป้าไหม!”
“คือผมมีเรื่องไม่ค่อยสบายใจครับป้านวล”
“เรื่องอะไร นั่งลงก่อนสิเดี๋ยวป้าตักข้าวให้”
ผมทำทีหันรีหันขวางไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าบริเวณนั้นไม่มีใครอยู่จริงๆ
“ไม่มีใครอยู่หรอกตอนนี้เด็กๆ กลับห้องพักกันหมดแล้ว มีอะไรไม่สบายใจก็เล่ามาเถอะ”
“เมื่อเย็นนี้ผมรู้ข่าวมาว่า นายน้อยท้องครับป้า”
“นายน้อยท้อง!! กับใครแล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“ผมกำลังให้คนไปสืบอยู่ครับ แต่ว่า…”
ไม่ทันที่ผมจะพูดถึงเจตนารมณ์ของตัวเอง ป้านวลก็ชิงพูดขึ้นก่อนอย่างคนเข้าใจ
“ไม่ต้องคิดมากป้าเขาใจ แล้วที่นะมาเล่าให้ป้าฟังก็เพื่อจะปรึกษาป้าใช่ไหมว่าจะบอกนายท่านดีหรือเปล่า.. ใช่ไหม”
“ครับ!”
มาถึงตรงนี้ผมเกือบเห็นป้านวลมีสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยแต่ก็ตอบกลับมาอย่างเข้าใจและรวดเร็ว
“ไม่ต้องหรอก.. เพราะป้าเองก็คิดว่านายท่านก็คงกำลังสืบเรื่องนายน้อยอยู่เหมือนกัน เชื่อป้าสิ นายท่านรักนายน้อยมากคงไม่มีวันให้นายน้อยอยู่ห่างตัวเองนานขนาดนี้หรอก แต่อาจจะเป็นเพราะว่ายังหาวิธีที่จะดึงตัวนายน้อยกลับมาไม่ได้เท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า นายน้อยก็ยังไม่ปลอดภัยจริงๆ ใช่ไหมครับ..”
ป้านวลไม่ตอบอะไรแต่นั่นก็ทำให้ผมเข้าใจว่าตอนนี้นายน้อยก็คงยังไม่ปลอดภัยดีแน่ๆ แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไป
“ใครท้องนะ!!”
ผมและป้านวลรีบหันหน้าไปทางต้นเสียงแทบจะพร้อมๆ กันด้วยอาการตกใจ
“นายใหญ่!.. นายท่าน!..”