“ไอ้เหี้ยเพลิง! สกปรกฉิบหาย ไอ้สัสนี่!”
กีริติด่าซ้ำ ถ้าเมื่อครู่ถอยไม่ทันคงเปียกไปทั้งหน้า
ไอ้สัสเพลิงไอ้คนจังไร
“แค่ก ๆ”
เพลิงนิลสำลักเหล้าหน้าดำหน้าแดง เดือดร้อนปุริมต้องหยิบทิชชูส่งให้พร้อมกับทำหน้าเอือมระอา
ช่วงนี้มันเป็นอะไรของมัน หมดกันมาดหนุ่มหล่อพ่อรวยที่สาวๆคลั่งไคล้
“มึงนี่ก็เป็นห่วงมันจังไอ้ปืน อย่าบอกนะว่ากะเก็บไอ้เพลิงไว้เป็นน้องเขย”
จากที่อาการสำลักกำลังจะดีขึ้น เพลิงนิลกลับไอหนักมากกว่าเก่า
“น้องเขยเหี้ยไรล่ะ น้องกูยังเรียนไม่จบ อีกอย่างเหี้ยๆอย่างไอ้เพลิงเนี้ยนะ จะมาเป็นน้องเขยกู ชาติหน้าเหอะ” คนหวงน้องเริ่มออกลาย เอาทิชชูที่เพลิงนิลใช้แล้วเขวี้ยงใส่กีริติที่ปากมอม
“โอ๊ยไอ้เหี้ย! พวกมึงสองคนสกปรกกันฉิบหายเลย”
เจ้าของผับปัดสิ่งโสโครกออกจากตัว มองค้อนไอ้สองเกลอที่ทำตัวซกมกไม่ต่างกัน
“ระวังไว้เหอะไอ้ปืน เกลียดยังไงได้อย่างนั้นนะมึง”
“ได้พ่อง” คราวนี้เป็นกล่องทิชชูที่ลอยลิ่วมาใส่หน้า กีรติรับไว้ทันพร้อมกับทำหน้ากวนตีนใส่
“พอๆ สนใจขึ้นไปร่วมวงกับกูข้างบนไหม มีสาวๆใส่บิกินี่รอที่ห้องวีไอพี”
เจ้าของผับชอบทำปาร์ตี้แนวสิบแปดบวก สนองความบ้ากามของตัวเองโดยไม่สนกำไรขาดของทุนของร้าน ไอ้ห้องวีไอพีที่ว่าคงมีสาวๆพร้อมของมึนเมาไม่อั้นไว้บริการแบบฟรีๆ
แล้วไอ้คำว่าของฟรีนี่แหละที่ถูกใจปุริมนัก
“กูไปด้วย”
ไอ้ตัวดีรีบยกหาง เอ๊ยมือขึ้นมาทันที ไม่ใช่ว่ากี้มึงโมโหให้มันอยู่หรอกหรือ พอเอาของฟรีมาล่อก็หายโกรธทันทีเลยนะไอ้เวน
แล้วถ้าเขาเอาของฟรีมาให้มันบ้าง มันจะยกโทษเรื่องที่เจาะไข่แดงน้องมันไหมวะ…
“มึงอะไม่เพลิง สนใจไหม”
“ไม่อะ พวกมึงไปเหอะกูอยากดื่มชิวๆมากกว่า”
“ตามใจ ปะไอ้ปืนตามเสี่ยมาเสี่ยได้เด็กเอ็นมาใหม่ นมใหญ่เท่านี่” เสี่ยใหญ่วาดมือประกอบภูมิใจนำเสนอ
ส่วนปุริมก็ตาวาวราวกับคนของขาด ตามหลังกีรติไปหาของฟรีที่มันชอบ
ไปได้สักทีพวกหื่นกาม!
ลับหลังปุริมกับกีรติไปไม่ถึงสิบนาที ร่างของคนที่ทำให้เพลิงนิลหยุดมือที่กำลังซัดเหล้าเข้าปาก ค่อยๆเดินเข้ามาด้วยใบหน้าบึ้งตึง เมื่อเดินเข้ามาถึงโต๊ะของเขาเธอก็ขบริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบค่อนไปทางแข็งทื่อ
“พี่เพลิง เห็นพี่ปืนไหม”
ใบหน้าสวยของน้องสาวเพื่อนยังคงเรียบนิ่ง จ้องมองเขาด้วยท่าทางปกติ ต่างจากเพลิงนิลที่ครุ่นคิดวิตกกังวลจนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน
“อยู่กับไอ้ติน่ะ”
เป็นเพลิงนิลที่ไม่กล้าสบตา
“ตรงไหนคะ แม่ให้ปิ่นมาตามกลับบ้าน”
ช่วงนี้กีรติไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่อง ลำบากปาลีต้องมาตามเพราะมารดากลัวลูกชายพลาดไปทำสาวท้อง ให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล
คนตัวเล็กมองสอดส่องหาพี่ชาย ไม่ได้สนใจเพลิงนิลที่กำลังนั่งทำสีหน้าปั้นยากมองตามน้องสาวเพื่อนไม่วางตา
ปาลีเป็นน้องสาวของปุริมอายุห่างจากพวกเขาสามปี ตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ปีสี่ คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่ชายรวมถึงตัวของเพลิงนิลเองที่เคยเรียนสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
ตอนที่ปาลีเข้าเรียนปีหนึ่งเพลิงนิลก็อยู่ปีสี่ ผ่านมาสองปีตัวเขาเรียนจบแล้ว ส่วนปาลีกำลังเรียนปีสุดท้าย
เจ้าของดวงตากลมฉายแววดื้อรั้นเอาแต่ใจหันกลับมามองเพลิงนิลเพื่อขอคำตอบ
“ว่าไงคะพี่เพลิง”
“ปล่อยมันไปเถอะ พี่มีเรื่องจะคุยกับปิ่น”
“เรื่องอะไรคะ?”
“เรื่องคืนนั้น…”
“เราคุยกันจบแล้ว”
จบแล้วที่ว่าคือปาลีพูดอยู่ฝ่ายเดียว พอตื่นขึ้นมาก็เห็นแววตาผิดหวังสะท้อนออกมาจากดวงตาสวย
เพราะคนที่นอนอยู่ข้างๆไม่ใช่เวธัสแต่เป็นเพลิงนิล ปาลีจึงปฏิเสธการรับผิดชอบทั้งหมดจากเพื่อนสนิทของพี่ชาย แม้จะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตามที
‘พี่เพลิงก็คงไม่อยากรับผิดชอบกับอีแค่ได้กันครั้งเดียวใช่ไหมล่ะ’
คำตอบของเพลิงนิลคือความเงียบ และแน่นอนเขาไม่ใช่คนดีพอที่จะรับผิดชอบผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กันแค่คืนเดียว
ปาลีไม่ใช่คนที่เพลิงนิลรัก ส่วนเธอเองก็ไม่ได้รักเขาเช่นกัน
คนไม่ได้รักกันแต่มีความสัมพันธ์ทางกายข้ามคืนมีเยอะแยะไป ไม่เห็นจำเป็นต้องไถ่ถามหาความรับผิดชอบหรือพูดอะไรให้มากมาย ในเมื่อสุดท้ายความหมายมันก็เท่าเดิม
“ปิ่นจบคนเดียว” ตอนนั้นเพลิงนิลรู้สึกสมองเบลอไปชั่วขณะ เขายังไม่ทันได้ไตร่ตรองกับเรื่องที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าความผิดส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวเขาที่ไม่หักห้ามใจ
“พี่เพลิงจะเอายังไง”
“พี่…”
“เห็นไหมพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม พี่ไม่ได้รักปิ่น ปิ่นก็ไม่ได้รักพี่ เรื่องที่เกิดขึ้นทำเป็นลืมมันไปไม่ได้หรือไง”
นั้นนะสิ ปาลีที่เป็นฝ่ายเสียหายยังไม่รู้สึกอะไร แล้วทำไมเขาถึงต้องมานั่งกลุ้มใจอยู่แบบนี้
“พี่ไม่รู้ แต่พี่ทำไม่ได้”
ดวงตาคมเหลือบมองน้องสาวเพื่อนจริงจัง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยมีวันไนท์สแตนด์กับสาวซิง แต่เพราะคนตรงหน้าคือปาลีน้องสาวของปุริมไงเขาถึงปล่อยเลยตามเลยไม่ได้ แค่ต้องเห็นหน้าปุริมทุกวันเขายังทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คนมีชนักติดหลังร้อนๆหนาวๆทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าเพื่อน
“พี่เพลิงอย่าเยอะได้ป่ะ แค่ได้กันมันจะอะไรนักหนา พี่ไม่พูดปิ่นไม่พูดมันก็จบ”
นี่แหละปาลีเวอร์ชันปกติ พูดจาเอาแต่ใจไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น ต่างจากปาลีในคืนนั้นที่ทั้งอ่อนแอและน่าสงสาร
“หรือถ้ามันทำใจยากนะ งั้นพี่เพลิงเอานี่ไป” ปาลีหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาดึงแบงก์ที่อยู่ด้านในทั้งหมดยื่นไปให้เพลิงนิล “ถือว่าปิ่นซื้อพี่กิน”
“ปิ่น!”
จากที่รู้สึกผิดก็ถูกความโกรธเข้ามาแทนที่ แววตาของเพลิงนิลลุกโชนราวกับมีกองไฟสุมอยู่ อุตส่าห์ตั้งใจคุยด้วยดีๆทว่าอีกฝ่ายกลับทำเหมือนเขาไม่มีศักดิ์ศรี ตั้งแต่เกิดมาคนอย่างเพลิงนิลไม่เคยถูกใครเอาเงินฟาดหัวยกเว้นปู่
เขาเป็นถึงทายาทรุ่นที่สามของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ ต่อให้เอาครอบครัวและเครือญาติทั้งหมดของปาลีมารวมกันยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของทรัพย์สินที่เพลิงนิลมีด้วยซ้ำ
ฝ่ามือใหญ่กระชากร่างเล็กของปาลีให้ลงมานั่งอยู่บนตัก กักขังเธอเอาไว้ด้วยลำแขนแกร่งเพียงข้างเดียว
“โอ๊ย! พี่เพลิงปิ่นเจ็บ!”
คนตัวเล็กแหดเสียงใส่ จ้องมองเพื่อนพี่ชายด้วยความไม่พอใจ
“ปล่อยนะ!” เธอผลักไสท่อนแขนแข็งแรงที่รัดเอวแน่น ยิ่งดิ้นมากเท่าไหร่ก็เหมือนเขาจะรัดตัวเธอให้แน่นมากขึ้นเท่านั้น
“อย่ามาทำนิสัยเสียใส่พี่ พี่ไม่ใช่ไอ้ปืน”
เพลิงนิลเค้นเสียง กระซิบข้างหู เห็นท่าทีรังเกียจของคนในอ้อมแขนแล้วร้องหึในลำคอ
เมื่อก่อนเขาอาจจะทำเป็นมองข้ามนิสัยเสียๆของปาลี แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้คนอายุน้อยกว่ามาปีนเกลียว
“สะอิดสะเอียนมากหรือไง วันนั้นยังอ่อยพี่อยู่เลย นี่ปิ่นถามจริงๆนะวันนั้นเมาจริงๆให้ตั้งใจให้ท่าพี่กันแน่”
“พี่เพลิง!”
“เรียกทำไม วันที่นอนครางใต้ร่างพี่ก็เรียกจนเสียงแหบแล้วนี่”
ปาลีขบริมฝีปากแน่น ดวงตาสะท้อนความโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก
“ที่พี่เซ้าซี้ปิ่น อยากให้มาคุยกันดีๆเพราะเห็นแก่ไอ้ปืน ถึงเราจะเมากันทั้งคู่แต่พี่ก็เป็นผู้ชายและเป็นคนอายุมากกว่า”
“ก็ปิ่นบอกว่าเรื่องมันจบแล้วไง พี่จะฟื้นฝอยหาตะเข็บทำไมเล่า”
“ที่มาอารมณ์เสียใส่เพราะพี่เซ้าซี้ หรือเพราะเห็นรูปในอินตาแกรมไอ้เวย์กันแน่”
คนที่ดิ้นขลุกขลิกในอ้อมแขนหยุดชะงัก รูปที่ว่าคือรูปคู่ของเวธัสกับแฟนเก่าที่เปิดเผยสถานะใหม่อวดให้คนทั้งโลกได้รับรู้ผ่านอินตาแกรม
ผู้ชายที่ปาลีแอบชอบบอกปฏิเสธเธออย่างเลือดเย็น แล้วเปิดตัวคบกับแฟนเก่าอย่างเป็นทางการ
“โกรธไอ้เวย์ก็อย่าเอามาลงกับพี่ แล้วไอ้นิสัยเอาเงินฟาดหัวคนอื่นก็เลิกซะ เงินที่แบมือขอพ่อแม่ทั้งที่ตัวเองหาไม่ได้มันไม่ได้ดูเท่นักหรอก”
“พี่เพลิงไม่ใช่พ่อปิ่น ไม่ต้องมาสอน ขนาดพี่ปืนยังไม่ว่าปิ่นเลย อื้อ!”
เพราะไอ้ปืนไม่รู้จักสั่งสอนน้องไง เพลิงนิลถึงต้องจัดการสั่งสอนแทนด้วยการจับปลายคางเรียวขึ้นมารับจูบที่หนักหน่วง
มือใหญ่บีบบังคับปลายคางของปาลีเอาไว้ จูบปากที่เถียงคำไม่ตกฟากด้วยการบดเคล้าริมฝีปากนิ่มอย่างกักฬะ รุนแรงจนริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อ
“อย่าลามปามผู้ใหญ่”
จูบจนพอใจก็ปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ พร้อมกับเค้นเสียงต่ำชิดข้างหู
ปาลียกมือขึ้นมาถูริมฝีปากที่บวมแดงแรงๆ ผลักอกร่างสูงออกเมื่อเขาเผลอ พอเป็นอิสระก็วิ่งออกจากร้านไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามอง