หวั่นไหว

906 Words
ชาเมลtalk (เมลฟังอยู่ไหม) เสียงของวินถามขึ้นเพราะฉันไม่ตอบเขาหลังจากที่เล่นมาได้สามถึงสี่เพลงแล้ว “ฟัง” (แล้วทำไมไม่พูดบ้างละ) “ถึงบ้านละ” จริงๆ ฉันถึงบ้านนานละแต่ยังอยากฟังเขาร้องเพลงอยู่ (ถึงแล้วหรอยังร้องไม่เสร็จเลยนะเหลืออีกตั้งหลายเพลง) “แต่ฉันถึงแล้วไง” (ก็ได้ๆ เดียวก่อนนอนโทรไปอีกนะ) “.........” โทรมาอีกหรอแล้วเขาจะโทรมาทำไม (โทรไปได้ไหม) “อยากทำอะไรก็ทำเถอะแค่นี้นะ” เบื่อคนอย่างคนเขาจริงๆ ถ้าจะโทรก็โทรเถอะจะมาบอกทำไม แล้วฉันเป็นอะไรเนี่ยนี้ฉันยอมคุยกับเขาแล้วหรอทำไมใจง่ายอย่างนี้ยอมยกโทษให้เขาได้ไงวะชาเมล พอขึ้นมาบนห้องแล้วฉันก็ทบทวนหนังสือแล้วก็ค่อยอาบน้ำ ฉันไม่ค่อยได้ร่วมโต๊ะอาหารกับคนในครอบครัวหรอกเพราะไม่อยากทะเลาะกับป๊า ส่วนมากพี่แม่บ้านจะยกขึ้นมาให้มากกว่า แล้วเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรที่ฉันไม่กินข้าวด้วยเอาดีๆ ก็คิดว่าเขาแอบดีใจมากกว่าอีกนะที่เป็นแบบนี้ หลังจากที่อ่านหนังสือเสร็จฉันก็มาร์คหน้าต่อ ก่อนจะนอนฉันต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าผมประมาณเกือบๆ 20นาทีเพราะหลายอย่างต้องลงหลายจุดมากเลยต้องให้เวลากับหน้าผมนิดนึง ~ตึด ตึด ตึด~ ฉันเหลือบมองโทรศัพท์ก็เห็นว่ามีคนโทรมาเลยรีบกดรับไม่ได้สนใจดูชื่อ (นอนยัง) เสียงของนายวินถามขึ้นอย่างตื่นเต้น ฉันไม่คิดว่าเขาจะโทรมาจริงๆ ด้วยซ้ำ “ยัง” (เปิดกล้องได้ไหม) “ไม่ ไม่เปิดเด็ดขาด” ฉันปฏิเสธเสียงเเข็งเพราะว่ายังไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะได้เห็นหน้าสดของฉัน (ทำไมอะอยากเห็นหน้า) คำพูดของเขาทำเอาใจฉันสั่นพอสมควร มันเหมือนฟิลเเฟนเลยที่เขาพูดคำนี้ออกมา แต่ยังไงก็เถอะฉันไม่ใจอ่อนเเน่นอนเรื่องนี้ “ฉันล้างหน้าแล้ว” (แล้วไงอยากเห็นหน้าสดเธอเหมือนกัน) เขาพูดออกมาอย่างธรรมดา แต่สำหรับฉันมันคือคำหยาบมากที่จะมาขอดูหน้าสด “เป็นบ้าปะมาขอดูหน้าสดคนอื่น ขนาดพ่อแม่เขาอยู่บ้านด้วยกันเขายังไม่เคยเห็นเลยแล้วนายเป็นใครหรอ” ฉันพ้นคำพูดใส่เขาอย่างลืมตัว เพราะว่าอินเกินะไปหน่อย (........) “ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะได้เห็นหน้าสดของฉัน” ขนาดพี่คนส่งของที่มาตอนเช้าๆ เขายังไม่เห็นเลย ถ้าจะไปรับของฉันใส่เสื้อฮูดแล้วรูดขึ้นถึงเบ้าตาตลอด (ขอโทษไม่คิดว่าจะจริงจังขนาดนี้) เขาอาจจะคิดว่าไม่จริงจังนะแต่วำหรับฉันมันสำคัญที่สุด “อืม” (แต่ผู้ชายเขาก็ชอบผู้หญิงหน้าสดนะ) นี้เขายังไม่อยากจบเรื่องหน้าสดหรอได้ “แล้วเป็นอะไรอะ ผู้หญิงซื้อเครื่องสำอาจหมดเป็นหมื่นๆ แต่มาบอกว่าชอบผู้หญิงหน้าสด นี้ถ้าใครพูดต่อหน้าฉันนะแม่จะตีให้เลย” (เธอจริงจังไปปะเนี่ย ไม่เอาๆ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า) ก็ฉันมันจริงจังกับเรื่องแบบนี้นิ รู้แล้วเขาจะพูดออกมาทำไม “แล้วโทรมามีอะไร” (ถ้าไม่มีโทรมาไม่ได้หรอ) นี้เขากำลังจีบอยู่ปะเนี่ยทำไมคำพูดคำจาเป็นแบบนี้ ไม่เบาเลยพ่อหนุ่มคนนี้ “โทรมาจีบหรอ” (แล้วถ้าบอกว่าใช่ละ) “.......” ฉันอยากจะแกล้งเขาสักหน่อยแต่กลายเป็นว่าฉันต่างหากที่เขินกับคำพูดของเขา (ชาเมล) “อืม” (เขินหรอ) นายนี้นั่งอยู่ข้างหลังรึเปล่าเนี่ยทำไมรู้เยอะไปหมดเลย “ใครเขิน แล้วทำไมต้องเขิน” (ไม่เขินก็ไม่เขิน ขอถามได้ไหมว่าทำไมเธอต้องขับรถกลับบ้านทุกวันเลยละแบบนี้ไม่เหนื่อยตายเลยหรอ) “เหนื่อยดิ แต่ทำไงได้ฉันไม่มีคอนโด” (แล้วทำไมไม่ซื้อคอนโด บ้านเธอก็รวย) “ใครบอกนาย” เขารู้ได้ไงว่าบ้านฉันรวย (ไอ้กิตเป็นคนบอก) “เอาไว้เราสนิทกันกว่านี้นะฉันจะบอกนายเอง” (อืม งั้นจะรอนะ) “.......” ดูเหมือนการโทรมาครั้งนี้ของเขามันเปลี่ยนไปมากจากเดิม พูดดีกับฉันมาก ชวนคุยมากขี้น แล้วก็แปลกที่ฉันรู้สึกดีเหมือนกัน (แล้วเหนื่อยไหมที่ขับรถแบบนี้ทุกวัน) คำถามของเขาทำใจฉันฟูมากเพราะไม่เคยได้ยินคำนี้ออกมาปากคนในครอบครัวเลยแต่วินเป็นที่พึ่งรู้จักแต่ฉันกลับได้รับคำถามนี้จากเขา “........” ความน่ารักของเขามันก็มีเยอะนะแต่ทำไมพึ่งมาใช้ (เมลได้ยินไหม) “ได้ยิน แต่ไม่รู้จะตอบว่าไง” (หึ งั้นนอนเถอะเดียวต้องตื่นเช้าอีกกว่าจะถึงมหาลัย) “อืมงั้นแค่นี้นะ” (ค๊าบฝันดีครับ) ฉันนั่งยิ้มนั่งน้อยยิ้มใหญ่กับคำพูดของเขาทั้งๆ ที่เขาวางไปแล้ว น่ารักจังนานแล้วนะที่ไม่มีคนมาคอยบอกคอยถามแบบนี้ พอกลับมารู้สึกอีกทีมันก็ดีไปอีกแบบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD