รุ่งเช้า
กระดุมเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าเม็ดสุดท้ายถูกกลัดเข้ากับรังดุม เคิร์กอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่แขนเสื้อถูกพับจนเกือบถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์สีซีด มือหนายกขึ้นเสยผมสีบลอนเข้มอย่างลวกๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มีไรเคราจางๆ ล้อมกรอบหน้าค่อยๆ หันมาที่ร่างเล็กของเขมรดาที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม ซึ่งหล่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วในชุดเดิมที่สวมใส่มาตั้งแต่เมื่อคืน
“คุณรู้จักผมมาก่อนหรือเปล่า”
เคิร์กถามตอนที่พาตัวเองมาหยุดตรงหน้าเขมรดา ดวงหน้าเรียวสวยแหงนเงยขึ้นมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากโซฟาที่หล่อนนั่งนัก ดวงตาคู่สวยไหวระริกยามที่ตอบออกไป
“รู้ค่ะ ฉันเคยเห็นคุณในทีวี”
ใครบ้างล่ะที่จะไม่รู้จักนักแข่งฟอร์มูล่าวันที่ได้แชมป์ติดกันถึงสี่สมัยและมีค่าตัวสูงสุดเป็นอันดับที่หนึ่งของโลกในขณะนี้ สำนักข่าวหลายแห่งต่างประโคมข่าวของเขา รวมถึงโฆษณาสินค้าที่เจ้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็มีอยู่หลายชิ้น บ่อยครั้งที่หล่อนเห็นเขาเฉิดฉายอยู่บนหน้าจอดิจิทัล นั่นเป็นไปไม่ได้หากอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีเช่นนี้หล่อนจะไม่รู้จักเคิร์ก คาร์เตอร์
แต่ที่หล่อนไม่รู้นั่นก็คือเขาเป็นลูกติดของสามีภัสสร ผู้หญิงที่เธอเรียกว่าคุณน้า
“ถ้างั้นก็ดี จะได้คุยกันง่ายหน่อย”
“...”
“คุณต้องการเงินเท่าไรสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน”
คล้ายกำลังถูกตบเข้าที่หน้าฉาดใหญ่ ก่อนที่เขมรดาจะรู้สึกชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เลือดในกายเย็นเยียบ ร่างกายของหล่อนถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ เขมรดาไม่คิดให้เขาต้องมารับผิดชอบด้วยการเอาชีวิตมาผูกไว้ด้วยกันในฐานะคู่สมรส
หล่อนไม่ได้คาดหวังถึงขนาดนั้น
แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใจร้ายมากถึงเพียงนี้ สำหรับหล่อนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ก็จริง อย่างน้อยเขาควรกล่าวขอโทษออกมาก็ยังดี ไม่ใช่จะฟาดกันด้วยเงินแบบนี้
“ว่าไงล่ะ คุณต้องการเงินเท่าไร เราจะได้จบเรื่องนี้ไปซะ”
แม้น้ำเสียงยามที่กล่าวออกไป สีหน้าและท่าทางของเขาจะดูเรียบเฉย หากแต่ในอกกลับวูบไหวเมื่อเห็นดวงตากลมโตนั้นไหวระริกและมองมาอย่างตัดพ้อ เคิร์กยอมรับว่าถูกใจเขมรดาอยู่ไม่น้อย แต่นั่นเพราะหล่อนเป็นหลานของผู้หญิงที่เขาเกลียดจนเข้าไส้ และแน่นอนว่าเขาไม่พร้อมจะมีพันธะและไม่ใช่คนดีถึงขนาดรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงต้องรับผิดชอบผู้หญิงอีกหลายต่อหลายคนที่เคยขึ้นเตียงกับเขา แม้ว่าเขมรดาจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของเขาไปสักหน่อย เขาเป็นคนแรกของหล่อนเรื่องนั้นเขารู้ดี แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เขายอมผูกมัดตัวเองเอาไว้ เขมรดาคงไม่แตกต่างจากน้าสาวของหล่อนอย่างภัสสร เผลอๆ อาจจะรู้เห็นเป็นใจกันเสียด้วยซ้ำ
แต่เพื่อเห็นแก่พรหมจรรย์ของหล่อน และเขาก็คิดว่าเงินสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ โดยเฉพาะกับคนที่เกี่ยวข้องกับภัสสร ผู้หญิงที่หิวเงินคนนั้น
“ว่าไงล่ะ คุณต้องการเท่าไร ผมจะให้คนของผมจัดการเรื่องเช็คให้”
เขมรดาเม้มเรียวปากเข้ากันแน่นตอนที่จ้องลึกเข้าในดวงตาสีเฮเซลนัทของร่างสูง ขอบตาร้อนผ่าวหากแต่โชคดีที่ไม่มีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ร่างบางพยุงตัวลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขา
“อย่าลำบากเลยค่ะ ขิมไม่ต้องการ”
เคิร์กมองเขมรดาอย่างพิจารณา ทั้งคู่ประสานสายตากันก่อนจะเป็นเขมรดาที่หลบสายตาคมเข้มนั่นไปก่อน หล่อนนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง
“แสนเหรียญ พอไหม”
ราวกับถูกมีดปลายแหลมกรีดลงบนหัวใจซ้ำๆ จนเป็นแผลเหวอะหวะ เขมรดาได้แต่เม้มเรียวปากเข้าหาแน่นในขณะที่ขอบตาทั้งสองข้างร้อนจัดมากกว่าเดิม และสุดท้ายหล่อนก็ไม่อาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้ น้ำใสๆ ไหลลงอาบแก้มในขณะที่ดวงหน้าเรียวก้มลงต่ำมองมือที่ประสานกันที่หน้าตักของตน
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกค่ะ ขิมไม่ต้องการ”
เขมรดาเน้นย้ำเจตนาเดิมด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างที่ไม่อาจห้ามได้ มีหลายเหตุการณ์ในชีวิตของหล่อนที่ทำให้รู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกและรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง
และครั้งนี้ก็เช่นกัน
ทำไมคนตรงหน้าหล่อนถึงได้ใจร้ายขนาดนี้
แต่เมื่อคิดถึงย่าเล็ก ความท้อแท้ความสิ้นหวังที่แว่บเข้ามาในหัวก็ค่อยๆ เลือนหายไป หล่อนจะต้องสู้กับปัญหาที่เข้ามาให้ได้
และปัญหาในครั้งนี้นั่นก็ด้วย
เขมรดายังคงก้มหน้าอยู่เช่นนั้นแม้จะให้คำตอบออกไปแล้ว และเคิร์กเองก็สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงสั่นเครือของหล่อน วูบหนึ่งที่กล้ามเนื้อในอกซ้ายของเขากระตุกวูบ แต่ก็เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
“ผมถือว่าผมให้ทางเลือกกับคุณแล้วนะ และผมก็หวังว่าจะไม่มีปัญหาทีหลัง เรื่องนี้จะต้องไม่มีใครรู้ ขอให้จบแค่ในห้องนี้”
“...”
“เพราะถ้ามีคนอื่นรู้มันจะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผม”
เคิร์กบอกเพียงเท่านั้นแล้วเดินกลับไปนั่งที่ปลายเตียง และเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจหล่อนอีก ส่วนเขมรดานั้นก็นั่งนิ่งพยายามกลั้นอาการสะอื้นเอาไว้ มือเล็กยกขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อน้ำตาเหือดแห้ง
ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้นประตูห้องก็ปลดล็อค
“ขอโทษครับคุณเคิร์ก ลูกบิดประตูมีปัญหา ผมเพิ่งตามช่างมาได้” พ่อบ้านวัยกลางคนค้อมศีรษะน้อยๆ เป็นการขออภัย
“ไม่เป็นไร ขอบใจมาก”
“ขอตัวนะครับ”
พ่อบ้านกล่าวก่อนจะถอยออกไปพร้อมช่างคนนั้น เขมรดาขยับตัวลุกขึ้นเมื่อเห็นประตูเปิดกว้าง เท้าเล็กขยับออกไป ในเมื่อหล่อนกับเขาตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ในห้องนี้อีกทว่า
“คุณน้า”
น้ำเสียงที่เปล่งออกไปดูตื่นตระหนกไม่น้อยรวมถึงร่างกายที่ชะงักงัน เขมรดาได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงคอตอนที่ถูกภัสสรมองด้วยสายตาตำหนิระคนแปลกใจ
“ทำไมถึงได้มาอยู่ในห้องนี้”
“เอ่อ คือว่า”
เขมรดาไม่ทันได้ให้คำตอบ เคิร์กที่ขยับเท้าเข้ามายืนซ้อนที่ด้านหลังของหล่อนตั้งแต่ตอนไหนหล่อนเองก็ไม่รู้เป็นคนให้คำตอบแทน
“คุณเป็นคนส่งหลานของคุณเข้ามาในห้องของผมไม่ใช่หรือไง”
มุมปากของเคิร์กยกยิ้มอย่างเย้ยหยัน ดวงตาคมกริบมองภัสสรด้วยสายตาดูแคลนระคนเกลียดชัง คนถูกกล่าวหาได้แต่กำหมัดแน่น ส่วนเขมรดานั้นเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าวที่ออกมาจากริมฝีปากหยักสวย ร่างกายของหล่อนก็ชาหนึบไปทั้งตัว