เมื่อพระพายให้นิยามของบอสใหญ่ว่า ‘บักผีเปรต’ จากนั้นอีบักผีก็จ้องจะสิงร่างเธอทุกวี่วัน...
“ขอเข้าไปหน่อย”
“ไม่”
ไม่ที่แปลว่าไม่น่ารอดพ้นบักผีเปรตตนนี้ สิ้นคำพูดก็ลากขึ้นเตียง
พระพาย สาวน้อยวัย 23 ปีเพิ่งเรียนจบได้ไม่นาน แต่ภาระอันหนักอึ้งที่ต้องเป็นเสาหลักครอบครัวนั้น ทำให้เธอต้องหนักใจ หญิงสาวมีแม่ที่เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ แต่ทว่าร่างกายที่โหมงานหนักหน่วงมาตั้งแต่ยังสาวทำให้หลายโรครุมเร้า ทั้งข้อเข่าเสื่อมทั้งเกาต์จะยืนนานก็ปวดขาและมีอาการบวมตามข้อ ทำให้ต้องหยุดพักอยู่บ้านดูแลตัวเอง และภาระหาเงินทั้งหมดจึงตกไปอยู่กับลูกสาว
เธอได้งานเป็นพนักงานหน้าใหม่ในแผนกการตลาดแต่ว่าเงินเดือนเด็กจบใหม่ในแผนกการตลาดของบริษัท ‘เฮงซวย’...เอ่อ...หมายถึง บริษัท เฟเดอลิก จำกัด (มหาชน) โดยมีท่านประธาน ‘ผีเปรต’...ชื่อของเขาคือ คุณเฟลิเป ลอนเลนโซ นอกจากจะใช้แรงงานเยี่ยงทาสแล้วผลตอบแทนเท่ากับผ่อนจักรยานนั้นไม่เกินจริง สุดท้าย พระพายก็ต้องพัดพาตัวเองไปรับงานเพิ่ม และก็เป็นงานกลางคืน
“พระพาย...ดูแขกมาใหม่ด้วย” พระพายทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับในระเริงบาร์ของเสี่ยซ้ง ที่เธอนั้นต้องระวังเนื้อระวังตัวเป็นอย่างมากในการทำงาน เธอมีเพื่อนเป็นบาร์เทนเดอร์ในบาร์แห่งนี้จึงกล้ามาทำงาน
“ค่า...” เสียงหวานปั้นหน้าให้ยิ้มสวยสดใส แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคนที่ไม่ควรเจอมายืน ‘หัวโด่’ อยู่ที่นี่
‘ท่านประธาน’!!!
‘อิเชี่ย...บาร์เยอะแยะมีเป็นร้อยทั้งซอยเสือกไม่เข้า ทำไมต้องมาแจ็กพอตอะไรกับบาร์ที่ฉันทำงานด้วย(วะ)คะ!?’
กลิ่นเค้ารางความฉิบหายมาเยือน เมื่อเจอคนที่สาป อยู่ทุกค่ำเช้า กับงานกองท่วมเท่าภูเขาแล้วพนักงานหน้าใหม่เงินเดือนไม่พอใช้อย่างเราต้องหอบสังขารมารับงานพิเศษเพิ่ม
“เด็กใหม่เหรอ...ไม่เคยเจอ” คิ้วหนาเรียวเป็นทรงไม่ได้ปั้นแต่งราวกับดาราชายฝั่งยุโรปย่นเข้าหากัน แล้วผู้หญิงคนนี้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยพบเธอหรือเปล่า แต่ว่าช่างเถอะวันนี้อยากดื่ม
“ขอโต๊ะวีไอพี” เฟลิเปบอกแล้วเธอก็นำไป หญิงสาวทำงานอย่างมืออาชีพ แม้ว่าจะมีคนรู้จักมาเที่ยว เธอก็ไม่สุงสิงด้วยหรือทักแค่พอเป็นพิธีเท่านั้น งานกลางคืนแม่ก็ไม่อยากให้ทำแต่ทำไงได้มันต้องกินต้องใช้ ต้องพาแม่ไปหาหมอนี่นา ดีอย่างเดียวที่ไม่ต้องเช่าบ้าน นับว่ายังมีบุญอยู่ สิ้นเดือนทีไรก็มาม่า ปลากระป๋อง ไข่ต้ม คืออาหารหลัก
“เชิญค่ะ...เรียกเด็กไหมคะ...เดี๋ยวฉันเรียกให้” ที่นี่มีบริการเรียกเด็กมานั่งคุยด้วยดื่มด้วยเป็นเพื่อนหรือที่เขาเรียกกันว่าเด็กดริงก์นั่นเอง หากจะต่อก็ตกลงกันเองแล้วแต่เด็กกับลูกค้า โดยให้ยืนเรียงเลือกเหมือนสินค้าชิ้นหนึ่ง
เฟลิเปมองเธออย่างพิจารณาแล้วก็เอ่ยออกมา
“ไม่ต้อง...แค่เธอก็พอ”
“เอ่อ...ขอโทษค่ะลูกค้า ฉันไม่รับดริงก์ค่ะ เพียงแค่พนักงานต้อนรับ” ที่จริงอยากบอกว่าแหกตาด้วย ชุดมิดชิดปิดยันคอหอยจะมาเป็นเด็กดริงก์นุ่งสั้นนมย้อยหอยอ้าได้ยังไง
“แต่ฉันไม่อยากได้คนอื่น...ฉันอยากได้เธอ”
“บ้าอำนาจ!” ใบหน้ายิ้มกัดฟันสรรเสริญในลำคอ
“ฮะ...ว่าอะไรนะ...ฉันได้ยินไม่ถนัด” เฟลิเปมองใบหน้าพนักงานคนนี้แล้วมันโดนใจจริง ๆ ต่อให้ไม่ใช่นั่ง ดริงก์แต่เขาก็อยากได้มาชงเหล้าให้ก็ยังดี
“อ้อ...จะบอกว่าคุณลูกค้าน่ารักมากค่ะ ขอบคุณที่กรุณาแต่ว่า...” เธอยังไม่ทันได้เอ่ยคำหลีกเลี่ยงออกมาจนจบเขาก็ยื่นข้อเสนอทันที
“หนึ่งหมื่น” ข้อเสนอสั้น ๆ ของคนมีเงินเอ่ยออกมา
เธอไม่ตอบทันที แต่ควักโทรศัพท์ยื่นให้สแกน คิวอาร์โค้ดจ่ายเงินก่อนค่อยบริการทีหลัง
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ยกโทรศัพท์ขึ้นสแกนกดโอนเงินแบบไม่ต้องคิดอะไร
ติ๊ง...ติ๊ง!!
เสียงสัญญาณแจ้งเตือนข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น
“ได้ค่ะ...รอสักครู่นะคะเดี๋ยวจะนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ” เธอพลิกลิ้นฉีกยิ้มทันควัน เมื่อข้อเสนอมันใหญ่พอ ที่จะยอมให้เปลืองเนื้อเปลืองตัวนิด ๆ หน่อย ๆ
‘ใช่ค่ะพระพายไม่ได้หน้าเงิน เงินซื้อเธอไม่ได้ถ้าไม่มากพอ’
เฟลิเปยิ้มเยือกเย็นระคนขบขันแกมดูแคลนเล็กน้อย เมื่อยายพนักงานต้อนรับเห็นเงินแล้วรีบตอบรับทันที ปกติเขาไป Thousand lightss ที่นั่นให้กลิ่นอายไฮโซกว่าที่นี่ ที่นี่ดูเหมือนเป็นบาร์ที่เกรดต่ำมาหน่อย แต่วันนี้นึกอยากเปลี่ยนสถานที่จึงไม่ได้ไป แล้วก็ประจวบเหมาะพบของดีเข้า แต่หน้าที่ไม่ให้ เลยต้องใช้เงินแก้ปัญหา
‘ให้ตายสิยัยเด็กนั่นมัน!’
“ตูดน่าขยำเป็นบ้า!” เขาเอามือลูบคางเบา ๆ เหมือนตาเฒ่าหื่นกาม มองหญิงสาวที่เดินออกไป
ยามก้นบิดซ้ายก็น่ามอง บิดขวาก็น่าตี
ซี้ด อ่าห์...อยากได้!