bc

MY LOVE เพราะเธอคือความรัก

book_age18+
119
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
รักต่างวัย
เกรียน
หวาน
เบาสมอง
สาสมใจ
ใจถึง
วิทยาลัย
like
intro-logo
คำนิยม

เธอครองโสดมากว่า 20 ปีโดยไม่มีแฟนเลยสักคน อย่างมากก็มีแต่เพื่อนผู้ชายมากองรวมกันได้เต็มภูเขา แต่ทว่าคนคนนี้กลับแตกต่างออกไป เพียงแค่เห็นใบหน้าเขาครั้งแรกเธอก็รู้เลยว่า รักแรกพบ...เป็นอย่างไร เดิมทีเธออยากจะวางเขาไว้บนหิ้งแล้วบูชา แต่คิดไปคิดมาดึงเขาลงมาแล้วพาไปเป็นลูกเขยแม่ดีกว่า “พี่หมอคะ หนูชอบพี่หมอค่ะ!”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ไอรินตัวตึงวิศวะ
“พี่ไอรินสวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ” ตั้งแต่งานรับน้องจบลงฉัน ไอริน นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 3 ก็กลายเป็นที่รู้จักของน้องๆ ชั้นปีที่ 1 เดินผ่านไปไหนก็มีแต่คนยกมือไหว้ แต่เชื่อไหมล่ะว่าลับหลังฉันคำว่าไอรินจะกลายเป็นเพียงเครื่องระบายอารมณ์ของเด็กพวกนั้น ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าฉันเป็นเฮดว๊ากไง เดิมทีคนที่ควรทำตำแหน่งนี้คือไอ้ลอตเต้เพื่อนสนิทฉัน แต่หมอนั่นกลับติดงานของมหาวิทยาลัยทำให้เจียดเวลามาทำกิจกรรมที่คณะไม่ได้ ก็นะ ลอตเต้มันเป็นหนุ่มคิวทองที่ใครๆ ก็ต้องการตัว สุดท้ายกรรมเลยตกมาถึงฉันที่ต้องทำหน้าที่ของมันแทน ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่แทนนะ แต่โดนสาปแทนด้วย ใครๆ ก็เกลียดเฮดว๊ากกันทั้งนั้น จู่ๆ ก็ถูกตะคอกใส่หน้าใครมันจะไปชอบบ้างล่ะ ตอนปี 1 ฉันเองก็ไม่ชอบเหมือนกันเรียกว่าเกลียดจนอยากจะตั๊นหน้าเลยก็ว่าได้ แต่สุดท้ายเวรกรรมก็ทำให้ฉันต้องมาทำหน้าที่นี้ แล้วรู้ไหมว่าทำไมฉันไม่ปฏิเสธทั้งที่ไม่ได้ชอบการเป็นเฮดว๊ากเลยสักนิด คำตอบก็เพราะว่าฉันติดหนี้ไอ้ลอตเต้ไง ไอ้เพื่อนเวร! กล้าเอาเรื่องเงินมาขู่ฉัน “ไงไอรินเพื่อนรัก” มาละไอ้ตัวดี คนที่กำลังเดินเข้ามากอดคอฉันคือไอ้ลอตเต้ เพื่อนสนิทมิจฉาชีพของฉันเอง ไม่น่าไปยืมเงินให้มันคิดดอกเบี้ยราคาเพื่อนสนิทเลย ไม่ใช่ว่าถูกลงหรอกนะ แต่แพงขึ้นกว่าเดิมตั้งสองเท่าต่างหาก สุดท้ายฉันก็ไม่มีปัญญาใช้หนี้มัน ไอ้คุณชายก็เลยใช้เรื่องเฮดว๊ากมาเป็นข้อต่อรองเพราะถ้าหาคนแทนไม่ได้มันก็จะถูกพวกรุ่นพี่รุมด่า ซึ่งกว่าฉันจะเป็นเฮดว๊ากได้ก็ไม่ง่ายเลย ทั้งถูกทดสอบนู้นนี่นั่น ทั้งถูกบางคนเหยียดหยามเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิง ฉันล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมในขณะที่สังคมพัฒนาแล้วความคิดบางคนกลับยังจมปลักอยู่ที่เดิม คร่ำครึซะไม่มี แต่ก็ช่างเถอะเพราะที่พูดมาทั้งหมดได้กลายเป็นแค่อดีตไปแล้ว ตอนนี้ฉันกลายเป็นอิสระไม่ต้องแบกรับหน้าที่เฮดว๊ากอีกต่อไป เย้! “ว่าแต่แกไปหาเงินที่ไหนมาคืนฉันวะ ห้าหมื่นเลยนะ นี่แกคงไม่...” ไอ้สายตานั่นมันอะไรกันวะนั่น โป้ก! ฉันเขกหัวมันแรงๆ หนึ่งทีข้อหาที่กล้าใช้สายตาดูหมิ่นฉัน “ฉันรู้นะว่าแกคิดสกปรกอะไรอยู่” “ก็แหม มันน่าคิดนี่นาเพราะฉันมั่นใจว่าแกไม่มีทางแบมือขอเงินที่บ้านแน่นอน” ทำเป็นรู้ดี แต่ก็จริงของมันนั่นแหละ ใครจะไปกล้าแบมือขอเงินจากคนที่บ้านกัน พ่อฉันน่ะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่แม่ฉันนี่สิคงได้ถามแน่ว่าเอาเงินไปทำอะไรตั้งห้าหมื่น ซึ่งที่จริงฉันก็ไม่ได้เอาไปทำเรื่องไร้สาระนะ ก็แค่...เอาไปแต่งรถมอเตอร์ไซค์เอง “สรุปว่าไง มีเสี่ยเลี้ยงเหรอ” “เสี่ยบ้านป้าแกสิ ฉันก็แค่บังเอิญชนะพนันมา” “พนัน...นะ นี่แกอย่าบอกนะว่าไปลงสนามเถื่อนอีกแล้ว!” “ก็ใช่น่ะสิ ใครสั่งให้แกเป็นเจ้าหนี้หน้าเลือดล่ะ ฉันไม่รู้ว่าในอนาคตแกจะเอาเรื่องหนี้มาข่มขู่อะไรฉันอีก ดังนั้นฉันก็เลยรีบสะสางให้ไง” “ไอเชี้ยริน แกก็รู้เปล่าวะว่าที่นั่นมันนรกของพวกแข่งรถชัดๆ สนามนั่นไม่มีกฎนะเว้ย ใครๆ ก็รู้ว่ามันอันตราย” “แล้วไงล่ะ แกก็รู้ว่าฉันไม่กลัวอยู่แล้ว ไม่งั้นแกคิดว่าตัวเองจะได้เงินคืนเหรอ” “มันใช่ประเด็นที่ไหนเล่ายัยบ้า ขืนพ่อแม่แกรู้ว่าแกไปลงสนามเถื่อนเพราะต้องการหาเงินมาคืนฉัน พ่อแม่แกได้เฉือนคอฉันแน่” “ไม่เห็นต้องกลัวเพราะก่อนที่พวกเขาจะไปเฉือนแก ฉันนี่แหละจะถูกเฉือนก่อน” ไอ้ลอตเต้ทำหน้าสยดสยองจนฉันอดกลั้นหัวเราะไม่ได้ “เคยได้ยินไหม คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านสบาย แต่น่าเสียดายที่เราน่าจะตายก่อนได้กลับบ้าน ดังนั้นรูดซิปปากแกให้แน่นอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ให้พ่อแม่ฉันรู้เชียว” หึ ขู่แค่นี้มันก็ยอมหุบปากเงียบไม่บอกพ่อแม่ฉันแล้ว ลอตเต้น่ะกลัวพ่อแม่ฉันเสียยิ่งกว่าพ่อแม่ตัวเองอีก ฉันกับลอตเต้โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน ฉันกับมันเลยเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา แต่ก็มักโดนทักบ่อยๆ ว่าฉันควรเกิดมาเป็นผู้ชาย ส่วนลอตเต้ควรเป็นผู้หญิง ฉันเป็นคนไม่ชอบความสำอางทุกวันนี้แค่ตื่นมาทากันแดดพร้อมกับลิปสติกหนึ่งแท่งก็ออกจากบ้านได้แล้ว ไม่เหมือนไอ้คุณชายที่กว่าจะประทินโฉมเสร็จก็รอไปเกือบครึ่งชั่วโมง “แต่ฉันขอเตือนแกไว้หน่อยก็ดี อย่าไปที่นั่นอีกเลย” “หมายถึงไอ้สนามเถื่อนนั่นน่ะเหรอ” “อืม ฉันได้ข่าวมาว่าถ้าลงสนามแล้วก็ต้องแข่งให้จบไม่งั้นจะไม่ได้ออกมา” ก่อนฉันลงแข่งในสนามก็มีคนมาพูดแบบนี้กับฉันเหมือนกัน แต่มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดหรอกนะ เหมือนเป็นคำขู่เพื่อคัดกรองคนที่จะลงสนามมากกว่า ถ้าใจไม่กล้าพอก็ไม่มีใครกล้าลงหรอก เพราะสนามนี้มีแค่กฎเดียวคือต้องชนะ ไม่ว่าจะแลกมาด้วยวิธีไหนก็ตาม ก่อนหน้านี้ฉันเคยลงแข่งแค่สองครั้ง ซึ่งระดับในการแข่งขันเทียบชั้นกับพวกมือโปรไม่ได้เลยสักนิด ถ้าเทียบฉันเป็นเด็กอนุบาล พวกนั้นก็เด็กมหาลัยวัยซ่าเลยแหละ แข่งกันแต่ละทีมีคนเจ็บเป็นว่าเล่น ยังดีที่ไม่เคยมีคนตายไม่งั้นสนามนี้คงโดนสั่งปิดไปแล้ว (มั้ง) ที่มีมั้งเพราะไม่แน่ใจเหมือนกัน ได้ข่าวว่าเจ้าของสนามเส้นใหญ่ไม่งั้นคงเปิดสนามเถื่อนสร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเองไม่ได้หรอก ครั้งล่าสุดที่ไปลงแข่งฉันเจอคนบาดเจ็บสาหัสด้วย แต่ก็โชคดีที่วันนั้นมีหมอคนหนึ่งไปนั่งดูการแข่งขันพอดีจึงสามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน “ข้างหน้าเขาทำอะไรกันอะ ดูคึกคักเชียว” ฉันทอดสายตามองไปยังสุดทางเดินซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างคณะวิศวะและคณะแพทย์ แปลกนะที่สองคณะนี้อยู่ข้างกันได้ และเพราะอยู่ข้างกันฉันจึงมักเห็นเด็กวิศวะเป็นแฟนกับเด็กแพทย์อยู่บ่อยๆ “เหมือนที่คณะแพทย์จะมีคนดังมานะ” “เหรอ” ฉันพยายามเพ่งสายตามองกระทั่งเห็นคนที่กลายเป็นจุดสนใจของเด็กแพทย์เหล่านั้น แต่น่าเสียดายที่เห็นแค่แผ่นหลังของเขา ซึ่งดูจากมุมนี้แล้วเหมือนเขาจะไม่ใช่นักศึกษานะ จะว่าไปแค่เห็นจากด้านหลังไกลๆ ก็รู้แล้วว่าหล่อ ออร่าไม่ธรรมดาเลยแฮะ “ไอริน!” “อะไร!” จู่ๆ ไอ้ลอตเต้ก็ตะโกนขึ้นมาทำเอาฉันตกใจหมด “แม่” “ฮะ?” “วิชาแม่แกไง ไอ้เชี้ยเอ้ยวันนี้เข้าสายไม่ได้นะเว้ยรีบไปเลย” ชะ ชะ เชี้ย!! ลืมไปเสียสนิทเลยว่าวันนี้มีวิชาของยัยป้าตัวตึงคณะ ขืนไปสายกว่าป้าแกได้โดนเรียกออกไปหน้าห้องอีกแน่ เผลอๆ อาจจะได้ยืนทั้งคาบ บ้าจริง! ทั้งฉันและลอตเต้ต่างรีบวิ่งกุลีกุจอขึ้นมาบนอาคารเรียนแปดสิบปีของคณะวิศวะ ซึ่งเป็นอาคารเรียนหลักของพวกเราเอง พอมาถึงห้องเรียนก็รีบผลักประตูเข้าไป ซึ่งก็โชคดีที่ป้าแกยังไม่เข้าห้อง ฮู้ว รอดหวุดหวิดเลยว่ะ ที่พูดแบบนี้เพราะนั่งได้ไม่ถึงห้าวินาทียัยป้าที่ฉันว่าก็เดินเข้ามาในห้องพอดี “วันนี้ป้าแกดูอารมณ์ดีนะว่าไหม” ลอตเต้หันมากระซิบฉัน “เออจริงด้วย วันนี้ป้าแกยิ้มแปลว่าเราโชคดี” ถ้าวันไหนเข้ามาแล้วทำหน้าบึ้ง ก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าวันนั้นจะมีการสอบเก็บคะแนนอันแสนหฤโหดเกิดขึ้น เรียกได้ว่าป้าแกชอบเทสนักศึกษาตามอารมณ์ไม่เน้นบอกล่วงหน้า แกชอบกำชับว่า ‘ถ้าพวกเธอตั้งใจเรียนยังไงก็ทำข้อสอบได้ ฉันไม่ได้หยิบยกแม่น้ำทั้งห้ามาสอบพวกเธอ แต่ถ้าใครว่อกแว่กไม่สนใจก็เชิญเอาไข่ต้มไปกิน’ เพราะแบบนี้ไงพวกฉันเลยไม่กล้าขาดวิชาป้าแก เพราะไม่รู้ป้าแกจะสอบเก็บคะแนนตอนไหน ถ้าไม่เข้าก็จะไม่อนุญาตให้สอบย้อนหลังด้วย เว้นก็แต่มีเรื่องสำคัญให้ต้องลาจริงๆ ถ้าไม่มีหลักฐานมายื่นก็จบเห่ “นี่ๆ รู้ไหมว่าวันนี้ที่คณะแพทย์มีอะไร ฉันเห็นเด็กคณะนั้นเอะอะโวยวายกันใหญ่เลย” ฉันเงี่ยหูฟังพวกสาวๆ ด้านหลังกระซิบกัน ซึ่งก็ยอมรับแหละว่าขี้เสือก “เหมือนจะมีอาจารย์จากข้างนอกเข้ามาบรรยายนะ น่าจะเป็นคนมีชื่อเสียงล่ะมั้ง” “ต้องเป็นอาจารย์หมอที่หล่อขนาดไหนเชียวนะ นักศึกษาถึงได้ทำตัวเป็นผึ้งตอมน้ำหวานขนาดนั้น” “อยากรู้ก็ไปดูกันไหมล่ะ ได้ข่าวว่าช่วงบ่ายเขาก็มีบรรยายนะ” “ไม่เอาหรอก ฉันขี้เกียจไปนั่งแช่ในห้องแอร์กับพวกเด็กแพทย์พวกนั้น เอาเวลาว่างไปนอนเล่นที่ห้องดีกว่า” พอเริ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนาฉันก็เลิกสนใจ ที่แท้คนที่พวกเด็กแพทย์กรี๊ดกร๊าดกันก็เป็นอาจารย์หมอนี่เองนึกว่าดาราที่ไหนเสียอีก

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

30 Days to Freedom: Abandoned Luna is Secret Shadow King

read
304.0K
bc

Too Late for Regret

read
252.5K
bc

Just One Kiss, before divorcing me

read
1.6M
bc

Alpha's Regret: the Luna is Secret Heiress!

read
1.2M
bc

The Warrior's Broken Mate

read
133.3K
bc

The Lost Pack

read
354.5K
bc

Revenge, served in a black dress

read
138.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook