“แกยังไม่หายเศร้าเรื่องพี่เวย์อีกเหรอปิ่น”
คำถามของโยษิตาไม่ได้ทำให้คนที่นอนนิ่งเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณตอบสนองอะไรกลับมา ดวงตาของปาลีสนใจแค่เพียงสายฝนที่กระหน่ำลงมาเป็นสายผ่านกระจกใสนอกระเบียง
ไม่รู้วิวตรงนั้นมีอะไรนักหนาปาลีถึงนอนมองอยู่อย่างนั้นนานเกือบครึ่งชั่วโมง นอกจากสายฝนที่เทลงมาห่าใหญ่กับเสียงฟ้าร้องและความชื้นแฉะ
“ทำใจเหอะปิ่น”
โยษิตาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเบดข้างๆปาลี มือขาวเนียนยกขึ้นมาลูบหลังเพื่อนเบาๆ ปลอบประโลมคนอกหักด้วยความห่วงใย ปาลีแอบรักเวธัสมานานหลายปีทำทุกวิถีทางให้เพื่อนพี่ชายหันมามอง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะกลับไปคบกับแฟนเก่า โดยไม่คิดจะให้โอกาสปาลีเลยสักครั้ง
เคยเตือนให้ตัดใจอยู่หลายครั้งแต่ปาลีก็ยังดื้อดึง
‘รักมากแล้วยังไง ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้รักเรา’
ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนที่มีความรู้สึกตรงกัน แต่ถ้าคนหนึ่งรักแต่อีกคนหนึ่งไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เขาเรียกว่ารักข้างเดียว…
ปาลีรักข้างเดียวมานาน นานมากจนโยษิตาคิดว่ามันน่าจะพอได้แล้ว
“โย…” เสียงที่เรียกดูอ่อนแอ มากเสียจนโยษิตาใจหาย
ปกติปาลีเป็นคนเข้มแข็ง เอาแต่ใจและร้ายกาจทว่าในความเป็นจริงแล้ว ปาลีเป็นคนอ่อนไหวยิ่งกับความรักยิ่งอ่อนหัดราวกับเด็กไร้เดียงสา เพราะตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบเอ็ด ผู้ชายที่ปาลีรักมีเพียงเวธัสแค่คนเดียว
อานุภาพของอาการอกหักจากรักครั้งแรกมันรุนแรงมากขนาดไหน คนที่มีประสบการณ์มาก่อนย่อมรู้ดี
แต่พอเวลาผ่านไป บาดแผลพวกนั้นก็จะหายไปด้วย แม้จะทิ้งรอยแผลเอาไว้แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บ
“แกมานอนคอนโดฉันสามวันแล้วนะ แล้วสามวันที่ว่าแกก็อยู่ในสภาพแบบนี้”
จากสาวสวยขวัญใจคณะที่หนุ่มๆทั้งมหาลัยใฝ่ฝัน กำลังตรอมใจนอนซมเป็นอีเพิ้ง หน้าตาซีดเซียวไร้ชีวิตชีวาจนโยษิตาทนดูไม่ได้
“ไป…ลุก”
โยษิตาลุกขึ้น ดึงแขนของคนที่นอนไร้เรี่ยวแรงให้ลุกตาม
“ไปไหน”
“อาบน้ำแต่งตัว เอาให้สวยเริ่ดที่สุดเลยแล้วไปแดนซ์กัน”
“ไม่ไป”
ปาลีไม่มีอารมณ์ทำอะไรแบบนั้น เธอยังจำวันที่เมาจนเผลอไปขึ้นเตียงกับเพลิงนิลได้ แถมยังถูกเขาจูบซ้ำมาอีกเมื่ออาทิตย์ก่อน ปาลีไม่อยากไปไหนทั้งนั้น ไม่อยากเจอหน้าใครรวมทั้งพี่ชายด้วย ถึงได้ระหกระเหินมาค้างกับโยษิตาที่คอนโด
“ต้องไป”
อดีตดาวมหาลัยไม่ยอมแพ้ ดึงแขนปาลีให้ลุกขึ้นอีกครั้ง เมื่อสำเร็จก็ใช้สองมือจับที่บ่าของเพื่อนเรียกสติที่ยังไม่กลับมาดี “วิธีลืมผู้คนเก่าได้เร็วที่สุดคือ แกต้องมีผู้คนใหม่ มาไปอาบน้ำ” ว่าแล้วก็ดันหลังปาลีให้เข้าในห้องน้ำ พร้อมกับปิดประตูล็อกลูกบิดให้เสร็จสรรพ
ระหว่างที่รอก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เลือกหาชุดในปาลีใส่ออกไปเปิดตัวเปิดใจในค่ำคืนนี้
“ฉันว่าชุดมันออกจะโป๊ไปหน่อยไหม”
มือเล็กปัดป่ายไปยังด้านหลังที่เปลือยเปล่า ชุดที่โยษิตาเลือกให้เป็นชุดเดรสสีดำรัดรูป แบบคล้องคอด้านหน้าไม่เท่าไหร่แต่ด้านหนังนี่สิ เปิดแผ่นหลังขาวทั้งแถบ แถมยังเว้าลึกจนเกือบถึงสะโพก ยังดีที่ปาลีผมยาวพอจะปล่อยให้มันปิดบางส่วนไปบ้างแต่ก็ไม่มั่นใจอยู่ดี
ปกติปาลีไม่ค่อยแต่งตัวเซ็กซี่ เพราะคุณแม่ที่บ้านค่อนข้างเจ้าระเบียบและใส่ใจกับภาพลักษณ์ทางสังคมอยู่ไม่น้อย ถึงจะมีนิสัยเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็กแต่ก็เป็นลูกสาวที่เชื่อฟังคุณแม่อยู่ดี
ทว่าวันนี้เด็กเรียบร้อยถูกจับแปลงโฉมให้กลายเป็นสาวสวยแซ่บจนหนุ่มๆน้ำลายหกกันเป็นแถว
“ไม่โป๊เลย สวยแซ่บสุดผู้ชายมองแกเต็มเลย เข้าไปกันเถอะ”
หลังจากยืนคุยกันอยู่หน้าผับได้สักพัก โยษิตาก็ดึงแขนปาลีให้ตามเข้าไป ผับแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากคอนโดโยษิตามมากนัก ขับรถเพียงยี่สิบนาทีก็ถึง เป็นผับดังขึ้นชื่อมากในแวดวงสายปาร์ตี้ ซึ่งโยษิตาคือหนึ่งในนั้น
เจ้าแม่แฮงค์เอ้าท์พาปาลีขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นโต๊ะโซฟาริมระเบียง ซึ่งเป็นโซนกึ่งวีอีพีที่ไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนัก โยษิตาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างคุ้นชินยกมือเรียกพนักงานที่คุ้นเคยเพื่อสั่งเครื่องดื่ม
“ฉันเลี้ยงเอง อยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่” สาวผมบ๊อบสั้นสีน้ำตาลบอกอย่างอารมณ์ดี โยษิตาเป็นสาวมั่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งยังสวยน่ารักแทบจะไร้ที่ติถึงได้ตำแหน่งดาวมหาลัยมาครอง
“แกสั่งแล้วกันฉันไม่ถนัด” ปาลีบอก
โยษิตาพยักหน้ารับแล้วหันไปสั่งลิเคียวให้กับตัวเองและสั่งค็อกเทลให้กับปาลี
“ช่วงนี้มีค็อกเทลสูตรใหม่เป็นสูตรของทางร้าน คุณโยจะลองเทสหน่อยไหมครับ” พนักงานหนุ่มเสนอพูดคุยอย่างสนิทสนมกับลูกค้าประจำ
“อืม ได้สิเอามาลองสองแก้ว”
พอได้รับออร์เดอร์พนักงานหนุ่มก็ยิ้มหวานแล้วรับทิปเป็นแบงก์สีเทาด้วยความนอบน้อม ใครบ้างไม่รู้จักโยษิตาคุณหนูไฮโซบ้านรวยแถมยังเป็นลูกสาวของรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่อีก ทั้งสวยทั้งรวยแถมยังเปย์เก่งหนุ่มๆต่างก็หมายปองเป็นของธรรมดา
เนื่องจากโยษิตาเป็นสาวสังคมจึงไม่แปลกเลยถ้าจะมีคนรู้จักแวะเวียนมาทักทายอยู่เรื่อยๆ จากที่นั่งกันแค่สองคนก็มีคนรู้จักของโยษิตามาขอร่วมโต๊ะเพิ่มอีกสามคนเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโตในแวดวงการเมืองที่อายุมากกว่าพวกเธอห้าปี
ปาลีไล่ตามองเพื่อนของโยษิตาทีละคนเมื่อเพื่อนสาวแนะนำให้เธอได้รู้จัก คนที่โดดเด่นมากที่สุดในสามคนนี้คงจะเป็น หนุ่มลูกครึ่งที่มีผมสีดำตาสีเทาอมเขียวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับปาลี ทั้งใบหน้าและความสูงดูคล้ายๆใครบางคน
“มองหน้าผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” เขาเอ่ยถาม ใบหน้ามีรอยยิ้มมุมปาก
“ปะ เปล่าค่ะ ขอโทษที” ปาลีแก้เขินที่ถูกจับได้ว่ากำลังแอบมอง ด้วยการยกค็อกเทลขึ้นดื่ม แม้ว่าจะรู้สึกมึนขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่ดื่มไปหลายแก้ว
“พี่ไวน์อย่าแซวเพื่อนโย”
“นั่นดิไอ้ไวน์ อย่าแซวน้องปิ่น”
“พี่เรย์นั่นแหละตัวดี เลิกมองเพื่อนโยสักที คนนี้ห้าม!” โยษิตาปรามรุ่นพี่ทั้งสองที่มองปาลีไม่วางตา โดยเฉพาะรัชชานนท์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง นั่งมองปาลีด้วยสายตามันวาวราวกับนักล่าจ้องมองเหยื่อ คนรู้ทันยกนิ้วชี้คาดโทษไว้ก่อนเลย
“ไอ้เรย์ไอ้ไวน์ อย่าไปแกล้งเพื่อนน้องโยไม่งั้นไปนั่งกันที่อื่นพวกเวนนี่” สาวสวยคนเดียวในกลุ่มชื่อเจลกาหรือพี่เจียว เป็นลูกพี่ลูกน้องของโยษิตาและเป็นเพื่อนสนิทของไวน์กับรัชชานนท์
“ปิ่นขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหมปิ่น” โยษิตาถาม
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมานะคะ” ท้ายประโยคปาลีบอกกับรุ่นพี่ทั้งสามคน แล้วลุกเดินออกไป
“โย เพื่อนเรานี่ยังโสดไหม” ลับหลังปาลีลุกออกไป รัชชานนท์ที่มองตามหลังคนสวยไปสุดสายตาก็หันมาถามโยษิตาด้วยสายตามีความหวัง
“หยุดเลยพี่เรย์คนนี้โยห้าม จะจีบเล่นจีบจริงก็ไม่ได้เพื่อนโยพึ่งอกหักมา แผลยังสด”
“โธ่ เห็นพี่เป็นคนยังไง พี่แค่ถาม”
“หึ อย่างพี่เรย์ไม่แค่ถามหรอก นี่ถ้ายัยปิ่นไม่กำลังเสียใจ พี่โดนเพื่อนโยด่าเปิงแน่”
“ร้ายขนาดนั้นเชียว” คนที่ถามประโยคนี้ไม่ใช่รัชชานนท์ แต่เป็นหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งดื่มนิ่งๆมาสักระยะ
โยษิตาเลิกคิ้วมองรุ่นพี่อีกคนอย่างสงสัย
“คงไม่ใช่ว่าพี่ไวน์สนใจเพื่อนโยหรอกนะ”
คำถามของโยษิตาไม่รับคำตอบใดๆจากหนุ่มลูกครึ่ง เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแล้วทิ้งท้ายไว้ว่า “ไปห้องน้ำนะ” จากนั้นก็ลุกเดินดุ่มๆออกไป
“พี่เรย์ พี่เจียว” ไม่ได้คำตอบจากไวน์ โยษิตาก็หันมาคาดคั้นเอาคำตอบจากเพื่อนๆของเขาแทน
รัชชานนท์ยกไหล่ไม่มีคำตอบ ส่วนเจลกาส่ายหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ถึงไวน์จะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรแต่ถ้าคบรัชชานนท์เป็นเพื่อนได้ก็คงเป็นเสือซุ่มเรื่องผู้หญิงไม่ต่างกัน