bc

เมื่อของเล่นไม่อยากเป็นของตาย

book_age18+
669
FOLLOW
3.8K
READ
dark
HE
escape while being pregnant
mafia
heir/heiress
blue collar
drama
city
office/work place
secrets
friends with benefits
like
intro-logo
Blurb

เมื่อของเล่นไม่อยากเป็นของตาย (เจษฎ์ & ภูษิตา)

ถึงเธอจะยอมเป็น 'ของเล่น'

แต่ก็อย่าหวังจะเห็นเป็น 'ของตาย'

ในเมื่อความรักที่ทุ่มเทไปไร้ความหมาย

ก็อย่ามานึกเสียดายในวันที่อยากได้คืน

=== โปรยปราย (1) ===

"คุณ...เคยรักพู่บ้างมั้ยคะ คุณเจษฎ์"

คำถามนั้นทำให้เจษฎ์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเธออย่างเลือดเย็นที่สุด

"ฉันไม่เคยรักเธอเลย เรื่องระหว่างเรามันก็แค่การแลกเปลี่ยน เธอเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ และถ้าเธอยังอยากมีชีวิตที่สุขสบายก็ช่วยกลับไปอยู่ในที่ที่ฉันบอก อย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวายมากไปกว่านี้"

"แล้วถ้าพู่ไม่อยากอยู่แล้วล่ะคะ ถ้าพู่...ไม่อยากอยู่ในกรงที่คุณขังพู่ไว้ล่ะ"

"งั้นอยากจะไปอยู่ที่ไหนก็เชิญ! ถ้าคิดว่าเธอจะอยู่โดยไม่มีฉันได้ก็ไปซะ! ไสหัวไปสิ!"

เขาตวาดเธอเสียงดังลั่นจนบอดี้การ์ดของสิริมาที่เตรียมจะเข้ามาล็อกตัวภูษิตากับเพื่อนของเธอไว้ถึงกับหยุดชะงัก และเมื่อเห็นสิริมาส่งสัญญาณให้พวกเขาถอยออกไป บอดี้การ์ดทั้งสองจึงได้ขยับไปอยู่ในมุมเดิมที่พวกเขายืนอยู่ตามที่เจ้านายของตนต้องการ

ภูษิตาหลับตาลงก่อนจะยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่มันกลับทำให้เธอสบายใจอย่างประหลาดใจ

"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ทำให้พู่ได้รู้ว่า...สามปีที่ผ่านมาไม่เคยมีความหมายกับคุณแม้แต่นิดเดียว ลาก่อนค่ะคุณเจษฎ์ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับอิสรภาพ...ช่างเป็น...ของขวัญวันเกิดที่น่าประทับใจจริงๆ"

ภูษิตาปล่อยให้เพื่อนรักประคองเธอเดินจากไปโดยที่เธอไม่คิดจะหันกลับไปมองคนทั้งสองอีกเลย

--------------------------------------------------------------------------------------------------

=== โปรยปราย (2) ===

"เธอ...ไม่รักฉันแล้วจริงๆ เหรอพู่"

"ค่ะ ความรักที่พู่มีให้คุณมันไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว ไม่ว่าคุณจะแต่งหรือไม่แต่งกับใคร พู่ก็ไม่อยากรับรู้อีก ตอนนี้คนเดียวที่พู่ควรจะต้องสนใจก็คือพี่หมอ เรื่องระหว่างเรา...ขอให้มันสิ้นสุดแค่นี้นะคะ ขอบคุณที่เลี้ยงดูพู่เป็นอย่างดีตลอดสามปีที่ผ่านมา ลาก่อนค่ะคุณเจษฎ์ หวังว่าเราสองคนจะไม่ต้องพบเจอกันอีกในชาตินี้ ส่วนดอกไม้นี้ก็เอาไปให้ว่าที่เมียในอนาคตของคุณก็แล้วกัน"

เธอบอกก่อนจะก้าวลงไปจากรถแต่เขาก็ตามมาขวางเอาไว้พร้อมกับดอกไม้ช่อนั้น

"ถอยไป"

"ฉันไม่ถอย จนกว่าเธอจะรับดอกไม้ของฉันก่อน" เขายื่นดอกไม้ให้เธออีกครั้งและครั้งนี้เธอก็รับมันเอาไว้จริงๆ ก่อนจะโยนมันลงพื้นแล้วเหยียบซ้ำจนดอกไม้พวกนั้นแทบแหลกคาฝ่าเท้า

"อย่าทำให้พู่รู้สึกขยะแขยงคุณมากไปกว่านี้เลยค่ะ แค่เห็นหน้าคุณพู่ก็อยากจะอาเจียนอยู่แล้ว"

"ชมพู่..."

"อย่ามายุ่งกับพู่อีก และกรุณาจำเอาไว้ด้วยว่าพู่จะไม่ยอมเป็นของตายของคุณอีกต่อไป ชมพู่คนเดิมตายไปนานแล้วค่ะ คนที่อยู่ตรงหน้าของคุณคือผู้หญิงที่รักตัวเองมากพอและจะไม่ยอมเป็นของเล่นของคุณอีก"

"เธอจะคิดยังไงก็ช่างนะพู่ แต่ฉันยังยืนยันคำเดิมว่าฉันรักเธอ และฉันจะยังรอเธออยู่เสมอ รอจนกว่าเธอจะกลับมา..."

ภูษิตาไม่คิดจะพูดคำใดอีก เธอแค่เดินผ่านเขาไปโดยที่เขาก็ไม่ได้รั้งเธอไว้ให้ตัวเองดูน่าสมเพชมากไปกว่านี้

เสียงรองเท้าของเธอดังห่างออกไปทุกที และนี่ก็คือคำยืนยันที่ว่าเธอจะไม่มีวันกลับมาหาเขาอีกแล้ว

ทุกอย่าง...มันสายไปหมดแล้วจริงๆ

=================================

แนะนำนิยายที่เกี่ยวข้องกัน 4 เรื่อง ได้แก่

- เมื่อของเล่นไม่อยากเป็นของตาย (เจษฎ์ & ภูษิตา)

- Immoderate Love รักเกินเลย (จิณณ์ & ดารภา)

- กลกุลวุฒิ (คุณกุล & ปีใหม่)

- เล่ห์อาทิตย์ (คุณซัน & ดรีม)

ฝากติดตามทั้ง 4 เรื่องด้วยนะคะ

chap-preview
Free preview
บทนำ (1) คนหลอกลวง
ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่รอบกาย ทั้งยังเพื่อนฝูงมากมายที่รายล้อมรอบตัวเธอ ทว่าเจ้าของวันเกิดกลับนั่งหน้าเศร้าแล้วมองน้ำแข็งในแก้วค่อยๆ ละลายไปจนทำให้เครื่องดื่มสีอำพันซีดลงจนแทบจะเป็นสีใส “ยัยพู่ เลิกเศร้าได้แล้วน่า วันนี้วันเกิดแกนะ ลุกขึ้นไปเต้นด้วยกันเร็วเข้า” มณีเนตร หรือ เนตร เดินเข้ามาฉุดแขนเพื่อนรักของเธอให้ลุกขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย “ไม่ล่ะเนตร พู่เหนื่อยๆ น่ะ ขอนั่งดูเพื่อนๆ เต้นไปดีกว่า” ภูษิตา หรือ ชมพู่ บอกก่อนจะยกเครื่องดื่มรสชืดในมือขึ้นกระดกจนหมดแก้ว ก่อนจะหันไปหยิบขวดใหม่มารินลงในแก้วเดิม เห็นอย่างนั้นมณีเนตรจึงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างกันแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นโอบไหล่ของเพื่อนรักเอาไว้ “สามปีแล้วนะพู่ แกยังไม่ชินอีกเหรอ ไม่ว่าปีไหนเค้าก็ไม่เคยอยู่กับแกในงานวันเกิดนี่ แต่เค้าก็ให้ของขวัญตลอดไม่ใช่เหรอ” เพราะรู้ทุกความลับของเพื่อนสนิท มณีเนตรจึงกล้าพูดออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดชื่อบุคคลที่สามให้ใครได้รับรู้ มีเพียงเธอกับภูษิตาเท่านั้นที่รู้กันดีว่าพวกเธอหมายถึงใคร “แต่พู่ไม่เคยอยากได้ของขวัญเนตรก็รู้ พู่แค่อยากให้เค้านั่งกินข้าวด้วยกันสักมื้อ ไม่ต้องหรูหราอะไรก็ได้ แค่...อยากอยู่กับเค้าเท่านั้นเอง” เธอบอกเสียงเศร้าพอๆ กับแววตาที่หม่นหมอง “แล้ววันนี้เค้าไปไหนล่ะ ติดงานสำคัญอะไรอีก” มณีเนตรรู้ดีว่าเพื่อนของเธอรักคนที่ไม่ควรมากขนาดไหน แต่ก็รู้ดีว่าเรื่องของภูษิตากับผู้ชายคนนั้นคงเป็นไปไม่ได้มากกว่าสถานะที่เป็นอยู่ในตอนนี้ “เค้าบอกว่าต้องบินไปฮ่องกงคงกลับวัน...” “วันไหน? ทำไมไม่พูดต่อล่ะ” มณีเนตรมองเพื่อนรักอย่างสงสัยเมื่ออีกฝ่ายหยุดพูดไปเสียดื้อๆ แถมยังมองไปยังบันไดทางขึ้นห้องวีไอพีชั้นบนอีกด้วย “เค้าอยู่นั่น...เค้ากลับมาแล้ว หรือไม่...เค้าอาจจะไม่ได้ไปไหนด้วยซ้ำ” ขอบตาของเธอรู้สึกร้อนผ่าว ความรู้สึกน้อยใจ เสียใจและผิดหวังทำให้หญิงสาวลุกขึ้นยืนขึ้นมาทันที “เฮ้ย! พู่ ใจเย็นๆ ก่อน เค้าอาจจะกลับมาแล้วไง เลยมาพักผ่อนกับเพื่อนเค้ารึเปล่า” มณีเนตรรีบคว้ามือเพื่อนรักไว้ก่อนที่ภูษิตาจะได้ก้าวออกไปจากโต๊ะ “เค้าบอกว่าจะกลับอาทิตย์หน้า แต่นี่เค้าอยู่ตรงนั้นน่ะเนตร อยู่ตรงนั้นกับผู้หญิงอีกคน ทั้งโอบเอวเกาะแขนกันแบบนั้น จะให้พู่ใจเย็นอยู่ได้ยังไง นั่นผัวพู่นะ!” “เบาๆ สิพู่ เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินกันหมดหรอก” “ไม่เบาแล้วเนตร สามปีที่พู่ทนอยู่แต่ในพื้นที่ที่เค้าให้อยู่ ทำในสิ่งที่เค้าอยากให้ทำ โดยมีข้อแม้แค่เรื่องเดียวว่าเค้าจะไม่มีใครนอกจากพู่คนเดียวเท่านั้น หรือต่อให้เค้าอยากมีเค้าก็จะต้องบอกพู่ก่อน ไม่ใช่มาสวมเขาให้กันแบบนี้ วันนี้พู่จะไม่ทนแล้วเนตร พู่จะให้เค้าเลือกเอาว่าเค้าจะอยู่กับใคร พู่หรือผู้หญิงคนนั้น” “แล้วถ้าคนที่เค้าเลือกไม่ใช่พู่ล่ะ” คำถามของเพื่อนรักดึงสติที่ใกล้ขาดของเธอเอาไว้ และนั่นก็ทำให้ภูษิตาหยุดชะงักไปนานก่อนที่เธอจะหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนรัก “พู่ก็จะได้เป็นอิสระไง ไม่ต้องทนอยู่กับคนที่เค้าไม่เคยเห็นค่าของพู่อีก” “แล้วแกจะไหวเหรอพู่ แกจะอยู่ไหวแน่ใช่มั้ยถ้า...ไม่มีเค้า” “ไม่ไหวก็ต้องไหวนั่นแหละเนตร บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลเดียวที่สามารถทำให้พู่ตัดใจจากเค้าได้จริงๆ ไม่ต้องมานั่งหลอกตัวเองไปวันๆ อีก หลอกว่าสักวันพู่จะได้สวมชุดเจ้าสาวแล้วมีเค้าเป็นเจ้าบ่าวอยู่ข้างกัน” น้ำตาหยดแรกมันไหลออกมา ก่อนที่ภูษิตาจะใช้มือปัดมันให้หายไป จากนั้นเธอก็เดินตรงไปยังบันไดทางขึ้นชั้นสองโดยมีมณีเนตรเดินตามไปติดๆ เพราะเธอเป็นห่วงเพื่อนรักมากเหลือเกิน บนชั้นสองของไนต์คลับหรู เจษฎ์ เดินเคียงข้างมากับ สิริมา จนถึงหน้าห้องวีไอพีที่จองเอาไว้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเข้าไปเสียงของภูษิตาก็ดังขึ้นเสียก่อน “กลับจากฮ่องกงแล้วเหรอคะ คุณเจษฎ์” เสียงนั้นเรียกให้ทั้งสองคนต้องหันไปมอง ก่อนที่คิ้วเข้มจะขมวดกันเล็กน้อยเมื่อเห็นชุดที่ภูษิตาสวมใส่อยู่ในตอนนี้ “มีอะไรรึเปล่าคะพี่เจษฎ์” สาวสวยข้างกายเอ่ยถามเสียงหวาน “ไม่มีอะไรครับ แค่คนรู้จักน่ะ สิเข้าไปในห้องก่อนละกันนะครับเดี๋ยวพี่ตามไป” “ทำไมไม่บอกเธอไปล่ะคะว่าพู่เป็นมากกว่าคนรู้จัก หรือว่า...คนนี้สำคัญ” ภูษิตาพูดขึ้นก่อนจะขยับเข้าไปใกล้กับชายหนุ่มมากขึ้นทั้งยังคว้ามือเขาไว้โดยมีสายตาของสิริมามองอยู่ตลอดเพราะหญิงสาวก็กอดแขนข้างหนึ่งของเขาไว้เช่นกัน “อย่าวุ่นวายนะพู่ กลับไปก่อนไป ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง” เจษฎ์ออกจะแปลกใจอยู่บ้างกับท่าทางที่ภูษิตาแสดงออกมาว่ากำลังโกรธและหวงแหนเขาอย่างออกนอกหน้า ทั้งที่ปกติแล้วเธอจะไม่เป็นแบบนี้ เธอมักจะเชื่อฟังและทำตามทุกอย่างที่เขาบอกเสมอ แต่ทำไมวันนี้ทุกอย่างดูจะผิดปกติไปหมด...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

30 Days to Freedom: Abandoned Luna is Secret Shadow King

read
304.0K
bc

Too Late for Regret

read
252.5K
bc

Just One Kiss, before divorcing me

read
1.6M
bc

Alpha's Regret: the Luna is Secret Heiress!

read
1.2M
bc

The Warrior's Broken Mate

read
133.3K
bc

The Lost Pack

read
354.5K
bc

Revenge, served in a black dress

read
138.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook