สองวันต่อมา
หลังจากที่อิงดาวกลับจากนครศรีธรรมราช เธอตั้งใจจะคุยเรื่องถอนหมั้นกับคุณนายละมัย ทว่าเที่ยงของวันนั้น ทางบ้านทศวรรษได้รับข่าวที่ไม่ค่อยดีนักคือลูกพี่ลูกน้องของคุณปรเมศ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้อาการยังโคม่าอยู่ บ้านหลังนี้จึงมีบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีนัก บิดาของทศวรรษเดินทางไปเยี่ยมลูกพี่ลูกน้องตัวเองที่อาการเป็นตายเท่ากัน อิงดาวจึงไม่กล้าเอ่ยปากถึงเรื่องขอถอนหมั้นในเวลาแบบนี้ เธอได้แต่อยู่เงียบ ๆ ในที่ของตัวเอง ผ่านมาเพียงสองวัน อิงดาวคิดว่ารอให้บรรยากาศในบ้านดีกว่านี้ซะก่อน เธอจะพูดแน่นอน
ระหว่างนี้หญิงสาวนอนคิด นั่งคิด แทบจะตีลังกาคิด ว่าจะใช้เหตุผลไหนดีเพื่อบอกกับผู้ใหญ่ทั้งหลาย เพราะก่อนหน้านี้อิงดาวรักทศวรรษมาก...มากกว่ารักตัวเองซะอีก ใครต่อใครต่างรู้เรื่องนี้ดี แล้วจะให้จู่ ๆ มาขอถอนหมั้นง่าย ๆ ก็ต้องมีเหตุผลรองรับที่ฟังขึ้นพอสมควร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ คนตัวเล็กถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย ก่อนจะหยิบมือถือที่วางอยู่บนเตียงมา ตัดสินใจกดโทรออกหาเบอร์ที่บันทึกว่า ‘คุณแม่’
ตู๊ดด...
(ว่าไงคะลูกสาวแม่)
น้ำเสียงมีอายุของ ‘ดวงดาว’ มารดาของอิงดาวกลอกลงมา สองมือเล็กเปียกชื้น เป็นครั้งแรกที่เธอได้คุยกับอีกฝ่าย และเสียงของปลายสายก็นุ่มนวล อบอุ่นและดูใจดีกว่าที่คิดเอาไว้มากเลย...
“ค...คุณแม่”
(ค่ะลูก มีอะไรหรือเปล่า ทะเลาะกับพี่ทศอีกเหรอหืม?)
อิงดาวกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เอาจริง ๆ เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นว่าอย่างไรเพื่อที่จะขอถอนหมั้นกับทศวรรษ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงปลงใจกันมาเนิ่นนาน และอีกเหตุผลก็เพราะอิงดาวเองที่ขอร้องมารดาเรื่องนี้ แล้วจู่ ๆ วันนี้จะมาขอถอนหมั้นซะเอง
เธอควรจะให้เหตุผลว่าอย่างไรดีนะ...
“เปล่าค่ะ หนูแค่อยากคุยกับคุณแม่”
(คิดถึงแม่ละซี่ เอางี้ไหม วันเสาร์แม่ไปหา แต่คุณพ่อคงไม่ได้ไปนะลูก ช่วงนี้คุณพ่องานยุ่ง)
“ไม่เป็นไรค่ะ”
(จ้ะ แม่รักหนูนะลูก คิดถึงหนูที่สุดเลย)
ไม่รู้ทำไมขอบตาของเธอจึงร้อนเผ่า อาจเป็นเพราะคำพูดที่เธอไม่เคยได้ยิน...
‘อีมัท อีเด็กเวร มึงมันภาระของกูจริง ๆ !!!’
‘กูน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากมึงตั้งแต่เล็ก ถ้ารู้ว่ามึงโตมาจะเป็นตัวปัญหาชีวิตกูขนาดนี้!!’
‘วันนี้มึงไม่ต้องกลับบ้านมาขัดจังหวะกูกับผัวกูนะ จะไปนอนไหนก็ไป’
‘โอ้ยยย กูไม่มีตังให้มึงหรอก ไปหาใช้เอง!’
เธอได้ยินแต่อะไรแบบนี้ตั้งแต่จำความได้ พอมาได้รับคำพูดที่ไม่คุ้นก็รู้สึกเจ็บหน่วงที่หน้าอกอย่างบอกไม่ถูก...แม้ว่าจะรู้อยู่ดีว่าตัวเองไม่ใช่อิงดาว และลูกสาวของปลายสายก็ไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว อิงดาวหัวใจล้มเหลวในห้องนอนห้องนี้ เธอจากไปโดยไม่มีใครรู้ และมัทก็ได้เข้ามาในร่างของอีกฝ่าย...ทุกอย่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ
แต่มันก็เป็นไปแล้วจริง ๆ
เธอคุยโทรศัพท์ไม่นานก็วางสาย ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับทำให้เธอหวนกลับไปคิดถึงความเจ็บปวดที่ในชีวิตที่ผ่านมา ยังไงเธอก็จะไม่ยอมกลับไปตื่นในร่างของมัทเด็ดขาด
‘ทำให้อาคินบอกรักเธอให้ได้ และเธอจะได้อยู่ในร่างของอิงดาวตลอดไป จนถึงวันนี้ของอีกสองเดือนข้างหน้า’
เธอมีเวลาทำภารกิจนี้แค่สองเดือนเท่านั้น
ร่างบางลุกขึ้นและออกจากห้องนอนตัวเองทันที เวลาของเธอเหลือไม่มาก เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบทำอะไรสักอย่าง
18.00 น.
โรงพยาบาล
“สวัสดีค่ะคุณอิงดาว”
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังประจำจังหวัดสงขลา พนักงานประชาสัมพันธ์ลุกขึ้นยืนและยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เข้ามา ใบหน้าหวานเลิกลั่กเล็กน้อยก่อนจะรีบยกมือไหว้พนักงานตอบ เธอส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ฉันมาขอพบคุณหมออาคินค่ะ วันนี้เขาอยู่ไหมคะ”
“สักครู่นะคะ”
เพราะอิงดาวเป็นลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนไม่รู้จักเธอ พนักงานประชาสัมพันธ์โน้มตัวลงไปกดยิก ๆ ที่คอมพิวเตอร์ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น
“คุณหมออาคินอยู่เวรพอดีค่ะ”
“ตอนนี้เขาติดคนไข้อยู่ไหมคะ”
“เอ่อ...สักครู่นะคะ”
คราวนี้พนักงานทำท่าจะยกหูโทรศัพท์เพื่อต่อสายใน ทว่าสายตาของสาวเจ้าก็เห็นร่างสูงของคนที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนาในตอนนี้เดินอยู่ไม่ไกล ทำให้หล่อนวางหูโทรศัพท์ลงและชี้ไปยัง ‘อาคิน’ ที่พึ่งเดินออกจากลิฟต์
“นั่นไงคะคุณหมออาคิน”
ขวับ!
อิงดาวรีบหันไปมองตามนิ้วชี้ของพนักงานสาวทันที ก่อนจะหันไปถามย้ำอีกครั้ง
“คนที่พึ่งออกจากลิฟต์ใช่ไหมคะ!”
“ใช่ค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ”
จากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่ง คนตัวเล็กสับขาวิ่งก่อนจะสไลด์หยุดหน้าร่างสูงที่ทำสีหน้าตกใจ ฉับพลันใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้ม
“อ้าว อิง มาทำอะไรที่นี่?”
คนถูกทักเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัด ๆ
พระเอกหล่อมาก...หล่อแบบสะอาดสะอ้านเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบ ร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้างแถมแผงอกยังหนาราวกับคนที่ดูแลหุ่นเป็นอย่างดี ผิวขาวสุขภาพดี โครงหน้าหล่อราวกับพระเจ้าสร้าง สันจมูกโด่งชัดเจน สันกรามคมชัด ดวงตาเรียวรีเป็นประกายน่าค้นหา
สมแล้วที่เป็นพระเอก...
“อิง เป็นอะไรหรือเปล่า?”
อิงดาวดึงสติตัวเองให้กลับมา แม้ว่าเธอจะรู้เนื้อเรื่อง แต่ก็ไม่เคยเห็นหน้าตัวละคร ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างประหม่า
“พ...พี่คิน จะไปไหนเหรอคะ”
“ตอนนี้พักน่ะ พี่กำลังจะไปหาอะไรกิน”
“อ๋อ”
“แล้วเรามาทำอะไรที่นี่”
อาคินย่นคิ้ว เพราะการที่เจอกับคนรู้จักที่โรงพยาบาลก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
“อ๋อ อิงปวดข้อเท้านิดหน่อย แต่หาหมอเสร็จแล้วค่ะ”
เธอพูดพลางลูบฝ่ามือตัวเองเพราะกำลังโกหก ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้จับสังเกตอะไร
“งั้นเหรอ แล้วอิงกินอะไรหรือยัง ไปกินข้าวกับพี่ไหม”
เข้าทางเธอ! อิงดาวยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะพยักหน้าทันที
“ไปค่ะ!”