บทที่ 5 ความจริงอีกมุม 3

943 Words
โปรดปรีดาเม้มปากแน่น ถึงไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แต่เดาว่าเขาคงส่งคนไปสืบหาความจริงเรื่องนี้แล้ว ยังจะมาถามเธออีกทำไม อยากประชดกล่าวหาว่าเธอสร้างภาพอย่างนั้นหรือ เธอไม่สนใจหรอก แต่จะไม่ยอมให้เปรมปรีดีด่างพร้อยเพราะเธอแน่นอน “ฉันถามเธออยู่ ทำไมถึงไม่พูด” ดนุวัศบีบข้อมือเธอแน่นจนรู้สึกร้าว โน้มหน้าต่ำลงมาจนปลายจมูกแทบจะเกยกัน ทำเอาลมหายใจของเธอขาดห้วงเมื่อปากเขาเฉียดผ่านปากเธอไปเพียงนิดเดียว แต่โปรดปรีดายังคงดื้อรั้น เลือกที่จะผินหน้าหนีดีกว่ายอมปริปาก “โปรดไม่มีอะไรจะพูด” “ฉันเป็นคู่หมั้นของเปรม ฉันมีสิทธิ์จะรู้” เขาเค้นเสียงถามข้างหู อ้าปากขบกัดเน้นย้ำอย่างไม่นุ่มนวลนัก “หรือต้องให้ฉันง้างปากเธอด้วยปากฉัน” โปรดปรีดาตาลุกโพลง ยังไม่ทันจะดิ้นหนีก็ถูกปากหยักทาบทับปิดปากเธอแน่นสนิท มือหนากดข้อมือเธอตรึงแน่น บดจูบอย่างดุดันทั้งบีบคั้นเอาแต่ใจ ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หายใจหายคอด้วยซ้ำ เอาแต่บดขยี้ริมฝีปากบอบบางบี้แบน ลิ้นร้ายสอดลึกรุกรานกวาดต้อนลมหายใจ กลืนกินสติสัมปชัญญะให้พร่าเลือน จูบเอาๆ อย่างหน้ามืดตามัวราวกับจะสูบเอาวิญญาณเธอไปทั้งดวง แรงบดเบียดอันร้อนรุ่มจากตัวเขาเสียดสีเนื้อตัวเธอจนร้อนเร่าใบหน้าแดงเห่อ ร่างกายสะท้านยิ่งขึ้นเมื่อเขาลูบไล้ลากปลายนิ้วลูบคลึงจากท่อนแขนเลื่อนมาตามสีข้าง กดน้ำหนักที่บั้นท้ายแล้ววกกลับขึ้นมาเฉียดผ่านฐานทรวง จนโปรดปรีดาเผลอร้องครางออกมาด้วยความคาดหวังระคนเสียวซ่าน เขาไล้ข้อต่อปลายนิ้วไปบนผิวแก้ม สัมผัสอย่างหวามละมุนคล้ายกลัวจะทำให้ผิวอ่อนนุ่มของเธอชอกช้ำ “ทีนี้จะพูดได้รึยัง” เสียงกระซิบข้างหูลุ่มลึกแหบพร่าซึมซาบลงสู่ผิวเธอจนใจสั่น โปรดปรีดาหลับตาต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก ก่อนจะตัดสินใจได้ว่าเธอควรเลิกหนี เลิกหลบตา แล้วเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ ไปเลยจะดีกว่า เธออยากจะต่อสู้เพื่อตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย อยากแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างเรา “ถ้าพูดแล้วพี่ดอมจะเชื่อเหรอคะ ถ้าโปรดบอกว่าไม่ใช่ฆาตกร โปรดไม่ได้ฆ่าเปรม ไม่เคยแม้แต่จะคิด พี่จะเชื่อโปรดมั้ยคะ” อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะตอบอย่างไร? ดนุวัศชะงัก เป็นฝ่ายนิ่งเงียบพูดไม่ออกบ้าง โปรดปรีดาถามเขา แล้วเขาจะตอบอย่างไร ในเมื่อเขาเองยังไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเลย จนถึงตอนนี้เขายังคงเชื่อมั่นในความคิดของตนว่าโปรดปรีดาเป็นคนไม่ดี เธอทำร้ายพี่สาวตัวเอง ยิ่งนึกถึงร่างที่ไร้วิญญาณของเปรมปรีดี เขายิ่งทำใจให้ลืมไม่ได้ แต่ความจริงอีกแง่มุมที่เพิ่งได้รู้กลับตบหน้าเขาอย่างจัง ทำให้สมองของเขาสับสนมึนงง ไม่รู้จริงๆ ว่าควรคิดอะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าควรเชื่อสิ่งใดอีก เห็นดนุวัศเอาแต่เม้มปาก โปรดปรีดาก็ยิ้มขื่น เข้าใจคำตอบได้โดยปริยาย จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เชื่อเธออยู่ดี “ถ้าอย่างนั้นพี่จะถามไปทำไมคะ รู้แล้วจะได้อะไร” “...” “ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วหรอกค่ะ” ต่อให้เธอบอกว่าที่บริจาคตับเพราะอยากเห็นคนที่เธอรักสองคนมีความสุข ดนุวัศก็คงมองว่าเป็นเพียงคำปลิ้นปล้อนโกหกของเธอเท่านั้น พูดหรือไม่พูดก็มีค่าไม่ต่างกัน “...” ดนุวัศสบดวงตาใสสะอาดแม้จะอยู่ในความโศกเศร้าแล้วนึกอยากจะเชื่อเธอเหลือเกิน แต่ภาพคนรักที่ตายอย่างน่าเวทนายังคงติดตาและคอยฉุดรั้งเขาเอาไว้ ย้ำเตือนว่าการตายของเปรมปรีดีเป็นสิ่งที่โปรดปรีดาติดค้างทั้งเขาและหล่อน... นี่ต่างหากคือความจริง! “ถึงเธอจะบริจาคตับให้เปรมจริงๆ แต่มันก็พิสูจน์ ไม่ได้ว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเปรม” เขาเอ่ยอย่างเย็นชา ตัดช่องทางที่จะทำให้ตัวเองใจอ่อน โปรดปรีดายิ้มบางๆ ราวกับยอมรับข้อกล่าวหา ที่จริงมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งมองเธอ เขายิ่งหงุดหงิดเหมือนมีกองไฟเล็กๆ สุมอยู่ในอก ไม่ได้แผดเผาจนเจ็บปวด แต่ก็ทำให้กระวนกระวายใจชอบกล Rrrr… Rrrr… เสียงสมาร์ตโฟนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันระหว่างกัน ดนุวัศรับสาย สีหน้าเข้มขึ้นนิดๆ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปทันที คนป่วยมองตามแผ่นหลังที่หายลับไปด้วยความปวดร้าว รู้ดีว่าสายเมื่อกี้คือผู้หญิงที่เขาพากลับมาบ้าน เธอได้ยินน้ำเสียงออดอ้อนกระเด็นออกมาดังแว่วๆ หล่อนคงมีความสำคัญมาก สีหน้าดนุวัศจึงดูร้อนใจแบบนั้น ถึงขนาดหุนหันออกไปโดยไม่สนใจอะไรเลย ความน้อยใจตีตื้อจุกอกจนน้ำตาเอ่อคลอจวนหยด แต่โปรดปรีดาเงยหน้ากลั้นมันเอาไว้อย่างสุดกำลัง เตือนตัวเองว่าเธอตัดสินใจเลือกทางนี้แล้วก็อย่าอาลัยอาวรณ์ อย่าร้องไห้ให้ผู้ชายคนนี้อีก อย่าเสียใจ! ถ้าคิดจะตัดก็ตัดให้หมดอย่าเหลือเยื่อใย ‘น้ำตา’ ควรจะเปลี่ยนเป็นความ ‘เข้มแข็ง’ ถึงจะถูก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD