บทนำ (2) ใจสลาย

1023 Words
“แต่พู่จะคุยวันนี้ค่ะ ถ้าคุณเลือกจะเข้าไปในห้องกับผู้หญิงคนนี้ พู่ก็จะไม่คุยอะไรอีก” “ฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าดื้อ” “งั้นคุณก็ตอบพู่มาสิคะว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร สำคัญขนาดไหนถึงทำให้คุณต้องมาโกหกพู่แบบนี้” “ฉันโกหกอะไรเธอ” น้ำเสียงเขาปะปนไปด้วยความประหลาดใจและไม่ค่อยพอใจอยู่ในนั้นจนเธอรู้สึกได้ แต่ในเมื่อเลือกที่จะสู้ เธอก็จะสู้ให้ถึงที่สุดจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมา “คุณบอกว่าจะไปฮ่องกงแล้วกลับอาทิตย์หน้าไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมถึงมาอยู่กับผู้หญิงคนนี้ได้ล่ะ” “เรื่องนั้น...” “ขอโทษนะคะคุณ คุณเป็นใครเหรอคะถึงมีสิทธิ์มาคาดคั้นและใช้น้ำเสียงแบบนี้กับพี่เจษฎ์เค้าน่ะ” สิริมาไม่อยากจะอยู่เฉยอีกต่อไปจึงได้พูดออกไปบ้าง “แล้วเธอล่ะเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้า” ภูษิตาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง “หยุดพูดมากได้แล้วพู่! ฉันบอกให้กลับไปก่อนไง อย่ามาเสียมารยาทกับคุณสิเค้าแบบนี้นะ” เจษฎ์คว้ามือเธอขึ้นมาแล้วบีบแน่น แววตาที่มองเธอบ่งบอกว่าเขากำลังโกรธจัด และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธเธอมากขนาดนี้ ทั้งที่สิ่งที่เขาทำมันก็แสดงออกชัดเจนแล้วว่าเขาเลือกใคร แต่เธอก็ยังอยากจะตอกย้ำให้ตัวเองเจ็บปวดให้ถึงที่สุด จะได้ตัดใจจริงๆ เสียที “แล้วทำไมพู่จะทำไม่ได้คะ ในเมื่อเค้ากำลังจะแย่งผัวของพู่น่ะ!” “ชมพู่! ฉันบอกให้กลับไปไง!” “ไม่! พู่ไม่กลับจนกว่าคุณเจษฎ์จะพูดออกมาว่าคุณจะเลือกใคร ระหว่างพู่กับผู้หญิงคนนี้!” “พี่เจษฎ์ก็บอกเธอไปสิคะ ว่าเราสองคน...กำลังจะแต่งงานกัน เธอจะได้เลิกหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ซะที” สิริมาบอกพลางซบหน้าลงกับไหล่กว้างแล้วแสยะยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างผู้ชนะ “อะ...อะไรนะ คุณเจษฎ์...จะแต่งงานกับเค้าเหรอคะ” ภูษิตามองหน้าเขาพร้อมกับน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมา “กลับไปได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำนะพู่” “แปลว่าคุณจะแต่งงานกับเค้าจริงๆ สินะคะ แล้วพู่ล่ะคะ คุณเอาพู่ไปไว้ไหน คนใจร้าย ใจร้ายที่สุดเลย” เธอทุบอกแกร่งอย่างไม่ออมแรงนัก แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามหรือปัดป้อง ทว่าเป็นสิริมาเสียอีกที่ทนไม่ไหวจนต้องผลักภูษิตาให้ล้มลงอย่างแรงจนศีรษะของหญิงสาวกระแทกกับเหลี่ยมเสา เห็นอย่างนั้นมณีเนตรก็รีบเข้าไปประคองเพื่อนรักของเธอขึ้นมา “ตายแล้วยัยพู่ เลือดแกออกด้วยนะ” มณีเนตรบอกด้วยความตกใจเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากหน้าผากของเพื่อน แต่ดูเหมือนภูษิตาจะไม่สนใจอาการบาดเจ็บภายนอกนัก เพราะตอนนี้ภายในหัวใจของเธอมันแหลกสลายไปหมดแล้ว เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่เธอรักไม่ได้มีความเป็นห่วงเธอเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะเดินเข้ามาหาเธอด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ยืนมองเธอเฉยๆ ไม่มีแม้คำปลอบโยนใดๆ แม้แต่นิดเดียว แต่เหมือนเธอจะยังเจ็บไม่พอก็เลยเอ่ยคำถามโง่ๆ ออกไป “คุณ...เคยรักพู่บ้างมั้ยคะ คุณเจษฎ์” คำถามนั้นทำให้เจษฎ์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเธออย่างเลือดเย็นที่สุด “ฉันไม่เคยรักเธอเลย เรื่องระหว่างเรามันก็แค่การแลกเปลี่ยน เธอเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ และถ้าเธอยังอยากมีชีวิตที่สุขสบายก็ช่วยกลับไปอยู่ในที่ที่ฉันบอก อย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวายมากไปกว่านี้” “แล้วถ้าพู่ไม่อยากอยู่แล้วล่ะคะ ถ้าพู่...ไม่อยากอยู่ในกรงที่คุณขังพู่ไว้ล่ะ” “งั้นอยากจะไปอยู่ที่ไหนก็เชิญ! ถ้าคิดว่าเธอจะอยู่โดยไม่มีฉันได้ก็ไปซะ! ไสหัวไปสิ!” เขาตวาดเธอเสียงดังลั่นจนบอดี้การ์ดของสิริมาที่เตรียมจะเข้ามาล็อกตัวภูษิตากับเพื่อนของเธอไว้ถึงกับหยุดชะงัก และเมื่อเห็นสิริมาส่งสัญญาณให้พวกเขาถอยออกไป บอดี้การ์ดทั้งสองจึงได้ขยับไปอยู่ในมุมเดิมที่พวกเขายืนอยู่ตามที่เจ้านายของตนต้องการ ภูษิตาหลับตาลงก่อนจะยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่มันกลับทำให้เธอสบายใจอย่างประหลาดใจ “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ทำให้พู่ได้รู้ว่า...สามปีที่ผ่านมาไม่เคยมีความหมายกับคุณแม้แต่นิดเดียว ลาก่อนค่ะคุณเจษฎ์ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับอิสรภาพ...ช่างเป็น...ของขวัญวันเกิดที่น่าประทับใจจริงๆ” ภูษิตาปล่อยให้เพื่อนรักประคองเธอเดินจากไปโดยที่เธอไม่คิดจะหันกลับไปมองคนทั้งสองอีกเลย “จบเรื่องแล้ว เราเข้าไปดื่มกันเถอะค่ะพี่เจษฎ์” สิริมากระตุกมือเขาเมื่อเห็นชายหนุ่มยังมองผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอด “ครับ ขอโทษด้วยนะที่ทำให้สิต้องวุ่นวายใจ” เขาหันมาบอกกับเธอ ก่อนจะพากันเข้าไปในห้องวีไอพีราวกับว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ทำลายหัวใจของผู้หญิงคนหนึ่งไปอย่างโหดร้ายที่สุด “ไม่เป็นไรค่ะ สิเข้าใจว่าผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างพี่เจษฎ์ก็ต้องมีเวลาที่ต้องการความสำราญใจบ้าง แต่ว่า...ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว สิไม่อนุญาตให้พี่มีใครแล้วนะคะ พี่เจษฎ์ต้องมีแค่สิคนเดียวนะ” เจษฎ์ไม่ได้ตอบคำใดให้เธอสบายใจขึ้น แต่การที่เขาเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกพอใจมากแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD