กระแทกกายแรงๆ ลงบนเตียงกว้างเพราะโมโห สรุปธุระที่คลื่นว่าคือการลากเธอไปซื้อกระโปงนักศึกษาตัวใหม่ หมอนี่ประสาทกลับหรืออย่างไร ทีตัวเองล่ะชอบมองนักผู้หญิงแหวกนู้นโชว์นี่!
ควงแต่ละคนเห็นทั้งสวย เอ็กซ์ อึ๋ม!
แต่พอมากับเธอ ทำไมถึงขนาดห้ามอยากกันซีนใช่มั้ย!
‘ตัวนี้ครับ’ เขายื่นกระโปงพลีทยาวคุมเข่าให้ป้าแม่ค้า ตัดสินใจพร้อมจ่ายเงินแทนเธอทุกอย่าง
‘แต่ฉันไม่ชอบนี่ ขอตัวนี้แทนค่ะป้า’ ร่างเล็กเถียงสู้จนชายหนุ่มค้อนขวับทันควัน
‘เอาตัวนี้ครับ คิดเงินเลย’ สุดท้ายแล้วทุกอย่างจบลงตรงที่ว่าน้ำค้างต้องยอมคลื่นอยู่ดี ก็หมอนี่ดันขู่เธอถ้าว่าซื้อตัวอื่นเขาจะเอาไปเผาทิ้งจริงๆ
จะเผาซ้ำๆ จนกว่าน้ำค้างจะยอมเปลี่ยน!
เหอะ!
ก๊อก! ก๊อก!
“น้ำค้างลูก” เสียงเคาะประตูพร้อมกับเรียกชื่อปลุกร่างบางให้ตื่นจากภวังค์ความโกรธเคือง น้ำค้างเบี่ยงปลายเท้าเร่งรีบเพราะรู้ดีว่าเจ้าของเสียงนั่นคือใคร…
ภาพตรงหน้าปรากฏร่างท้วมของเนื้อนวล มารดาที่เธอรัก
“ว่าไงคะแม่ เดี๋ยวน้ำค้างเปลี่ยนเสื้อเสร็จรีบไปช่วยในครัวนะคะ”
“ไม่ต้องรีบหรอกลูก วันนี้คุณท่านทั้งสองไม่อยู่ส่วนคุณคลื่นเห็นว่ามีนัดกับแก๊งเพื่อนไม่ทานข้าวเย็น”
“งั้นเหรอคะ” หญิงสาวนิ่งไปสักพักแก๊งเพื่อนที่ว่าคงไม่พ้นการชวนไปก๊งเหล้าเคล้านารีอีกตามเคย
คุณท่านทั้งสองคือคุณ ‘นาวิทย์’ และ ‘คุณวารี’ บิดาและมารดาของคลื่น พวกท่านเป็นนักธุรกิจเวลาส่วนมากมักจะตระเวนดูงานนานๆ ทีเท่านั้นถึงจะกลับมาคฤหาสน์หลังงาม
คลื่นจึงอยู่กับเนื้อนวลและน้ำค้างตั้งแต่เด็ก เขาผูกพันธ์กับสองแม่ลูกคู่นี้มาก…
“จ้ะ ยังไงหนูอาบน้ำแล้วถ้าหิวก็ไปหาอะไรทานในครัวนะ”
“ค่ะแม่” น้ำค้างพยักหน้ารับคำ เธอโถกายกอดร่างท้วมของมารดาชั่วครู่
“ขี้อ้อนจริงเด็กคนนี้”
“เดี๋ยวหนูตามไปนะคะ”
ฟอด!
หอมแก้มซ้ายขวาของเนื้อนวลอย่างเหม่อลอย แท้จริงในใจคิดไปไกลว่าคืนนี้…
คลื่นกำลังจะควงคู่ใครอีกคนพร้อมไปสนุกอีกตามเคย!
นี่สินะเวรกรรมของการแอบรักเขาข้างเดียว ชินชากับมันเถอะน้ำค้างตราบใดที่ยังไม่ตัดใจจากเขา ชีวิตเธอต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวังวนแห่งรักอันเจ็บปวดเหล่านี้!
@DC Pub
ดนตรีผสมผสานกับบีทดังกระหึ่มก้องทั่วผับหรูย่านทองใจกลางเมืองหลวง เหล่าหมู่มวลผีเสื้อราตรีต่างพากันแหวกว่ายย่างกายเต้นอย่างสนุกสนานกับเสียงเพลง
ริมฝีปากหยักของชายหนุ่มจิบค็อกเทลพลางนั่งไขว้ห้างอย่างอารมณ์ดี ข้างกายเขามีสาวสวยในชุดเดรสสั้นสีดำวิบวับคอยพะเน้าเอาใจป้อนเครื่องดื่มไม่หยุดหย่อน
“อารมณ์ดีนะมึง” ก้องภพเอ่ยแซวเพื่อนสนิทก่อนชนแก้วเป็นเชิงว่ารู้กัน
“มีเรื่องอะไรที่กูสมควรรู้หรือเปล่าวะ”
“เปล่า กูเฉยๆนะ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ” เขาแค่นยิ้มตอบกลับไม่ปรากฏความรู้สึกใดๆ
“หน้ามึงเหมือนคนคลั่งรักอะ”
“คลั่งรักเหี้ยอะไร” เลิกสายตามองไปยังสาวสวยข้างกาย เพราะหล่อนแสดงสีหน้าไม่พอใจชั่วขณะ
“คลื่นคลั่งรักเหรอคะ?” อันนาหญิงสาวรุ่นพี่สาวต่างมหาวิทยาลัยเอ่ยขัดจังหวะ
“เปล่า ไอ้ก้องมันเพ้อเจ้อ”
“ดีแล้วค่ะ อันนึกว่าคลื่นไปคลั่งรักใครที่ไหน” หล่อนส่งสายตายั่วยวนก่อนเลื่อนนิ้วเรียวสวยไต่แผ่นอกแกร่งผ่านเนื้อผ้า
“เดี๋ยวคืนนี้ผมโทรหาอันนะ อีกสักพักรุ่นพี่จะมาขอคุยธุระกับเขาก่อน”
“แต่อัน…”
“นะครับ เด็กดี”
“ก็ได้ค่ะ” หล่อนพยักหน้าเข้าใจก่อนเดินจากไปทันที
“ไอ้เหี้ยเจ๋งว่ะ อ้อนหญิงเก่งสัสมีเด็กดงเด็กดี”
“ไม่เสือก” คลื่นยักไหล่ไม่สนใจ เขาเมินคำพูดหยอกเย้าของก้องภพเป็นเพียงแค่เศษฝุ่น
“แล้วไหนล่ะรุ่นพี่มึง”
“เดี๋ยวก็มาแล้ว พวกพี่เหนือ พี่กิต พี่เสือรุ่นพี่คณะเราทั้งนั้นแหละมึง พี่แกเป็นเฮ้ดว้ากกูสนิทด้วยเลยพามึงมาทำความรู้จัก”
“อืม”
“นั่นไงมาพอดี” มองตรงไปยังตำแหน่งตามสายตาเพื่อนสนิท รุ่นพี่หนุ่มทั้งสามที่มันว่าหน้าตาดี แต่งตัวดี จึงไม่แปลกที่จะเรียกสายตาจากผู้คนในร้านไม่เว้นแม้แต่คลื่น
“ทางนี้เฮีย!” ก้องภพโบกไม้โบกมือเพื่อเป็นสัญญาณให้พวกเขาได้รับรู้
“เออกูเห็นแล้ว” รุ่นพี่ร่วมคณะเดินเข้ามาพลางหย่อนกายนั่งลงในเวลาใกล้เคียงกัน พวกเขาเรียกพนักงานแล้วสั่งเครื่องดื่มเพิ่มอย่างชำนาญ ใช้เวลาเพียงชั่วครู่แก้วเหล้าต่างๆ ก็อยู่ในมือเสียแล้ว
“วันนี้ไม่เห็นมึงเลยนะไอ้ก้อง หายหัวไปไหน”
“โถ่เฮียกิต วันแรกหน่าตอนพี่ปีหนึ่งผมรู้นะว่าแอบโดด”
“เอ็งนี่!”
“แนะนำให้รู้จักก่อนนี่ไอ้คลื่นเพื่อนผม ส่วนพวกพี่ผมแนะนำให้มันรู้จักแล้ว”
“สวัสดีครับ” คลื่นยิ้มแผ่วเบาให้กับรุ่นพี่ตรงหน้าทุกคน
“หวัดดีน้อง เพื่อนไอ้ก้องเหรออย่าอยู่ใกล้ไอ้นี่มากนะมันร้ายเดี๋ยวจะพาเราเสียคน”
“เฮียเหนือ! ไอ้คลื่นร้ายกว่าผมอีก” ก้องภพโวยวายพร้อมทำหน้ามุ่ยคล้ายกำลังงอน
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น มึงไม่ใช่หญิงกูไม่ง้อค้าบ”
“อะมา ชนนนน!” คลื่นหัวเราะในลำคอก่อนยกแก้วเหล้าตามเสียงยาวๆ ของรุ่นพี่อย่างไม่ถือตัว
“เออว่าแต่ทำไมเด็กปีนี้แจ๋มๆ จังวะ รุ่นเอ็งโครตน่ารักจริงไหมไอ้เสือ” เหนือแกล้งโบ้ยถามเพื่อนอีกคนที่เอาแต่เก๊กเงียบขรึมเพื่อสร้างความผ่อนคลาย
“ไอ้เหนือ!”
“ใครเหรอพี่ เฮียเสือเล็งใคร?” ด้วยความรู้อยากเห็นก้องภพจึงโพล่งถามด้วยรู้ว่ารุ่นพี่เขาต้องตอบเป็นแน่ ส่วนคลื่นนั้นไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักเพราะไม่ใช่เรื่องของตนเอง
“ชื่ออะไรแล้ววะ เดี๋ยวกูให้ดูรูปโครตน่ารัก”
“มึงนี่นะ ไปกระตุกหนวดไอ้เสือมันคนนี้เพื่อนจองแล้วจำไม่ได้เหรอ”
“ใครอะ เฉลยให้ไวค้าบเฮียเสือ”
“…น้ำค้าง” เสือนิ่งไปชั่วครู่ก่อนตัดสินใจเอ่ยชื่อหญิงสาวที่หมายตาออกไป
“เห้ย! น้ำค้าง!” ทันทีที่ได้ยินชื่อผู้หญิงคนนั้นนัยน์เหม่อลอยของคลื่นนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเข้มจัดจนน่าตกใจ
“เพื่อนผมนี่”
“อ่าวเหรอ คนนั้นแหละไอ้เสือชอบ มันบอกโครตน่ารักเนี่ยได้ไลน์มาแล้วนะเว้ย มันแกล้งชวนน้องไปประกวดดาวเดือนบังหน้า”
“ไอ้…”
“บุ๋มไปขอมาน้องตอบตกลงประกวดแล้วด้วย” คลื่นบีบแก้วในมือจนแทบแหลกละเอียดกักเก็บความโกรธเคืองไว้สุดฤทธิ์
ใจร้อนระอุไปหมด เรื่องรุ่นพี่ขอไลน์ เรื่องประกวดดาวเดือนน้ำค้างมีเวลาจะบอก แต่ทำไมเธอถึงเงียบไม่พูดเรื่องนี้สักคำ!
“มึงบอกว่าน้ำค้างเพื่อนมึง น้องชอบผู้ชายแบบไหนวะพอรู้ไหม เพื่อนกูจะได้เอาใจถูก”
“เฮียเรื่องน้ำค้างต้องถามไอ้คลื่น มันรู้ดี”
“เราสนิทกับน้ำค้างเหรอ”
“ครับ สนิทมาก” คลื่นยิ้มยอมรับ “ผมกับน้ำค้างเราอยู่ด้วยกัน”
“อยู่ด้วยกัน! นี่มึงเป็นแฟนน้องเขาเหรอ!”
“บ้าเฮียน้ำค้างยังโสด แม่มันทำงานที่บ้านไอ้คลื่นสองคนนี้เลยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนกัน” ก้องแก้ต่างแทนเพื่อนโดยไม่สังเกตสีหน้าของคลื่นสักนิด
ใบหน้าหล่อเหลาไม่ทุกข์ร้อนด้วยซ้ำถ้าหากใครต่อใครจะเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองกับน้ำค้าง!
คลื่นอยากประกาศกร้าวเสียด้วยซ้ำว่า…
อย่ามายุ่งกับเพื่อนกู!
“โอ๊ยกูโล่งแทนไอ้เสือ นึกว่าเพื่อนจะนกตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำคะแนนซะแล้ว”
“ว่าแต่ไอ้น้ำมันยอมประกวดเหรอเฮีย ปกติมันไม่ชอบอะไรวุ่นวายนะ”
“ยอมสิวะ น้องใจดีจะตายมึงยิ้มทีพวกงี้แทบละลาย”
เพล้ง!
ยังไม่ทันจบบทสนทนาแก้วใสในมือคลื่นก็ร่วงลงสู่พื้นราวกับตั้งใจ ชายหนุ่มหยัดกายลุกขึ้นด้วยโทสะคละคลุ้งอยู่ภายใน
“ขอตัวก่อนนะครับ ไอ้ก้องกูไปก่อนนะ” สายตาคมกริบแผ่รังสีอำมหิตทั่วบริเวณโต๊ะกว้าง คลื่นพูดจบก่อนผละกายออกห่างจากวงล้อมรุ่นพี่หนุ่มทันที
“เพื่อนมึงนี้แปลกๆ เล่นเอาซะกูเสียวสันหลังวาบ” มีเพียงเสือเท่านั้นที่มองตามร่างสูงของรุ่นน้องร่วมคณะไป
การกระทำและสายตาแบบนี้พวกผู้ชายเขารู้กัน!
เพราะมันเหมือนกับเป็นการประกาศไปในตัวว่า…
คนนี้ของกู!
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูหนักๆ ทำให้ร่างบางซึ่งหลับไปตั้งแต่ช่วงค่ำรู้สึกตัว น้ำค้างบิดกายคลายความขี้เกียจชั่วครู่หากเสียงประตูก็ยังคงรัวกระหน่ำราวกับกลองชุด
ก๊อก! ก๊อก!
ใครมาเรียกเธอเวลานี้ มองดูนาฬิกาใกล้เที่ยงคืนกว่าแล้ว หรือเป็นมารดาท่านมีเรื่องด่วนอะไร!
คิดได้ดังนั้นก็หน้าตั้งรีบวิ่งตรงไปยังประตูกว้างโดยไม่ตรวจดูความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกาย รู้สึกตัวอีกทีร่างเล็กในชุดนอนแสนบางวิวก็ปรากฏต่อหน้าชายหนุ่มที่เธอไม่อยากพบมากเจอที่สุดในโลก!
“คลื่น ทำบ้าอะไร!” อยู่ดีๆ เขาก็แทรกตัวเข้ามาก่อนปิดประตูเสียงดังไม่ไถ่ถามความสมัครใจกันสักนิด
ปัง!
“นายจะทำอะไร!” ความหวาดกลัวแล่นเข้าสู่ใจดวงน้อยฉับพลันเพราะเพื่อนสนิทตรงหน้า ไม่ใช่ชายคนเดิมที่คุ้นเคย นัยน์ตาคมกริบจ้องราวกับต้องการแผดเผาให้น้ำค้างตายทั้งเป็น ไหนจะแก้มแดงซ่าที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาดื่มหนักมาพอสมควร
“ทำอะไรงั้นเหรอน้ำค้าง เธอปิดบังฉันทำไม!”
“ปิดบัง…ปิดบังอะไรของนาย” ขมวดคิ้วหมุ่นไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเลยสักคำ ปกติคลื่นใจร้อนอยู่แล้วแต่เวลานี้ดูเขาร้อนรนเป็นพิเศษ
นี่มันเรื่องบ้าอะไร!
“เหอะ เงียบเก่งดีนะไม่รู้งั้นเหรอ?” เขาฉวยโอกาสคว้าข้อมือเล็กก่อนกระชากร่างบางให้จมอยู่ในแผ่นอกกว้าง น้ำหอมเยือกเย็นผสนผสานกับกลิ่นเหล้าแตะจมูกโด่งรั้นทำให้หญิงสาวขนลุกซู่
“ทำไมต้องปิดบัง ทำไมต้องโกหกฉันเรื่องไอ้รุ่นพี่เวรนั่นวะน้ำค้าง!”
“รุ่นพี่ไหนของนาย นายพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วนะคลื่น ถ้าเมาฉันไม่คุย!”
“รุ่นพี่ไหนงั้นเหรอ ก็ไอ้ตัวไหนล่ะที่เธอเต็มใจให้ไลน์ไป!”
“คลื่น!”
“ทำไมจะมีแฟนทั้งทีบอกเพื่อนไม่ได้เลย โกหกฉันทำไมน้ำค้าง” ยิ่งขืนกายออกห่างอารมณ์กรุ่นโกรธของเขายิ่งประทุ ชายหนุ่มเบียดร่างบางชิดกำแพง
“…”
“ฉันยินดีกับเธออยู่แล้ว!”
การกระทำของคลื่นเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับไล่ต้อนให้น้ำค้างพ่ายแพ้โดยดุษฎี
“นายมันบ้าไปแล้ว” หญิงสาวดีดดิ้นขัดขืนความหยาบคาย นัยน์ตาสั่นไหวปะปนไปด้วยความผิดหวัง
“เออใช่ฉันมันบ้า!”
“…”
“เพราะฉัน…”
“…” เหมือนกับโลกหยุดหมุนลงฉับพลัน ทั้งคู่สบตากันแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น แต่ไร้ซึ่งคำตอบจากคำถาม…
กลายเป็นความเงียบสงัดเข้ามาทดแทน
“โถ่โว้ย!” สุดท้ายก็เป็นร่างสูงเองที่พ่ายแพ้ให้หญิงสาวจนหมดสภาพ คลื่นเตะถังขยะใบเล็กด้วยความรู้สึกตีรวนเต็มไปหมด…
สับสน ว้าวุ่นใจ…
ไม่แตกต่างกับน้ำค้าง หญิงสาวทำได้เพียงแค่มองเพื่อนชายสนิทเดินจากเธอไป หลงเหลือไว้แค่ร่องรอยแห่งความเจ็บปวดใจที่คอยกัดกินตนเองอยู่ทุกวัน
ต้องทนให้เขาทำแบบนี้ถึงเมื่อไหร่กัน!
เจ็บปวดพอหรือยัง ให้คนที่ไม่รู้สึกอะไรกับตัวเองด้วยซ้ำล้อเล่นกับหัวใจยังไงก็ได้…