เช้าวันถัดมา...
ตารางงานของการินว่าง เขาจึงเอ่ยปากบอกว่าวันนี้จะยกเวลาทั้งวันให้กับเธอ คริมาได้ยินทีแรกแทบไม่เชื่อหูตัวเอง คนนิสัยบ้างานน่ะหรือจะยอมให้วันหนึ่งหมดไปโดยเปล่าประโยชน์
เมื่อเธอถามกลับว่าแน่ใจใช่ไหม ชายหนุ่มก็ยิ้มพร้อมกับตอบว่าถือเป็นรางวัลสำหรับเด็กดี ดวงตาคู่คมสะท้อนความภาคภูมิใจในแววตา เพราะเขามีความสุขกับการได้เห็นเธอเติบโตและเก่งขึ้นในทุกวัน แม้อนาคตข้างหน้าอาจไม่สามารถเคียงข้างกันก็ตาม
อีกไม่กี่เดือนคริมาจะเรียนจบแล้ว หญิงสาวมีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากรีบจบออกมาแบ่งเบาภาระมารดาให้เร็วที่สุด เธอใช้เวลาเรียนเพียงสามปีนิดๆ ก็สามารถคว้าเกียรตินิยมมาครอบครอง
จุดหมายแรกของวันนี้คือเมียนดง ถนนท่องเที่ยวสุดฮิตอีกแห่งที่ชาวต่างชาติแวะเวียนเยี่ยมชม เมียนดงมีทั้งร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้งเครื่องสำอางแบบครบวงจร และเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ และแบรนด์ไฮเอนด์ในฤดูกาลนั้นๆ ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว ร้านส่วนมากจะขายเสื้อโค้ต สเว็ตเตอร์ไหมพรม หรือไม่ก็เสื้อคาร์ดิแกนโทนสีมินิมอล
แต่ที่ทำให้คริมาตาลุกวาวไม่ใช่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์เสริมความงามใดๆ หากคือสตรอว์เบอร์รีเคลือบน้ำตาลต่างหาก
“มองตาโตเชียวนะ” การินแกล้งแซว
“คุณกาย ขิมว่าวันนี้เราเดินหาของกินเรื่อยๆ ดีไหมไม่ต้องไปไหนหรอก ดูสิ มีอาหารหลายอย่าง น่ากินทั้งนั้น” คริมาเสนอความคิด แววตาเธอวับวาวกว่าเก่า เมื่อกวาดตาดูสตรีทฟูดส์ทีละอย่างชัดๆ ก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ
“ขิมนี่ไม่เปลี่ยนจริงๆ”
“หมายความว่าไง” เธอย่นคิ้วถามกลับอย่างตรงไปตรงมา เพราะไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
“อันนี้คือชมขิมใช่ไหมคะ”
“กินเก่งไม่เปลี่ยนนี่ถือว่าชมไหม”
“ถึงฟังดูแปลกๆ ขิมก็จะแกล้งเข้าใจว่าคุณกายชมก็แล้วกัน” ร่างบางไหวไหล่ราวไม่คิดมาก เสน่ห์ของคริมาคือเธอมีความเป็นธรรมชาติสูง เวลาอยู่ใกล้แล้วมีความสุขและสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างไม่ต้องเสแสร้ง หากใจไม่แข็งพอคงตกหลุมรักเธอได้ในสักวัน
เว้นแต่เขาที่ต่างจากคนอื่น…การินมีกำแพงหัวใจสูงมาก ชายหนุ่มมั่นใจว่าตัวเองไม่มีวันรักใครง่ายๆ แม้ผู้หญิงคนนั้นจะน่ารักน่าใคร่แค่ไหนก็ตาม
พอต่อล้อต่อเถียงกับเขาเสร็จ หญิงสาวก็หันไปสนใจอาหารต่อ เธอกำลังจะหยิบธนบัตรที่แลกมาจ่ายให้แม่ค้า แต่การินกลับยื่นของตัวเองให้แทน วันนี้ชายหนุ่มรับบทเป็นป๋าเปย์ให้คริมาไม่อั้น
เขาชอบมองเธอกินนั่นนี่ด้วยสีหน้าสุขสันต์ แถมนัยน์ตาเป็นประกายคู่นั้นเล่นเอาใจแกร่งสั่นไหวเบาๆ แปลกดีนะที่การได้มาเที่ยวกับหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มมีรอยยิ้มแทบตลอดเวลา หรือบางทีการินอาจไม่รู้ตัวว่าซอกหลืบในหัวใจที่ปิดตายเอาไว้กำลังจะถูกใครบางคนแง้มเข้ามา…
ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นใครไม่ได้อีกนอกจากเธอ
เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมง ตอนนี้พระอาทิตย์บนฟากฟ้าเริ่มมีดวงจันทร์ขึ้นแทนที่ สองหนุ่มสาวนั่งรถกลับที่พัก การินบอกคริมาให้เปลี่ยนชุด เพราะเขาจองดินเนอร์แสนพิเศษไว้
ร่างบางหมุนตัวหน้ากระจก ดวงตาเป็นประกายสำรวจตัวเองด้วยความตื่นเต้น เธอคิดว่าบางทีคืนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวดีๆ ก็ได้ คนแอบรักจินตนาการเอาไว้มากมาย แถมความรู้สึกข้างในร่ำร้องอยากแสดงออกให้การินรับรู้
พอแต่งตัวเรียบร้อย คริมาก็มุ่งหน้าลงข้างล่างพร้อมการินที่นั่งรออยู่ก่อนบริเวณโซฟา ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนลุกขึ้นมา แต่ละก้าวที่เขาเข้าใกล้ใจสาวเต้นไม่เป็นส่ำไม่ต่างกับกลองชุด ท้องน้อยหวิวโหวงราวกับมีผีเสื้อนับร้อยบินอยู่ข้างใน ความตื่นเต้นหลอมรวมทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา
การินมีเสน่ห์น่าค้นหา คริมารู้ข้อนี้ดี...ยิ่งใกล้เขาเหมือนร่างกายถูกสารเสพติดชนิดร้ายแรง แม้ท้ายที่สุดพิษร้ายอาจกัดกินร่างกายจนแตกสลาย แต่ใจก็เพ้อหาเรียกร้องถึงเขาอยู่ร่ำไป เธอไม่อาจฉุดรั้งตนเองให้เลิกรักเขาได้สักที
สองหนุ่มสาวนั่งรถไปยัง Seoul Tower จุดชมวิวสูงสุดในเมืองหลวง ค่ำนี้การินปิดร้านอาหารหรูให้เธอ เพราะเขารู้ว่าไม่บ่อยครั้งที่จะมีโอกาสมาเที่ยวด้วยกันเช่นนี้ ชายหนุ่มอยากทำทุกอย่างให้พิเศษน่าจดจำที่สุด
แม้ว่าลึกลงไปข้างในใจจะรู้ว่าสักวันอาจต้องปล่อยเธอไป แต่เขาก็ไม่อยากให้คริมาลืมผู้ชายที่ชื่อการิน
‘ความคิดแบบนี้เห็นแก่ตัวดีเนอะ’ ชายหนุ่มเย้ยหยันตัวเองในใจ
เมื่อยานพาหนะคันหรูหยุดลงทั้งคู่ก็ก้าวลงจากรถพร้อมกัน ดวงตาสีน้ำตาลเผยความตื่นเต้นออกมาเพราะซ่อนอาการไว้ไม่อยู่ มือบางหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นถ่ายรูป เก็บบรรยากาศทั้งหมดไว้ อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตการได้มาที่นี่กับเขาถือว่าเป็นความทรงจำพิเศษที่สุดสำหรับคนแอบรักอย่างเธอ
แชะ! แชะ!
ไฟหลากสีรอบร้านอาหารทำคริมาเบิกตากว้าง เมื่อมองลงไปข้างล่างบรรยากาศของโซลในยามราตรีแบบนี้ช่างงดงามไม่ต่างกับอยู่ในความฝันสักนิดเดียว
“คุณกาย…” เสียงหวานเรียกชื่อเขา หากแววตาเป็นกังวล อ่านออกง่ายดายว่าเธอกล้าๆ กลัวๆ
“หืมว่าไง”
“จะเป็นอะไรไหม ถ้าขิมอยากขอให้เราถ่ายรูปด้วยกัน”
การินนิ่งชั่วขณะ ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้อ่านยากเหลือเกิน ภายนอกชายหนุ่มยังรักษามาดนักธุรกิจแสนเย็นชา แต่ถัดจากนั้นไม่กี่นาที เขากลับแย่งสมาร์ตโฟนของเธอ แม้ไม่เอ่ยปากพูดแต่ก็เขยิบเข้ามาใกล้ ยอมทำทุกอย่างอย่างไร้เงื่อนไข
ทั้งหมดนั้นคือคำตอบ
“อย่าลืมยิ้มหวานๆ นะ” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนแนบกายใกล้ชิด มือสากโอบเอวคอดกิ่วแน่น ทำให้เวลานี้ทั้งใบหน้า ลำตัวของการินและคริมาแนบชิดติดกัน
แชะ! แชะ!
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายกดบันทึกความทรงจำของทั้งคู่ รอยยิ้มฉายความสดใสบนริมฝีปากทั้งสองคนทำให้พวกเขาดูไม่ต่างกับคู่รักวัยรุ่นสักนิด คริมายิ้มจนตาหยี ส่วนการินเองก็ไม่วางฟอร์ม เขาเผยลักยิ้มเป็นธรรมชาติ…และนั่นคือรอยยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นในตัวเองมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่วันที่หัวใจถูกบดขยี้
เมื่อถ่ายรูปคู่กันเรียบร้อยดวงตาคู่คมมองรูปบนหน้าจอแวบเดียว เพียงเสี้ยววินาทีที่ชายหนุ่มรู้สึกถึงอัตราการเต้นของหัวใจถี่รัว ทว่าต้องแกล้งหลอกตัวเองว่าคนเราสามารถตกอยู่ในมนตราเสน่หาจนเคลิ้มได้ พอกลับเมืองไทยทั้งเขาและเธอต่างต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งความจริง ไม่มีคำว่ารักในนั้น และความสัมพันธ์ต้องเป็นความลับจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะไม่ต้องการ
“อากาศข้างนอกหนาว เข้าข้างในกันเถอะ”
“เดี๋ยวขิมขออยู่ตรงนี้อีกสักพักได้ไหม”
“อืม แล้วแต่” เขาพยักหน้าตอบ
“งั้นผมเข้าไปก่อนนะ” อยู่ดีๆ การินก็แปลกไป แววตาอ่อนโยนเมื่อครู่กลายเป็นเฉยชาจนคริมาทำตัวไม่ถูก
“ค่ะ คุณกายไปก่อนเลย ขิมถ่ายรูปตรงนี้เสร็จขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง” เมื่อตกลงกันเรียบร้อย เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็เดินทิ้งห่างไม่เหลียวหันกลับมามองข้างหลังอีก ชั่วขณะความหวิวโหวงเกาะกุมใจดวงน้อย เธอน้อยใจเขาแต่ไม่พูดหรือแสดงอะไรให้การินเห็น เพราะไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ วันดีๆ อย่างนี้ควรมีความสุขสิ
คริมาให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะเดินเข้ามินิมาร์ตเพื่อทำบางอย่างดั่งสาวเพ้อฝัน ถ้าการินรู้เข้าคงหาว่าเธอเพ้อเจ้อเป็นแน่!
ผ่านไปสักพักความตั้งใจของหญิงสาวก็ลุล่วงไปด้วยดี เธอทำมันเสร็จก็พาตัวเองเข้าร้านอาหาร และพบว่าเมนูทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย
“นี่คุณกายแพลนไว้หมดแล้วเหรอคะ” คริมากะพริบตาปริบๆ เพราะไม่คิดว่าคนไม่สนใจสิ่งใดนอกจากงานอย่างการินจะทำอะไรแบบนี้
“รางวัลเด็กดีของขิมไง เหมือนที่ผมเคยบอกวันนี้ ขิมจะขอหรือทำอะไรก็ได้ ผมยกให้ขิมทั้งวัน”
“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวประหม่าจนต้องกำมือที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เธอนั่งลงตรงข้ามเขาก็จริงแต่ไม่กล้าสบตา
อาหารมื้อค่ำดำเนินไปเรื่อยจนเกือบสามชั่วโมง การินชวนคริมาคุยนั่นนี่เพื่อให้เธอผ่อนคลาย ไม่เห็นเธอเขินแบบนี้นอกจากเวลาอยู่บนเตียง ภาพตรงหน้าช่างน่าสนใจในความคิดเขา
พอรับประทานเสร็จทั้งคู่ก็พากันกลับโรงแรม แม้หญิงสาวไม่ส่งสายตายั่วยวนเหมือนที่หญิงคนอื่นชอบทำ แต่ความชิดใกล้กำลังทำให้ชายหนุ่มตบะแตก การินนับหนึ่งถึงสิบในใจยามแขนเรียวสัมผัสท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา
ตอนนี้ข้างในกายชายกำลังเดือดพล่าน การินไม่อาจอดกลั้นต่ออารมณ์ปรารถนาได้ต่อไป…
ไม่ไหว…เขาต้องการเธอ
เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออก เจ้าของร่างสูงโปร่งก็ดันคนตัวเล็กชิดฝาผนัง ท่อนแขนกำยำกักคริมาไว้จนไม่อาจขยับกาย เขาทัดปอยผมสีน้ำตาลข้างใบหูเล็กพลางจูบซับ สูดดมความหวานตามผิวกายเธอ
“ขิม…” น้ำเสียงแหบพร่าเรียกชื่อเธอ ความอดทนเขาต่ำลงตั้งแต่บนรถ และก็เพิ่งหมดไปตอนก้าวเข้ามาในห้องนี้ แล้วยิ่งดวงตาหวานสั่นระริกคล้ายกำลังเขินอยู่ เขายิ่งควบคุมตัวเองไม่ไหว เพราะคริมาน่ารักเกินทน
“อย่าหนีสิ ผมอยากเห็นหน้าขิมชัดๆ” พูดจบเขาก็เชยคางมนพร้อมเขยิบกายใกล้ชิด นิ้วเรียวยาวไล้สัมผัสแผ่วเบาข้างริมฝีปากชมพูระเรื่อ
“ขิมสวย…สวยมากรู้ตัวไหม” แววตาคมกริบแฝงด้วยเสน่หาเผยออกมาพร้อมคำชม
“คุณกาย…” ใจหญิงสาวเต้นระรัว เลือดสูบฉีดขึ้นไม่ต่างกับเธอกำลังวิ่งหลายสิบกิโลเมตร มันเต้นแรงและเร็ว อาจเพราะคำหวานทำคริมาอ่อนไหว เธอกำลังเคลิ้มกับผู้ชายตรงหน้า ยิ่งจ้องลึกในดวงตาทรงเสน่ห์ท้องไส้ยิ่งปั่นป่วน สายตานิ่งๆ แต่ทำไมมีอานุภาพร้ายแรงขนาดนี้ และเหมือนการินเองก็รู้ตัว เขาจึงอยากแกล้งให้เธอเตลิดกว่าเก่า
ทันใดนั้นชายหนุ่มกดจุมพิตปิดปากเธอ ลิ้นสากแทรกเข้ามาในโพรงปากอ่อนนุ่ม รสจูบหวานล้ำคล้ายไอศกรีมรสวานิลลาดำเนินขึ้นทำใจทั้งสองดวงเต้นตึกตัก หวานละมุนในทีแรกแล้วค่อยแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงตามสัญชาตญาณเบื้องลึก มือหนาเลื่อนสัมผัสสะโพกผายก่อนไล้ต่ำลงมาสอดใต้กระโปรงสั้น นิ้วยาวนวดคลึงเรียวขาขาวเหมือนกำลังปลุกเร้าความปรารถนาในกายเธอ
หลังจากนั้นการินก็ไล่ปลายนิ้วผ่านหน้าท้องแบนราบเพื่อคลี่สายรัดเสื้อโค้ตตัวหนาแล้วปลดมันทิ้งเป็นอันดับแรก
“พร้อมหรือยัง”
แม้คริมาไม่ตอบ แต่กลับหันหลังให้ชายหนุ่มรูดซิปเดรสตัวสวยแทน ทำเอาการินหัวเราะเบาๆ ในท่าทีเคอะเขินของเธอ
“หรือพร้อมตั้งแต่ยังไม่เริ่มแล้วน้า” เขาแซวตามประสาคนขี้แกล้ง
“คุณกาย ถ้ายังไม่เลิกแกล้งอีก ขิมจะโกรธจริงๆ แล้วนะ” คำขู่ติดปากคริมายังเป็นคำเดิม
“ค้าบ ตอนนี้ยอมขิมหมดแหละ” นักธุรกิจหนุ่มยกธงขาวเลิกแกล้ง แต่ยังไม่วายกดจูบเบาๆ ข้างซอกคอสาวเพราะมันเขี้ยว เพียงเสี้ยววินาทีอาภรณ์อันน่ารำคาญก็ถูกขจัดจนหมดในด่านแรก
นาทีนี้กายสาวเหลือเพียงชุดชั้นในซีทรูสีเนื้อ ผิวกายขาวผ่องสะท้อนแสงไฟเหมือนสะกดสายตาให้เขามองแต่เธอเพียงผู้เดียว
“ขิมน่า…” เขากลืนน้ำลายเพราะลำคอแห้งผากเหลือทน ลิ้นสากโลมเลียเรียวปากหยัก แถมนัยน์ตาคู่คมก็พร่าเบลอเหมือนกำลังต้องมนตร์
“เอามาก รู้ไหม” ประโยคห่ามๆ ทำใบหน้าหวานแดงซ่าน พวงแก้มนุ่มนิ่มเต็มไปด้วยไอร้อนฉ่า ภาพคริมาเขินตัวแดงยิ่งปลุกเร้าความปรารถนาในกายชายเกินกู่กลับ
“ขอนะ”
“ค่ะ” คริมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต คงเพราะเธอน่ารักและพูดง่ายอย่างนี้สินะเขาถึงหลง
การินไม่รอช้า ขยับปลายนิ้วถอดชุดชั้นในออกจากกายสาว ฉับพลันมือของเขาก็เคลื่อนกุมทรวงอกอิ่มพลางก้มหน้าตวัดลิ้นบดขยี้เม็ดทับทิมสีแดง
“อ๊ะ…เบาๆ สิคะ คุณกาย” เสียงหวานครางต่ำขณะมือบางทั้งสองข้างยันผนังเพื่อทรงกาย เรียวลิ้นปรนเปรอจนร่างบางสั่นสะท้านไปทั่วเรือนกาย กว่าจะรู้ตัวอีกทีแพนตี้ตัวสวยก็ร่วงลงสู่พื้นตอนชายหนุ่มยืนขึ้น มือเขาล้วงถุงยางอนามัยออกจากกระเป๋ากางเกง ถัดจากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นเพื่อสานต่อความเร่าร้อน
“ขิมทำให้ผมหน่อย” เอ่ยเสร็จก็จับมือนุ่มสัมผัสกึ่งกลางกาย และเพราะสานสัมพันธ์กันนับครั้งไม่ถ้วน คริมาจึงรู้ทันทีว่าการินอยากให้เธอทำสิ่งใด มือนุ่มรูดแก่นกายชายช้าๆ จนแข็งขึง ก่อนย่อกายลงเบื้องล่างใช้ริมฝีปากครอบครองส่วนนั้น ทำเอาชายหนุ่มครางสยิวในลำคอ
“อ่า…” โพรงปากอ่อนนุ่มยังทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมเหมือนเคย ไม่ว่าจะกี่ครั้งคริมาก็สามารถทำให้เขาคลั่งได้เพียงแค่เธอลงมือสัมผัสแผ่วเบา
“ผมเสียว” การินบอกความรู้สึกข้างในอย่างตรงไปตรงมา เดิมทีเซ็กซ์ของเขาค่อนข้างจัดจ้าน สนใจแค่ความสุขสมของตัวเองเป็นหลัก แต่กับคริมานั้นแตกต่าง
เธอทำให้คนไม่ชอบทำอะไรหวานๆ เริ่มชอบการเล้าโลมเพื่อเอาใจคู่นอน เขาเปลี่ยนไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ปลายลิ้นนุ่มนิ่มเล่นงานกายแกร่งจนเกือบเสร็จสม การินรู้ตัวทันจึงแตะไหล่บางให้ลุกยืนทันที
“อยากเสร็จกับขิมมากกว่า” เสียงทุ้มว่าขณะสวมถุงยางอนามัย เขายกเรียวขาขาวข้างหนึ่งก่อนสอดกายเข้ามา ทีแรกจังหวะรักเริ่มต้นเชื่องช้า เพราะกายอ่อนนุ่มค่อยๆ กลืนกินตัวตนแข็งกร้าวในช่วงเวลาที่ทั้งสองร่างสอดประสานกัน และมันก็เสียวซ่านจนหนุ่มสาวแทบขาดใจ
“อ๊ะ…”
“อ่า…” เสียงครางแผ่วเบาลอดผ่านริมฝีปากทั้งคู่ คงเป็นเพราะกายสาวรัดเขาแน่นมาก แถมตัวตนเธอยังให้ความรู้สึกดีเหมือนทุกครั้ง จะบอกว่าการินเสพติดคริมาก็ย่อมได้ ตั้งแต่ตกลงสานสัมพันธ์ลับๆ ในฐานะคู่นอน เขาก็ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย
ชายหนุ่มมีแค่เธอ...
สัมพันธ์สวาทจึงดำเนินไปต่อด้วยอารมณ์เร่าร้อน สัมผัสหนักเบาเปลี่ยนผันตามความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย ยิ่งแก่นกายชายถูกเธอบีบรัด เขายิ่งกระสันเร่งเร้าจังหวะรักต่อไม่จบไม่สิ้น สมรภูมิรักดำเนินล่วงเลยหลายชั่วโมง แม้คืนนี้อากาศข้างนอกจะเหน็บหนาวเพียงใด แต่ภายในห้องกว้างนี้ร้อนระอุไม่ต่างจากภูเขาไฟ